เมื่อวันที่ 2 ตุลาคม นายบุญรักษ์ ยอดเพชร เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(กพฐ.) เปิดเผยว่า ตามที่ นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ(ศธ.) มอบนโยบายในโครงการลดภาระงานครู โดยให้มีการจ้างผู้ปฏิบัติงานธุรการ ทำหน้าที่แทนครูให้ครบทุกโรงเรียนทั่วประเทศกว่า 29,000 แห่ง เพื่อให้ครูมีเวลาทุ่มเท จัดการเรียนการสอนอย่างเต็มที่ นั้น เมื่อวันที่ 1 ตุลาคมที่ผ่านมา ตนได้ลงนามในหนังสือไปถึงผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (สพท.) ทุกเขตแล้ว เพื่อให้แจ้งโรงเรียนทราบว่า สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ได้จัดสรรอัตราจ้างผู้ปฏิบัติงานธุรการให้แก่โรงเรียนขึ้น กว่า 17,000 อัตรา เป็นเงินงบประมาณกว่า 2,000 ล้านบาท เพิ่มจากที่ได้รับงบจัดจ้างปกติกว่า 11,000 อัตรา โดยเป็นการจ้างตลอดปีงบประมาณ ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2561- 30 กันยายน 2562
“นอกจากนี้ ได้แจ้งเรื่องการจ้างนักการภารโรง ประจำปีงบ 2562 ด้วย โดยแบ่งเป็น 2 ส่วน คือ กรณีสถานศึกษาได้รับงบประมาณที่มีสัญญาจ้างเดิม ซึ่งเป็นการจ้างรายเดือน ให้ดำเนินการจ้างต่อไปได้ ส่วนสถานศึกษาที่ยังไม่มีนักการภารโรง สพฐ. จัดสรรอัตราจ้างปฏิบัติหน้าที่นักการภารโรง ปีงบ 2562 ตามโครงการลดภาระงานครูไปให้ โดยจะใช้วิธีใหม่ คือ การจ้างเหมาบริการ ซึ่งเป็นการจ้างเหมาเฉพาะเรื่อง เช่น จ้างคนตัดหญ้า จ้างทำความสะอาด ในอัตรา 300 บาทต่อวัน หรือ ตามอัตราค่าแรงขั้นต่ำของแต่ละจังหวัด โดยจัดสรรให้สัปดาห์ละ 2 วัน ตลอด 1 ปีงบประมาณ คิดเป็น 52 สัปดาห์ หรือ 104 วัน โดยในการจ้างเหมางาน 104 วันนั้น ขึ้นอยู่กับการบริหารจัดการของแต่ละโรงเรียน โดยอาจจะจ้างสัปดาห์ละ 2 วัน หรือ ระดมทำงานสัปดาห์ละหลายวันก็ได้ โดยจะต้องเป็นการจ้างตามงานที่ต้องการให้ทำจริงๆ”นายบุญรักษ์ กล่าว
นายบุญรักษ์ กล่าวต่อว่า ขณะนี้ มีโรงเรียนทั่วประเทศอีก 9,000 กว่าแห่ง ที่ยังไม่มีนักการภารโรง สพฐ.จะจัดสรรไปให้โดยจ้างวิธีการใหม่ ซึ่ง สพฐ.ได้งบส่วนนี้มากว่า 400-500 ล้านบาท ทั้งนี้การจ้างงานรูปแบบใหม่ที่เป็นการจ้างเหมาบริการ จะเป็นการกระจายการจ้างงาน และสามารถสร้างงานให้คนในพื้นที่มีรายได้ จากที่โรงเรียนที่ไม่มีนักการภารโรงเลยก็จะได้คนไปทำงานตามภาระงานที่ต้องการ ส่วนโรงเรียนที่อยากได้นักการภารโรงประจำก็สามารถหาเงินอื่นมาจัดจ้างได้
