กรณีมีการเผยแพร่ภาพจากหนังสือเรียนวิชาสุขศึกษาในระดับชั้นต่างๆ โดยหนังสือดังกล่าวมีเนื้อหาที่สร้างทัศนคติทางเพศที่ผิด เช่น หนังสือสุขศึกษาม.4 ระบุค่านิยมทางเพศว่า “เพศหญิงไม่ควรแสดงความต้องการทางเพศแม้เมื่อสมรสแล้ว” และกล่าวถึงการคบเพื่อนว่า “หากคบเพื่อนที่มีพฤติกรรมที่ไม่ถูกต้อง เช่นชอบเที่ยวกลางคืน มีพฤติกรรมเบี่ยงเบนทางเพศ ผลที่ได้รับจะทำให้เกิดความเดือดร้อน…และไม่มีอนาคต” หรือหนังสือสุขศึกษาม.5 กล่าวถึงปัญหาการเบี่ยงเบนทางเพศว่า “เป็นปัญหาหนึ่งที่พบได้ในทั้งเพศหญิงและเพศชาย โดยบุคคลอาจแสดงออกถึงพฤติกรรมทางเพศที่ไม่เหมาะสม เช่น ผู้ที่มีพฤติกรรมเป็นเกย์ เลสเบี้ยน เป็นต้น ทำให้สังคมเกิดความรู้สึกถึงความไม่ถูกต้องตามบรรทัดฐานที่สังคมได้กำหนดไว้”
และหลายเล่มมีการสร้างความเชื่อที่ผิดต่อผู้มีความหลากหลายทางเพศ อาทิ “ปัญหาพฤติกรรมเบี่ยงเบนทางเพศ พบได้ในเพศชายและเพศหญิง ซึ่งอาจเกิดจากหลายสาเหตุ เช่น การเลี้ยงดูในวัยเด็กอย่างผิดๆ สภาพแวดล้อม และสิ่งยั่วยุต่างๆ ที่ส่งผลให้มีสภาพจิตที่ผิดปกติ เป็นต้น” นั้น
เมื่อวันที่ 3 ตุลาคม น.ส.นิจสุดา อภินันทาภรณ์ ผู้อำนวยการสำนักวิชาการและมาตรฐานการศึกษา สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) กล่าวว่า ตนทราบเรื่องดังกล่าวเเล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบว่าเป็นหนังสือสำนักพิมพ์ใด เป็นหนังสือจากสำนักพิมพ์ของรัฐหรือเอกชน ซึ่งต้องใช้เวลาตรวจสอบ เพราะขณะนี้มีสำนักพิมพ์ที่จัดพิมพ์หนังสือให้ สพฐ.กว่า 40 สำนักพิมพ์ อย่างไรก็ตาม การพิมพ์หรือจัดทำหนังสือเรียนแต่ละครั้ง สำหนักพิมพ์ต้องส่งต้นฉบับมาให้ สพฐ. ตรวจสอบก่อน หากต้องการปรับเนื้อหาให้ทันสมัย สามารถทำได้ในทุกการตีพิมพ์ครั้งใหม่ แน่นอนว่าสพฐ. จะต้องตรวจสอบทุกครั้งที่มีการปรับแก้เนื้อหา อย่างไรก็ตาม ยังมีมีหนังสืออื่นๆ ที่โรงเรียนจัดซื้อตามร้านหนังสือเองโดยไม่ผ่าน สพฐ.
น.ส.นิจสุดา กล่าวว่า ส่วนจะการใช้หนังสือเล่มนี้จริงหรือไม่ ตนต้องของตรวจสอบก่อน เพราะขณะนี้ไม่ทราบว่าเป็นหนังสือเล่มไหน เนื่องจากผู้โพสต์ไม่ได้โพสต์ชื่อหนังสืออย่างชัดเจน ถึงแม้มีการใช้หนังสือเล่มนี้ในการเรียนการสอนจริง แต่เมื่อกลายเป็นข่าววิพากษ์วิจารณ์ขนาดนี้แล้ว คิดว่าทางโรงเรียนที่ใช้หนังสือเล่มนี้คงเลิกใช้ไปเเล้ว
“ส่วนเนื้อหาในหนังสือที่สอนเรื่องเพศวิถีว่า ปัญหาพฤติกรรมเบี่ยงเบนทางเพศ พบได้ในเพศชายและเพศหญิง เกิดจากสาเหตุ เช่นการเลี้ยงดูในวัยเด็กอย่างผิดๆ ส่งผลให้มีสภาพจิตที่ผิดปกติ นั้น ได้สพฐ.ทำการเเจ้งให้ทุกสำนักพิมพ์ ให้เขียนตำราตาม พ.ร.บ.ความเท่าเทียมระหว่างเพศ พ.ศ.2558 และพ.ร.บ.การป้องกันและแก้ไขปัญหาการตั้งครรภ์ในวัยรุ่น พ.ศ.2559 โดยให้มีเนื้อหาสอนเพศวิถีอย่างถูกต้องตาม พ.ร.บ.ดังกล่าวแล้ว”น.ส.นิจสุดา กล่าว
น.ส.นิจสุดา กล่าวต่อว่า สามารถดำเนินการอะไรได้บ้างหากพบ สำนักพิมพ์ปรับแก้เนื้อหาเเละไม่ส่งต้นฉบับให้ สพฐ. ตรวจสอบ เบื้องต้นต้องดูว่าหนังสือเล่มนั้นเป็นหนังสือเรียนหรือไม่ หากเป็นหนังสือคู่มือ หนังสือแบบฝึกหัด หนังสือเหล่านี้ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของโรงเรียน สพฐ.ทำได้เพียงย้ำกับโรงเรียนในสังกัดให้ซื้อหนังสือเรียนที่ถูกต้อง เหมาะสม อย่าไปเลือกใช้หนังสือที่มีเนื้อหาไม่ถูกต้อง อย่างไรก็ตามเรื่องนี้ขึ้นอยู่กับโรงเรียนและครูผู้สอนด้วย ว่าจะสอนเด็กอย่างไร เชื่อว่าครูไม่มีทางสอนเด็กผิดแน่นอน
