‘หมอธี’ ฉุนบิ๊กเขตไม่เซ็นเลื่อนงด.ครู สั่งสพฐ.เรียกเตือน ลั่นไม่ร่วมถกบิ๊กสพท. สพฐ.เรียกบิ๊กเขตแจงแล้ว

‘หมอธี’ขู่ฟันผอ.สพท.ทิ้งหน้าที่ เรียก’ผอ.สพป.ชย.1’เตือนไม่เซ็นงด.ครู  ลั่นไม่ร่วมถกบิ๊กเขต-เบื่อปมแย่งอำนาจ เผยผช.เลขาฯ เรียก ผอ.สพป.ชย.1 แจงแล้ว

เมื่อวันที่ 20 กันยายน นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยถึงกรณีที่แกนนำผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (สพท.) ทั่วประเทศ มีมติสนับสนุนการแก้ไข พ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา โดยคืนอำนาจการบรรจุแต่งตั้งข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตามมาตรา 53 จากศึกษาธิการจังหวัด (ศธจ.) ให้แก่ผู้อำนวยการโรงเรียน และผู้อำนวยการสพท. ตามเดิม โดยหากยังไม่คืนอำนาจ จะต่อต้านเชิงสัญลักษณ์ด้วยการไม่ลงนามในหนังสือต้นเรื่องที่ต้องส่งให้ศธจ.ลงนาม ทั้งเลื่อนเงินเดือน วิทยฐานะและการแต่งตั้งโยกย้ายครู แต่มอบให้รองผู้อำนวยการ สพท.ลงนามแทน ล่าสุดผู้อำนวยการสพท.ทั่วประเทศเริ่มมาตรการนี้แล้ว โดยผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาชัยภูมิ เขต 1 (สพป.ชย.1) ไม่ลงนามปรับอัตราเงินเดือนครู 57 ราย แต่ให้รองผู้อำนวยการ สพป.ชย. 1 ลงนามแทน เพื่อแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ว่าไม่ยอมรับอำนาจของศธจ.ว่า สพฐ.เรียกผู้อำนวยการ สพท.มาพบแล้ว ตนคงไม่เคลียร์ ว่ากันไปตามกฎหมาย การที่สพท. มาบอกจะไม่ยอมเซ็นหนังสือทำได้หรือไม่ ผิดหรือไม่ ตนได้สั่งผู้บริหารสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ตั้งแต่นายบุญรักษ์ ยอดเพชร เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) ไปแล้วว่าต้องจัดการให้ได้ โดยให้ไปดูว่าถ้าพูดแบบนี้แล้วในฐานะผู้บังคับบัญชา สามารถทำอะไรได้บ้าง ไม่ใช่ปล่อยให้ออกมาประท้วงเชิงสัญลักษณ์

“ผมเป็นรัฐมนตรี ถ้าผมบอกว่าจะไม่เซ็นหนังสือได้หรือไม่ เหตุผลเพราะผมไม่พอใจใครสักคน ประเทศจะอยู่อย่างไร เรื่องพวกนี้ ครูก็เบื่อ เพราะครูเขาอยากสอนเด็ก แต่ผู้บริหารพูดถึงแต่เรื่องอำนาจ ใครคุมใคร ใครให้เงินเดือนใคร ใครสั่งใคร แล้วจะปฏิรูปการศึกษาได้หรือไม่ การปฏิรูปการศึกษาต้องไปถึงเด็ก ผมขอพูดแรง ๆ เพราะเขาก็พูดแรงมา ประเทศกำลังจะเดินไปข้างหน้า ถ้าให้ตั้งข้อสังเกตที่ออกมาพูดครั้งนี้ หรือเป็นเพราะกำลังจะเลือกตั้ง ผมได้สั่งผู้บริหารสพฐ.ไปแล้ว ตั้งแต่นายบุญรักษ์ ว่าต้องจัดการให้ได้ ผมไม่รู้ว่าใครเป็นใคร ไปดูตามกฎหมายว่า ถ้าพูดแบบนี้ เป็นผู้บังคับบัญชา ทำอะไรได้ เรียกมาคุย ต้องทำตามกฎหมายบ้านเมือง เรื่องนี้เป็นคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ไม่ใช่เรื่องที่จะออกมาประท้วงเชิงสัญลักษณ์ ผมบอกไปแล้ว ถ้ามีการออกมาพูดแบบนี้อีก การประชุมผู้อำนวยการสพท. สัปดาห์หน้า ผมคงไม่ไป เพราะคุยแล้วคงไม่ได้อะไร จะมาคุยกันเรื่องอำนาจ หลอกให้ผมไปคุยแล้วจะให้รับปาก ผมไม่ทำ” นพ.ธีระเกียรติกล่าว

นพ.ธีระเกียรติ กล่าวต่อว่า ส่วนความคืบหน้าการเสนอให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี แก้ไขคำสั่งหัวหน้าคสช.ที่ 19/2560 เรื่องการปฏิรูปการศึกษาในภูมิภาคของกระทรวงศึกษาธิการ โดยลดศธภ.จากทั้งหมด 12 ตำแหน่ง ให้เหลือเพียง 6 ตำแหน่ง ตามภูมิภาคของประเทศนั้น คสช. ให้โควตามา 12 ตำแหน่ง แต่ไม่ได้บอกวิธีการ อยู่ที่การบริหารจัดการ และจากประสบการณ์ที่ตั้งคนไปเป็นศธภ. ส่วนใหญ่ขอกลับมาเป็นผู้ตรวจราชการศธ. หมด ดังนั้นจึงจะไม่ยุบตำแหน่งศธภ. แต่มีนโยบายให้ผู้ตรวจราชการศธ.รักษาการศธภ.ด้วย ถือเป็นการประหยัดงบประมาณ เพราะผู้ตรวจราชการต้องลงไปตรวจราชการอยู่แล้ว เพื่อให้การประสานงานในพื้นที่มีประสิทธิภาพ

Advertisement

นายธนชน มุทาพร ผู้อำนวยการสพป.ชย.1 และประธานชมรมผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาแห่งประเทศไทย (ชร.ผอ.สพท.) กล่าวภายหลังเข้าพบนายอัมพร พินะสา ผู้ช่วยเลขาธิการกพฐ. ว่า ได้รับแจ้งจากนายอัมพรว่า รัฐมนตรีว่าการศธ.ไม่สบายใจกับข่าวจึงมอบหมายให้เลขาธิการกพฐ.เรียกตนมาคุย แต่เพราะนายบุญรักษ์ ติดราชการที่สาธารณรัฐประชาชนจีน จึงมอบหมายให้นายอัมพร เรียกตนมาคุยแทน โดยนายอัมพรได้ให้ตนชี้แจง ซึ่งตนได้ชี้แจงไปว่ามติของแกนนำผู้อำนวยการสพท.คือขึ้นป้ายสนับสนุนการแก้ไขพ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา โดยคืนอำนาจการบรรจุแต่งตั้งข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาตามมาตรา 53 จากศึกษาธิการจังหวัด(ศธจ.) คืนแก่ผอ.โรงเรียนและผอ.สพท. ตามเดิม ส่วนเรื่องไม่ลงนามต้นเรื่องหนังสือที่ต้องส่งให้ศธจ.ลงนามทั้งเรื่องเลื่อนเงินเดือน เลื่อนวิทยฐานะและแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการครู แต่มอบให้รองผู้อำนวยการสพท.ลงนามแทนนั้น เป็นเรื่องเฉพาะตัวที่ตนทำ ไม่เกี่ยวกับผู้อำนวยการสพท.อื่นๆ ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีผู้อำนวยการสพท.ใดๆ ทำนอกจากตน และเนื่องจากตนปฏิบัติราชการลงพื้นที่บ่อยจึงมอบให้รองผู้อำนวยการสพท.ลงนามแทน และยืนยันว่ายังคงให้ความร่วมมือกับศธจ.โดยดี

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image