ซัดกันนัว!! ชมรมผอ.เขตฯ จี้ รองปลัดฯ ประเสริฐ พูดให้ชัด ‘ใครทุจริต’ วิ่งเต้น-เรียกเงิน

กรณีนายประเสริฐ บุญเรือง รองปลัดกระทรวงศึกษาธิการ(ศธ.) และกรรมการในคณะกรรมการขับเคลื่อนการปฏิรูปการศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการในภูมิภาค ได้ประชุมสำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ “ศึกษาธิการ 1 ปี ปฏิรูปการศึกษา เดินหน้าอย่างมั่นคง” โดยมีศึกษาธิการภาค รองศึกษาธิการภาค ศึกษาธิการจังหวัด และบุคลากรของสำนักงานศึกษาธิการจังหวัด เข้าร่วมเมื่อวันที่ 29 มิถุนายน ณ ห้องภาณุรังสี โรงแรมรอยัลริเวอร์ กรุงเทพมหานคร

โดยตอนหนึ่งนายประเสริฐ กล่าวว่า ตั้งแต่มีศึกษาธิการจังหวัด (ศธจ.) เรื่องทุจริตหายไป ไม่ว่าจะเป็น การเรียกรับเงินสองขั้นสามหมื่นบาท ค่าวิทยฐานะหนึ่งแสนสองหมื่นบาท ย้ายครั้งละ 50,000-100,000บาท เรื่องดังกล่าวหมดไปจากประเทศไทย เรื่องทุจริตหายไปจากระบบการบริหารบุคคลของศธ. วันนี้ ศธจ.มีความจำเป็นอย่างสูง เนื่องจากช่วยคานอำนาจกับผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา(ผอ.สพท.) นั้น

เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน ชมรมผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาแห่งประเทศไทย ได้ออกแถลงการณ์ เรื่องการยื่นข้อเสนอแก้ไขคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 19/2560 เรื่องการปฏิรูปการศึกษาในภูมิภาคของกระทรวงศึกษาธิการ ใจความตอนหนึ่งระบุว่า

“ท่านประเสริฐ บุญเรือง รองปลัดศธ. และเป็นคณะกรรมการขับเคลื่อนการปฎิรูปการศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการในภูมิภาค ได้พูดพาดพิงถึงชมรมผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาแห่งประเทศไทย ความว่า “หัวหน้าหน่วยงานที่ออกมาร้องขอให้ยุบ ขอคืนอำนาจ ให้สันนิษฐานและจับตามองไว้เป็นเบื้องต้นเลยว่าน่าจะมีพฤติกรรมส่อแววคิดประพฤติมิชอบ หาผลประโยชน์ ”

Advertisement

ซึ่งความหมายของ “หัวหน้าหน่วยงาน” ตามที่ท่านประเสริฐ บุญเรือง กล่าวถึงนั้น ผู้รับฟังในห้องประชุมหรือบุคคลที่เกี่ยวข้องทั่วไป ต่างก็รับรู้และมีความเข้าใจว่า คือผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ซึ่งเป็นสมาชิกของชมรมฯ การเป็นข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ที่รับผิดชอบเรื่องการขับเคลื่อนการปฏิรูปการศึกษา ได้แสดงความคิดเห็นดังกล่าวนี้ โดยใช้เพียงข้อสันนิษฐาน ที่ไม่มีหลักความจริง และความเป็นเหตุเป็นผล ไม่ยอมรับฟังความจริงข้อจำกัดและปัญหาที่เกิดขึ้นจากการใช้คำสั่งหัวหน้า คสช.ที่ 19/2560 ใน 1 ปีเศษที่ผ่านมา จึงเป็นเพียงการสร้างวาทะกรรมให้สังคมเข้าใจผิด โดยมีเจตนาที่ไม่สุจริตใจ ซ่อนเร้น แอบแฝง มุ่งร้าย ให้สังคมมีความเชื่อว่า เหตุผลที่ชมรมผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาแห่งประเทศไทยเรียกร้องขอให้ผู้มีอำนาจแก้ไขคำสั่งดังกล่าวนั้น ก็เพื่อมุ่งหวังจะประพฤติมิชอบแสวงหาผลประโยชน์จากการเรียกร้องในครั้งนี้

นอกจากนั้น ท่านประเสริฐ บุญเรือง ยังได้พูดถึงเรื่องการทุจริตว่า ตั้งแต่มีศึกษาธิการจังหวัด ไม่มีการทุจริตในเรื่องการพิจารณาความดีความชอบที่ต้องจ่ายให้ผู้มีอำนาจสามหมื่นบาท เรื่องวิทยฐานะต้องจ่ายหนึ่งแสนสองหมื่นบาท และเรื่องย้ายรายละห้าหมื่นถึงหนึ่งแสนบาท ท่านประเสริฐ บุญเรือง เคยเป็นประธาน อกศจ.บางเขตพื้นที่อยู่หลายสมัย อาจทราบหรือรู้เห็นกับสิ่งที่ท่านได้พูดในที่ประชุม ซึ่งอาจจะมีข้อเท็จจริงอยู่บ้างกับผู้เกี่ยวข้องบางราย หรือบางเขตพื้นที่ ซึ่งเป็นส่วนน้อย แต่ในฐานะที่เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐเมื่อรู้เห็นว่ามีใครทุจริตประพฤติมิชอบในระบบราชการในเรื่องดังกล่าวนี้ ทำไมไม่แจ้งความกล่าวโทษกับบุคคลนั้น เพื่อลงโทษตามกฎหมาย

การประชุมในวันที่ 29 มิถุนายน ที่ผ่านมา เป็นการพูดที่มุ่งร้ายให้กับองค์กรวิชาชีพผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาโดยตรง ซึ่งถ้ามีเจตนาที่สุจริตโดยมิได้มีอะไรแอบแฝง จะต้องพูดจำเพาะเจาะจงลงไปว่า ใคร เขตพื้นที่ไหน ที่มีพฤติกรรมที่น่ารังเกียจนั้นให้ชัดเจน ไม่ใช่พูดให้บุคคลอื่นเข้าใจว่าการพิจารณาความดีความชอบต้องจ่ายสามหมื่นบาท ขอมีหรือขอเลื่อนวิทยฐานะต้องจ่ายหนึ่งแสนสองหมื่นบาท และการย้ายต้องจ่ายรายละห้าหมื่นถึงหนึ่งแสนบาท ให้กับผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาฯ เพราะก่อนมีศึกษาธิการจังหวัดเกิดขึ้น ที่ท่านประเสริฐ บุญเรือง ได้พูดถึงเรื่องทุจริตคอรัปชั่น ก็มีผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาเป็นผู้รับผิดชอบ ซึ่งหมายถึงผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาทุกเขตพื้นที่ ทำให้ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาทั้งในปัจจุบันและอดีตที่เกษียณอายุราชการไปแล้ว รวมทั้งท่านศึกษาธิการจังหวัดในปัจจุบันที่มีมากกว่าร้อยละแปดสิบก็เคยดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามาก่อนเช่นเดียวกัน ต่างก็ถูกสังคมมองว่าเป็นผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในการทุจริตดังกล่าว จึงได้รับความเสียหาย ถูกดูหมิ่น ดูแคลนจากบุคคลอื่น

Advertisement

ดังนั้น ชมรมผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาแห่งประเทศไทย ในฐานะองค์กรตามมาตรา 42 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2560 จึงขอปกป้องสมาชิกตามวัตถุประสงค์ของชมรม เรียกร้องให้ท่านประเสริฐ บุญเรือง ได้แสดงความรับผิดชอบดังนี้

1.ระบุให้ชัดเจนว่า ใครที่เรียกรับผลประโยชน์จากการรับเงินความชอบสามหมื่นบาท ใครเป็นผู้รับเงินค่าวิทยฐานะจำนวนหนึ่งแสนสองหมื่นบาท และใครเป็นผู้รับเงินการย้ายรายละห้าหมื่นถึงหนึ่งแสนบาท ทั้งนี้เพื่อไม่ให้กระทบกับองค์กรวิชาชีพผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ที่ยังเป็นองค์กรสร้างระบบธรรมาภิบาล ป้องกันและปราบปรามการประพฤติมิชอบในระบบราชการไม่ด้อยไปกว่าองค์กรใด

2.ขอให้ท่านได้โปรดพิจารณาปรับบทบาทของการทำงานด้านการขับเคลื่อนการปฏิรูปการศึกษาในภูมิภาคของกระทรวงศึกษาธิการ โดยให้เน้นการประสานงานกับทุกฝ่ายให้เกิดการยอมรับ ให้เกียรติ และสร้างความไว้วางใจ ทั้งนี้ต้องไม่สร้างความหวาดกลัว หวาดระแวง และลำบากใจให้กับผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ซึ่งเป็นกลไกสำคัญของการขับเคลื่อนการปฏิรูปการศึกษาในภูมิภาคของกระทรวงศึกษาธิการ ที่จะทำงานในพื้นที่ร่วมกับศึกษาธิการจังหวัด ถ้าไม่เช่นนั้นแล้วจะขับเคลื่อนการปฎิรูปการศึกษาในภูมิภาคของกระทรวงศึกษาธิการได้มีประสิทธิภาพได้อย่างไร

อ่านเพิ่มเติม :เดือด!! เปิดคลิป รองปลัดฯ ‘ประเสริฐ’ แฉวิ่งเต้น-แลกขั้นหลัก ‘หมื่น-แสน’ หายไป หลังมี ‘ศธจ.’ (คลิป)

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image