เมื่อวันที่ 24 กันยายน นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ(ศธ.) เปิดเผยถึงกรณีที่แกนนำผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (สพท.) ทั่วประเทศ มีมติสนับสนุนการแก้ไข พ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา โดยคืนอำนาจการบรรจุแต่งตั้งข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตามมาตรา 53 จากศึกษาธิการจังหวัด (ศธจ.) ให้แก่ผู้อำนวยการโรงเรียน และผู้อำนวยการสพท. ตามเดิม โดยหากยังไม่คืนอำนาจ จะต่อต้านเชิงสัญลักษณ์ด้วยการไม่ลงนามในหนังสือต้นเรื่องที่ต้องส่งให้ศธจ.ลงนาม ทั้งเลื่อนเงินเดือน วิทยฐานะและการแต่งตั้งโยกย้ายครู แต่มอบให้รองผู้อำนวยการ สพท.ลงนามแทน ล่าสุดผู้อำนวยการสพท.ทั่วประเทศเริ่มมาตรการนี้แล้ว โดยผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาชัยภูมิ เขต 1 (สพป.ชย.1) ไม่ลงนามปรับอัตราเงินเดือนครู 57 ราย แต่ให้รองผู้อำนวยการ สพป.ชย. 1 ลงนามแทน เพื่อแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ว่าไม่ยอมรับอำนาจของศธจ. ซึ่งรัฐมนตรีว่าการศธ. ได้สั่งการให้ นายบุญรักษ์ ยอดเพชร เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) ไปเคลียร์ว่า ในฐานะผู้บังคับบัญชา สามารถทำอะไรได้บ้าง ไม่ใช่ปล่อยให้ออกมาประท้วงเชิงสัญลักษณ์ ว่า นายบุญรักษ์ ได้เชิญ แกนนำที่ออกมาพูดเรื่องดังกล่าวมา ซึ่งอยู่ระหว่างการพิจารณาโทษทางวินัย และเท่าที่ทราบผู้ที่ออกมาพูด ก็ได้ชี้แจงว่า ต้องการให้การทำงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น ไม่ได้ต้องการท้าทายอำนาจศธจ. ดังนั้นดูเหมือนแนวทางจะมีความปรองดองมากขึ้น
“เท่าที่ดู ขณะนี้ยังไม่มีใครออกมาเคลื่อนไหวอีก แต่ถ้ามีในช่วงนี้ ก็ต้องดูว่า เป็นไปตามกฎหมายหรือไม่ ตรงไปตรงมา ประเทศเราอยู่ได้ด้วยกฎหมาย กฎหมายว่าอย่างไร ก็ต้องตามนั้น ซึ่งในการประชุมผู้อำนวยการสพท. วันที่ 26 กันยายนนี้ ผมจะไป เพราะอย่างที่บอกว่า เขายอมแล้ว อย่างที่ผมพูดมาตลอดว่า ถึงเวลาแล้วที่เราต้องหยุดคุยเรื่องอำนาจ ถ้าเราจะปฏิรูปการศึกษาให้สำเร็จ อำนาจไม่ได้ทำให้การปฏิรูปการศึกษาสำเร็จ เพราะอำนาจถึงได้ทำให้มีการทะเลาะกันภายใน แต่ถามว่า เด็ก ผู้ปกครองและครูได้อะไร ซึ่งจากการลงพื้นที่ ได้สอบถามครูว่า เบื่อเรื่องนี้หรือไม่ ครูก็บอกว่าเบื่อ ที่มาพูดกันแต่เรื่อง ใครจะใหญ่ ใครจะมีอำนาจ ใครจะเซ็น ใครจะต้องใคร”นพ.ธีระเกียรติกล่าว
นพ.ธีระเกียรติกล่าวต่อว่า ตอนนี้เราต้องมาพูดกันเรื่องธรรมาภิบาล ไม่ใช่เรื่องอำนาจ จะอยู่กันอย่างไรให้เป็นธรรม อย่างแรกถ้ากฎหมายไม่ดี ก็ต้องแก้กฎหมาย ซึ่งเรื่องที่ทางสพท. เรียกร้อง ก็อยู่ระหว่างดำเนินการแก้พ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ…
ผู้สื่อข่าวถามว่า อาจไม่ทันใจกลุ่มผู้เรียกร้อง เพราะเดิมเสนอให้แก้ไขคำสั่ง หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) แก้ไขคำสั่ง คสช.ที่ 19/2560 ที่ให้โอนการใช้อำนาจการบรรจุแต่งตั้งข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาในจังหวัดและกรุงเทพฯ ตามมาตรา 53 (3)(4) แห่ง พ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ให้เป็นของ ศธจ. โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการศึกษาธิการจังหวัด (กศจ.)โดยคืนอำนาจตามมาตรา 53(3) และ (4) ให้แก่ ผู้อำนวยการสพท.และ ผู้อำนวยการร.ร. นพ.ธีระเกียรติ กล่าวว่า ไม่ทันใจก็ต้องรอ กฎหมายจะให้ออกมาทันใจไม่ได้ เป็นเรื่องของคนหมู่มาก เป็นเรื่องความรอบคอบ และความเป็นทัน จะให้ทันใจใครคงไม่ได้
