ระอุอีก! ผอ.สพป.โคราช 7 ตอบ ศธจ. ‘ทราบ’ แต่ ‘ไม่อนุเคราะห์งบประชุมสภากาแฟ’

นายพีรพงศ์ สุรเสน ผอ.สพป.นครราชสีมา เขต 7

เมื่อวันที่ 27 กันยายน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายกฤตพล ชุติกุลกีรติ ศึกษาธิการจังหวัด(ศธจ.) นครราชสีมา ได้ทำหนังสือถึงนายพีรพงศ์ สุรเสน ผอ.สพป.นครราชสีมา เขต 7 เรื่องขอความอนุเคราะห์งบประมาณสนับสนุนการจัดประชุมสภากาแฟ จ.นครราชสีมา ลงวันที่ 21 กันยายน 2561 ความว่า ด้วยจ.นครราชสีมา แจ้งประสานขอความร่วมมือสำนักงานศึกษาธิการจังหวัดนครราชสีมา เป็นเจ้าภาพในการจัดประชุมสภากาแฟ จ.นครราชสีมา เพื่อเป็นเวทีแลกเปลี่ยนความคิดเห็นระหว่างหัวหน้าส่วนราชการในจังหวัดและหารือข้อราชการเกี่ยวกับการดำเนินงานต่างๆ ของจังหวัดนครราชสีมา

ในการนี้ สำนักงานศึกษาธิการจังหวัดนครราชสีมา ร่วมกับหน่วยงานด้านการศึกษาในจังหวัดนครราชสีมา ได้จัดประชุมเพื่อปรึกษาหารือแนวทางในการจัดประชุมสภากาแฟดังกล่าว และกำหนดจัดประชุมสภากาแฟ จังหวัดนครราชสีมา ในวันศุกร์ที่ 5 ตุลาคม 2561 เวลา 07.00-09.00 น. ณ อาคารหอประชุม ๙๐ ปี โรงเรียนราชสีมาวิทยาลัย ตำบลในเมือง อ.เมือง จ.นครราชสีมา แต่ยังขาดงบประมาณในการจัดงาน จึงขอความอนุเคราะห์งบประมาณสนับสนุนเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการจัดงานดังกล่าว จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบและพิจารณาให้ความอนุเคราะห์ และขอขอบคุณมา ณ โอกาสนี้

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า โดยในหนังสือดังกล่าว นายพีรพงศ์ สุรเสน ผอ.สพป.นครราชสีมา เขต 7 ตอบกลับว่า 1.ทราบ 2.ไม่อนุเคราะห์ 3.เงินงบประมาณแผ่นดินจะจัดสรรสนับสนุนการจัดประชุมสภากาแฟไม่ได้

ด้านนายพีรพงศ์ กล่าวว่า ที่ถามว่าถ้าสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(สพฐ.) จะเล่นงานในฐานะไม่ให้ความร่วมมือสำนักงานศึกษาธิการจังหวัดนั้น ตนมองว่าสพฐ.ควรปกป้องคน สพฐ. การจัดประชุมสภากาแฟ จะใช้งบราชการไม่ได้ และสพป.นครราชสีมา เขต 7 และ ศึกษาธิการจังหวัดนครราชสีมา อยู่กันคนละกรม จะเอาเงินราชการของ สพป.นครราชสีมา เขต 7 ไปให้ศธจ.ไม่ได้

Advertisement

รายงานข่าวแจ้งว่า นับแต่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ออกคำสั่งหัวหน้าคสช.ที่ 19/2560 เรื่องการปฏิรูปการศึกษาในภูมิภาคของกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ลงวันที่ 3 เมษายน 2560 โดยข้อ 13 กำหนดให้อำนาจการบรรจุและแต่งตั้งข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาในจังหวัดและกรุงเทพฯ ตามมาตรา 53(3) และ (4) แห่ง พ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา เป็นของ ศึกษาธิการ(ศธจ.)โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการศึกษาธิการจังหวัด (กศจ.) จากเดิมอำนาจตามมาตรา 53(3) เป็นของผอ.สพท. และอำนาจตามมาตรา 53(4) เป็นของผู้อำนวยการโรงเรียน

ก็ก่อให้เกิดความแตกสามัคคีระหว่างผอ.สพท.และศธจ.มาโดยตลอด ที่ฮือฮาสุดก็เหตุการณ์ที่นายพีรพงศ์ สุรเสน ผอ.สพป.นครราชสีมา เขต 7 ตอบกลับหนังสือของนายสุวิทย์ ศรีฉาย รองศึกษาธิการจังหวัด(ศธจ.) รักษาการศธจ.นครราชสีมา ขณะนั้น กรณีเชิญร่วมเป็นเกียรติประดับเครื่องหมายอินทรธนูแก่ข้าราชการครูบรรจุใหม่ในวันที่ 23 พฤศจิกายน 2560 แล้วนายพีรพงศ์ ตอบกลับไปว่า “ทราบ, ไม่ไป, ข้าราชการที่บรรจุใหม่ ล้วนเป็นข้าราชการสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(สพฐ.)ทั้งสิ้น ควรให้ผู้บังคับบัญชาโดยชอบเป็นผู้ดำเนินการ”

“ศธจ.ไม่ใช่ผู้บังคับบัญชาโดยตรงของครู ผู้บังคับบัญชาโดยตรงของครูและโรงเรียนคือ ผอ.สพท. เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(กพฐ.) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ(ศธ.)และนายกรัฐมนตรี ตามลำดับ ขณะที่ศธจ.อยู่ในสังกัดสำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ(สป.ศธ.) และไม่มีโรงเรียนสักแห่งอยู่ในสังกัดเลยด้วยซ้ำ การที่ศธจ.ซึ่งไม่ใช่ผู้บังคับบัญชาของครู แต่กลับมาจัดงานประดับเครื่องหมายอินทรธนูแก่ข้าราชการครูบรรจุใหม่ซึ่งเป็นงานสำคัญของครู ทั้งที่โดยปกติควรเป็นหน้าที่ของผอ.เขตพื้นที่ฯ ผู้อำนวยการโรงเรียน พระหรือพ่อแม่ เมื่อศธจ.มาจัด จึงเป็นเรื่องตลก น่าอาย เสียมารยาท และย้อนแย้ง ถ้าบอกว่าเรื่องนี้สะท้อนถึงความขัดแย้งระหว่างสพท.และศธจ. ก็ต้องบอกว่าความขัดแย้งเกิดขึ้นมาตั้งแต่วันที่มีคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ที่ 19/2560 ในวันที่่ 3 เมษายน 2560 แล้ว” นายพีรพงศ์กล่าวในครั้งนั้น

Advertisement

และล่าสุดความขัดแย้งระหว่างผอ.สพท.และศธจ.บานปลายกระทั่งผอ.เขตพื้นที่ฯ บางแห่งไม่เซ็นหนังสือต้นเรื่องที่จะเสนอศธจ. แต่มอบให้รองผู้อำนวยการสพท.ลงนามแทนเพื่อเป็นการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ว่าไม่ยอมรับอำนาจของศธจ. ซึ่งเป็นที่มาที่มีกระแสข่าวว่าสพฐ.จะตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงผอ.สพท.รายดังกล่าว

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
ผอ.สพป.โครราช 7 แจงปฏิเสธร่วมงานประดับอินทรธนูครูบรรจุใหม่ เหตุ ‘ศธจ.’ ไม่ใช่ผู้บังคับบัญชาครูโดยตรง

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image