สอศ.ตั้งเป้า 77 ปีอาชีวะ เดินหน้าสู่ยุค ‘พรีเมี่ยม’

เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม ที่กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) นายสุเทพ ชิตยวงษ์ เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (กอศ.) เปิดเผยว่า เนื่องในครบรอบวันคล้ายวันสถาปนา 77 ปี สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) หรือกรมอาชีวศึกษาเดิม จึงได้จัดพิธีทำบุญ และมอบโล่รางวัลให้กับผู้ที่ได้รับการคัดเลือกให้เป็น “ครูดีศรีอาชีวะ” 13 ราย “คนดีศรีอาชีวะ” จำนวน 71 ราย “ผู้ทำคุณประโยชน์ให้สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา” 30 ราย เพื่อยกย่องเชิดชูเกียรติครูผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษา ข้าราชการพลเรือนที่ปฏิบัติตนเป็นแบบอย่างที่ดี และผู้ที่ทำคุณประโยชน์ในการสนับสนุนการศึกษาด้านวิชาชีพ

นายสุเทพกล่าวต่อว่า อาชีวศึกษาเป็น 1 ใน 5 หน่วยงานหลักของ ศธ.ทำหน้าที่กำกับดูแลการจัดการศึกษาด้านวิชาชีพ มีสถานศึกษาในสังกัด ทั้งอาชีวศึกษาภาครัฐ และเอกชน รวม 911 แห่ง แบ่งเป็น สถานศึกษาอาชีวศึกษาภาครัฐ 428 แห่ง ภาคเอกชน 483 แห่ง จัดการเรียนการสอน 9 ประเภทวิชาชีพหลัก ได้แก่ ช่างอุตสาหกรรม พาณิชยกรรม ศิลปกรรม คหกรรม เกษตรกรรม ประมง อุตสาหกรรมสิ่งทอ และเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ในรูปแบบปกติ ทวิภาคี และระยะสั้น ในระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) ระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.) และระดับปริญญาตรีสายเทคโนโลยีหรือปฏิบัติการ ซึ่งรูปแบบการจัดการเรียนการสอนที่ได้รับความนิยมมากที่สุดคือ “ทวิภาคี” เนื่องจากเป็นช่องทางการศึกษาที่สร้างความพึงพอใจให้ทั้งผู้เรียน ผู้ปกครอง และสถานประกอบการ ตลอดจนผู้เรียนจะมีพฤติกรรมที่เรียกว่า “นิสัยอุตสาหกรรม” คือมีความรับผิดชอบ มีวินัยในตัวเอง มีความอดทน มีการคิดวิเคราะห์ในการแก้ปัญหา ปัจจุบันมีรูปแบบการจัดการเรียนการสอนที่ทันสมัยหลายรูปแบบ เช่น การเรียนแบบโคเซ็น วีเชพ อาชีวะฐานวิทย์ อาชีวะพรีเมี่ยม ทำให้ตอบโจทย์การมีงานทำทันทีหลังเรียนจบได้อย่างเป็นรูปธรรม นอกจากนี้ จำนวนผู้เรียนอาชีวะในปีการศึกษา2561 มีจำนวนมากขึ้น มีสัดส่วนการเรียนสายสามัญ : สายอาชีพ 60 : 40 ซึ่งน่าจะพยากรณ์ได้ว่าในปีการศึกษา 2562 จำนวนผู้เรียนอาชีวะก็จะเพิ่มขึ้นอีก เพราะผู้ที่เข้ามาเรียนอาชีวะจะมีงานทำทันทีหลังเรียนจบ มีเส้นทางก้าวหน้าในอาชีพ และมีค่าตอบแทนตามสมรรถนะ

“ส่วนด้านการดูแลช่วยเหลือสังคมในรูปแบบ ‘อาชีวะอาสา’, ‘อาชีวะบริการ’ และ ‘Fix it Center’ ก็ได้รับคำชื่นชมจากสาธารณชนมาอย่างต่อเนื่อง เพราะคนเรียนอาชีวะจะมีทักษะฝีมือเชิงช่างที่สามารถช่วยเหลือสังคมในภาวะวิกฤตได้อย่างดี สอศ.ก้าวเข้าสู่ปีที่ 77 ถือว่าเป็นปีแห่งการพัฒนาคุณภาพและความเข้มแข็งอาชีวศึกษา เพื่อสร้างผู้เรียนอาชีวะให้เป็นมนุษย์ที่ดี มีคุณภาพ มีงานทำ ซึ่งในโอกาสวันครบรอบปีนี้ ได้เชิญผู้ทรงคุณวุฒิมาร่วมงาน คือ อดีตอธิบดี และอดีตเลขาธิการ ที่แต่ละช่วงในการบริหารงานของแต่ละท่านได้ก่อให้เกิดคุณูปการอันยิ่งใหญ่ที่ทำให้มี สอศ.เกิดขึ้นในวันนี้ และเชื่อมั่นว่าอาชีวะจะเป็นทางเลือกที่ทำให้ประเทศก้าวผ่านภาวะวิกฤตทางเศรษฐกิจไปได้ รวมถึงเป็นพลังหลักในการพัฒนาประเทศไปสู่ความทันสมัยในยุคประเทศไทย 4.0” นายสุเทพกล่าว

Advertisement

Advertisement

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image