ส.ค.ศ.ท.ร่อนหนังสือถึง ‘หมอธี’ เสนอปัญหาผลิตครู จี้ยกเลิกหลักสูตรป.บัณฑิต ช่องหารายได้มหา’ลัย

เมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม นางประพันธ์ศิริ สุเสารัจ คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ (มศว) ในฐานะประธานสภาคณบดีคณะครุศาสตร์/ศึกษาศาสตร์แห่งประเทศไทย (ส.ค.ศ.ท.) เปิดเผยว่า ในการประชุม ส.ค.ศ.ท .เมื่อเร็วๆ นี้ ได้หารือเกี่ยวกับการผลิตและสอบบรรจุครูผู้ช่วย และเห็นตรงกันว่าการดำเนินการที่ผ่านมาพบว่ามีปัญหาบางประการที่จะต้องมีการแก้ไขและปรับปรุงโดยเร่งด่วนจึงจะสามารถพัฒนาคุณภาพครูได้อย่างแท้จริง และปัญหาเหล่านั้นยากที่หน่วยงานต่างๆ จะสามารถทำการแก้ไขปรับปรุงได้เพียงลำพัง จำเป็นจะต้องมีการบูรณาการความคิดและการทำงานร่วมกัน ส.ค.ศ.ท. จึงมีมติทำหนังสือเปิดผนึกถึงนพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ. และผู้เกี่ยวข้อง เพื่อเสนอปัญหาและข้อเสนอแนะเกี่ยวกับการผลิตครูและการสอบบรรจุครูผู้ช่วย ดังนี้ ส.ค.ศ.ท.เห็นด้วยการเปิดโอกาสให้บุคคลที่ไม่ได้เรียนครูมาสอบบรรจุเป็นครูผู้ช่วยได้ในสาขาขาดแคลน แต่การกำหนดข้อมูล จำนวนครูสาขาขาดแคลนต้องสอบถามข้อมูลจาก ส.ค.ศ.ท.ด้วย เนื่องจากเป็นสถาบันผู้ผลิตที่มีข้อมูลจำนวนตัวเลขการผลิตแน่นอน แต่ที่ผ่านมาการกำหนดสาขาขาดแคลนเป็นเพียงข้ออ้างและไม่สอดคล้องกับข้อเท็จจริงหลายสาขา เช่น อุตสาหกรรมศิลป์ วิศวกรรมไฟฟ้า ช่างโลหะ จัดการงานก่อสร้าง ดนตรี ดนตรีไทย เป็นต้น  สาเหตุที่ไม่มีคนไปสมัครสอบ เนื่องจากการเปิดสอบเองโดยจังหวัดหรือเขตพื้นที่ บัณฑิตครูต้องเดินสายไปสอบทั่วทุกที่ในหลายๆ จังหวัด เพราะสิ้นเปลืองค่าใช้จ่าย และเกรงว่าจะมีคนอยู่แล้ว  จึงข้อเสนอแนะ ส่วนกลางควรจัดสอบกลางทั้งหมดเพื่อมีบัญชีเดียว และกระจายบรรจุให้กับทุกจังหวัด หรือจัดสอบภาค ก. ก่อนเมื่อทราบผลการสอบภาค ก.แล้วจึงค่อยส่งไปสอบภาค ข และ ค. ที่จังหวัดตนเอง จุดเพื่ออำนวยความสะดวกและประหยัดค่าใช้จ่ายของผู้สมัคร

นางประพันธ์ศิริกล่าวต่อว่า นอกจากนี้ หลายสาขาที่กำหนดว่าเป็นสาขาขาดแคลนนั้น ไม่ใช่สาขาวิชาชีพครู ไม่เกี่ยวข้องกับบทบาทหน้าที่ของครูในโรงเรียน อาทิ สาขาการเงิน บัญชี พัสดุ ธุรกิจการเงิน กายภาพบำบัด กิจกรรมบำบัด จิตวิทยาคลินิก พยาบาล เป็นต้นอีกทั้งไม่ใช่สาระการเรียนรู้ในหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน บุคคลเหล่านี้จึงไม่สามารถทำหน้าที่สอนหรือทำหน้าที่หลักของการเป็นครูในสถานศึกษาขั้นพื้นฐานได้ จึงมีข้อเสนอแนะสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน( สพฐ.) อาจอนุญาตให้โรงเรียนรับบุคคลเหล่านี้ เข้ามาทำหน้าที่บุคลากรสายสนับสนุนในตำแหน่งที่โรงเรียนมีความต้องการ จำเป็นได้ แต่ต้องไม่ใช่ตำแหน่งครู และไม่สามารถขอรับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครูได้ นอกจากนี้ ต้องสร้างความรู้ ความเข้าใจและปรับเปลี่ยนทัศนคติที่ถูกต้องต่อวิชาชีพครู ควรยกเลิกหลักสูตร ป.บัณฑิตได้แล้ว เพราะได้มีการแก้ปัญหาให้สำเร็จลงได้แล้ว แต่ปัจจุบันยังมีการรับครูที่ไม่มีวุฒิครูเข้ามาเป็นครูในโรงเรียนเรื่อยๆ ไม่จบสิ้น ทำให้หลักสูตร ป.บัณฑิตยังคงมีการเปิดสอนในสถานศึกษา ลุกลามไปคณะวิชาใหม่ๆ ในสถาบันอุดมศึกษาทั้งของรัฐและเอกชน ถือเป็นการสร้างรายได้หลักให้กับบางมหาวิทยาลัยทำธุรกิจทางการศึกษาโดยไม่คำนึงถึงคุณภาพ

“ส่วนปัญหาการสอบบรรจุผู้ช่วยเกิดจากการขาดความแน่นอน ชัดเจนในเชิงนโยบาย และการบริหารจัดการให้ครูที่มีคุณภาพให้เข้ามาสู่ระบบ มีการใช้ระบบเส้นสาย เอาพรรคพวก เด็กฝากมาเป็นครู รวมทั้งการทุจริตคอร์รัปชั่นในการสอบบรรจุครู ดังนั้น ควรมีการวิเคราะห์ สำรวจอัตรากำลัง ตำแหน่งคุณวุฒิของครูแต่ละโรงเรียน และเกลี่ยอัตรา กำลังให้เหมาะสม จะต้องจัดระบบกลไกในการสอบคัดเลือกครูที่มีคุณภาพเข้ามาตรงกับความต้องการและมีหน่วยงานรับผิดชอบในการรวบรวมข้อมูล กำหนดความต้องการครูแต่ละปีอย่างชัดเจนโดยกระทรวงศึกษาธิการและต้องกำหนดและควบคุมมาตรฐานและคุณภาพการผลิตครูของสถาบันผลิตครู อย่างเข้มงวด ไม่ปล่อยให้หน่วยงานที่ไม่มีหน้าที่ ไม่มีความรู้และประสบการณ์ในการผลิตครูโดยตรงมาผลิตครูอีกต่อไป และไม่ปล่อยให้สถาบันการศึกษา เปิดหลักสูตรเพื่อหวังผลทางธุรกิจการค้าเป็นหลัก รวมถึงต้องไม่ปล่อยให้เปิดทำการสอนมากกว่าแผนการรับและเปิดสอนก่อนที่หลักสูตรจะได้รับการเห็นชอบและรับรอง” นางประพันธ์ศิริกล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image