ชงนายกฯ ตั้งสอบวินัยร้ายแรงขรก. ระดับสูงศธ.เอี่ยวทุจริต‘อควาเรียม’

เมื่อวันที่ 13 กันยายน นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) กล่าวถึงความคืบหน้าการตรวจสอบกรณีการก่อสร้าง โครงการสร้างศูนย์ศึกษาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำทะเลสาบสงขลา หรือ อควาเรียมหอยสังข์ ที่วิทยาลัยประมงติณสูลานนท์ อ.เมือง จ.สงขลา ในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.)หลังจากที่ นายการุณ สกุลประดิษฐ์ ปลัดศธ. ในฐานะคณะทำงานตรวจสอบข้อเท็จจริง ได้สรุปผลสืบสวน ทั้งสองเฟสแล้ว โดยเฟสแรก เป็นประเด็น งบประมาณ 835 ล้านบาท ในส่วนของขั้นตอนการดำเนินงาน เช่น การแก้ไขแบบงวดงานถึง 6 ครั้ง และเฟสสอง ในส่วนของงบประมาณจำนวน 313 ล้านบาท ซึ่งถูกนำมาใช้ก่อสร้างในส่วนของภายนอกอาคาร เช่น ถมดิน ขุดสระ ทำที่พักอนุบาลพันธุ์ปลาทั้งที่ภายในอาคารยังไม่เสร็จสิ้น ซึ่งแม้จะสรุปสำนวนมากแล้ว แต่ยังไม่สามารถเสนอให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ลงนามแต่งตั้งกรรมการสอบสวนวินัยผู้เกี่ยวข้องได้ เพราะผู้ที่เกี่ยวข้องมีหน่วยงานอื่นร่วมด้วย ดังนั้นรัฐมนตรีว่าการศธ. ลงนามถึงกรมประมง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เพื่อพิจารณา ให้ความเห็นชอบในการเสนอตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัย ว่า ขณะนี้ได้ข้อสรุปจบเรียบร้อย โดยขณะนี้ กรมการประมง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้ส่งหนังสือกลับมาแล้ว ภายใน 1-2 วันนี้ตนจะเซ็นหนังสือเสนอนายกฯ ตั้งกรรมการสอบวินัย โดยมีข้าราชการจากกรมประมง ที่เกี่ยวข้อง 2 ราย และมีอีก 2-3 กระทรวง ซึ่งยังไม่ได้ตอบมา แต่ไม่เป็นไร ที่เหลือจะส่งให้นายกฯ ตั้งคณะกรรมการสอบวินัยเพิ่มภายหลัง

“ทั้งนี้จะเสนอตั้งคณะกรรมการสอบวินัยร้ายแรง ข้าราชการระดับสูงซึ่งมีทั้งอดีต และปัจจุบันที่รับผิดชอบเรื่องนี้ ตามข้อสรุปของคณะกรรมการตรวจสอบฯ ส่วนที่พบประเด็นที่ส่อไปในทางทุจริตที่เพิ่มเติม ไม่ว่าจะเป็น การจ่ายเงินล่วงหน้าในบางจุดโดยไม่มีการทำข้อตกลงความร่วมมือรองรับ และการเซ็นอนุมัติการดำเนินแก้ไขงวดงานในโครงการฯโดยรองเลขาธิการ กอศ.แทน เลขาธิการ กอศ. นั้น ผมคงไม่รอผลการตรวจสอบ ขอส่งนายกฯ ตั้งคณะกรรมการสอบวินัยก่อน “นพ.ธีระเกียรติกล่าว และว่า หลังการตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยอย่างร้ายแรงแล้ว หากใครที่ยังปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งเดิม ก็จะต้องดำเนินการตามมาตรการป้องกันและปราบทุจริตในระบบราชการ ของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ย้ายออกจากตำแหน่ง ส่วนใครไม่ได้อยู่ในตำแหน่งเดิม ก็ให้อิสระ ทุกอย่างเป็นไปตามกระบวนการ ไม่มีการแกล้งใคร

รัฐมนตรีว่าการศธ. กล่าวต่อว่า ส่วนใครจะเป็นประธานสอบนั้น ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของนายกฯ แต่โดยวิธีปฏิบัติ นายกฯ จะให้ศธ.เสนอรายชื่อ ซึ่งเรากำลังพิจารณา ส่วนจะเป็นคนในหรือนอกกระทรวงนั้น ขอเสนอให้นายกฯพิจารณาก่อน เพื่อให้การดำเนินการเป็นไปอย่างรวดเร็ว ดังนั้นเรื่องนี้ตนถือว่า จบแล้ว ไม่มีมวลล้ม นอกจากนี้ตนกำลัง จะตั้งหน่วยงานเข้ามาทำหน้าที่ดูแลคดีพิเศษโดยเฉพาะ เรียกว่า กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอประจำศธ. โดยให้เป็นหน่วยงานที่อยู่ภายในสำนักนิติการ สำนักปลัดศธ. เพื่อดูแลคดีพิเศษ ที่มีผลกระทบในวงกว้าง และคดีที่ประชาชนให้ความสนใจ ไม่ให้เกิดความล่าช้า ทั้งนี้จะมีการเพิ่มบุคลากรเข้ามาทำหน้าที่ดังกล่าวจำนวน 8 อัตรา คิดว่าต่อไปอนาคตศธ. จะมีหน่วยงานที่ตรวจสอบทุจริตอย่างแท้จริง

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image