เมื่อวันที่ 11 ตุลาคม ที่ จ.พะเยา นายวุฒิชัย เสาวโกมุท รองผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยา เปิดเผยภายหลังประชุมร่วมกับหัวหน้าส่วนราชการด้านการศึกษา ประกอบด้วย ศึกษาธิการจังหวัด (ศธจ.) พะเยา ผู้อำนวยการเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา (สพป.) พะเยา เขต 1 และ 2 อัยการจังหวัดแผนกคดีเยาวชนและครอบครัว ผู้อำนวยการเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา (สพม.) ตัวแทนพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัด (พมจ.) พะเยา บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดพะเยา นายอำเภอดอกคำใต้ ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านดง พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ปกครองจังหวัดพะเยา และฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ร่วมประชุมหารือเรื่องกรณีเหตุความรุนแรงแรงในโรงเรียน ความปลอดภัยในสถานศึกษา ภายหลังมีคลิปเหตุนักเรียนหญิงชั้น ป.4 โรงเรียนบ้านดง ต.ดงสุวรรณ อ.ดอกคำใต้ จ.พะเยา ถูกกลุ่มรุ่นพี่ชั้น ม.2 รุมทำร้ายร่างกาย ว่อนโซเชียลมีเดีย ว่า จากการสอบถามผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง สรุปภาพรวมคือเหตุการณ์ที่เห็นตามสื่อ
นายวุฒิชัยกล่าวอีกว่า ประเด็นหารือเพื่อไม่ให้เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นใน จ.พะเยา อีก คือ 1.ให้ ศธจ.พะเยา ผู้อำนวยการ สพป.เขต 1 และ 2 มีหนังสือสั่งการเวียนแจ้งถึงทุกสถานศึกษา กำชับไม่ให้เกิดกรณีปัญหากรณีดังกล่าว หรือเหตุการณ์ในลักษณะดังกล่าวไม่ให้เกิดขึ้นอีก โดยมีมาตรการของส่วนการศึกษาที่จะต้องดำเนินการ เช่น การจัดกิจกรรมที่เสริมสร้างความรัก ความสามัคคี กิจกรรมจิตอาสาที่แสดงออกถึงการร่วมด้วยช่วยกัน มีมนุษยสัมพันธ์ที่ดี หรือแม้แต่การเข้าค่าย 2.ให้ฝ่ายปกครองทั่วจังหวัด โดยมอบหมายให้นายอำเภอพื้นที่เชิญผู้บริหารสถานการศึกษาทุกแห่งมาหารือร่วมกันในการป้องกันเหตุไม่ให้เกิดขึ้นอีกในอนาคต 3.สพป.พะเยา เขต 1 และ 2 ประชุมครู ผู้บริหารทั้งหมด ทำความเข้าใจร่วมด้วยช่วยกันหาแนวทางแก้ไข ป้องกันไม่ให้เกิดกรณีที่ไม่น่ารักขึ้นในพะเยาอีก และ 4.ในการประชุมระดับจังหวัด มอบให้นายอำเภอแจ้งนักปกครองท้องที่ ท้องถิ่น ร่วมกันดูแลบุตรหลานของตนเอง โรงเรียนในพื้นที่ตนเอง สนับสนุนส่งเสริมเรื่องการศึกษาให้เด็กเกิดความรู้ความเข้าใจ
นายวุฒิชัยกล่าวอีกว่า ขณะนี้ พมจ.และผู้มีส่วนเกี่ยวข้องได้นำน้องๆ ทั้งหมดมาที่โรงพยาบาลพะเยา เพื่อตรวจสุขภาพทั้งด้านร่างกายและจิตใจ สภาพร่างกายขณะนี้อยู่ในระดับที่รับได้ ส่วนด้านจิตใจวันเดียวคงยังไม่จบ จะมีบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดพะเยาเป็นหน่วยติดตามเด็ก จากนี้ไปจะเป็นกระบวนการเข้าไปเยียวยา ดูแลทุกคน ทั้งเด็กนักเรียนและครอบครัวความเป็นอยู่เป็นอย่างไรบ้าง สภาพจิตใจของครอบครัว เพื่อจะเข้าไปดูแลเรืองสุขภาพจิต กาย และครอบครัวด้วย ทางด้านหน่วยงาน ศธจ.ก็จะต้องรายงานไปยังผู้บังคับบัญชาตามขั้นตอน
“ฝากถึงทุกฝ่ายช่วยกันดูแลน้องๆ ซึ่งขณะนี้สภาพจิตใจไม่ได้เข้มแข็งเหมือนเราทุกคน ถ้าเป็นไปได้ก็ขอให้สงสารเด็ก แชร์ไปผมก็น้ำตาซึมที่ได้เห็น สงสารเขา ถ้าเป็นไปได้ขอให้เป็นเรื่องของกระบวนการทางสังคมและกระบวนการทางกฎหมายต่อไป ส่วนทางโซเชียลที่ต้องตอบโต้กันนั้น ผมไม่อยากให้มากไปกว่านี้ สงสารน้องๆ ทั้งหมด” รอง ผวจ.พะเยา กล่าว
ด้านนายรณชัย ทัดช่อม่วง ศธจ.พะเยา กล่าวว่า สำนักงานออกหนังสือถึงโรงเรียนบ้านดง ต.ดงสุวรรณ อ.ดอกคำใต้ และ สพป.พะเยา เขต 1 และ 2 กำชับห้ามไม่ให้เกิดกรณีความรุนแรงในสถานศึกษาขึ้นมาอีก เนื่องจากกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ได้ดำเนินนโยบายเรื่องมาตรการความปลอดภัยในสถานศึกษา เมื่อเกิดเหตุดังกล่าวขึ้นย่อมกระทบต่อภาพลักษณ์ของ ศธ.ดังนั้น ต้องเข้มงวดในเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด รวมทั้ง การจัดกิจกรรมในเชิงป้องกันไม่ให้เกิดเหตุความรุนแรงในสถานศึกษาขึ้นมาได้อีก
นางสุปราณี สุมนา จากสำนักงาน พมจ.พะเยา ในฐานะคณะอนุกรรมการคุ้มครองเด็กจังหวัดพะเยา กล่าวว่า ด้านกระบวนการคุ้มครองเด็กในวันนี้ มีทีมสหวิชาชีพลงไปในพื้นที่ ประกอบด้วย ทีมกฎหมาย ทีมสังคม และทีมแพทย์ ซึ่งทีมกฎหมายมีเจ้าหน้าที่ตำรวจโดย ผกก.สภ.ดอกคำใต้ ลงไปด้วยตนเอง ดูแลทางด้านกฎหมาย ทีมสังคมโดยทางสำนักงาน พมจ.และบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดพะเยา เข้าไปดูแลสภาพของจิตใจ ร่างกาย และครอบครัว รวมทั้ง รับเด็กเข้ามาตรวจสุขภาพจิต และสภาพร่างกายที่โรงพยาบาลพะเยา ส่วนทีมสหวิชาชีพจะเข้าไปดูแลด้านประเด็นสังคม กฎหมาย และด้านอื่นที่เกี่ยวข้อง
น.ส.อัญญาภิลักษณ์ รักขิตธรรม อัยการจังหวัดประจำสำนักงานอัยการสูงสุด สำนักงานอัยการคดีเยาวชนและครอบครัวจังหวัดพะเยา กล่าวว่า การแชร์คลิปคือการทำร้ายจิตใจของเด็กที่เกี่ยวข้อง จะเห็นว่าการแชร์เด็กที่ถูกกระทำจะได้รับผลกระทบมากเลย ขณะนี้อยากขอความร่วมมือจากสื่อให้ใช้ประสบการณ์ของเด็กติดถ้ำ ที่ต้องพยายามไม่ให้มีการแชร์ หรือโพสต์อะไรที่กระทบถึงเด็ก ผู้ปกครอง ซึ่งตาม พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก พ.ศ.2546 ไม่ให้ทำ และมีโทษจำคุก ปรับ จึงอยากขอความกรุณาสื่อว่าถ้าเป็นไปได้ อย่าเข้าไปใกล้ชิดกับครอบครัวของเด็ก เพราะจะทำให้เกิดกระทบกระเทือน อยากให้สื่อติดตามจากหน่วยงานว่าผลเป็นอย่างไร ช่วยเก็บข้อมูลส่วนตัวของเด็ก และเหตุการณ์ ไม่ให้กระทบต่อเด็ก และครอบครัว
“เราจะเห็นว่าข้อมูลที่แชร์ออกไป เมื่อแชร์ไปแล้ว 1 ครั้ง ข้อมูลจะกระจายอยู่ตรงนั้น ฉะนั้น จึงขอความร่วมมือจากสื่อว่า แชร์เรื่องราวได้ แต่ไม่ต้องทำให้รู้ว่าใครเป็นใคร เรื่องของเด็ก และความรุนแรงในครอบครัว คนทุกคนไม่จำเป็นต้องรู้ว่าเป็นใคร รู้เพียงวิธีการ และการแก้ปัญหาก็พอ เพราะประเด็นตรงนี้ เด็กทุกคนต้องได้รับการคุ้มครองภายใน พ.ร.บ.คุ้มครองเด็กทั้งหมด จึงขอร้องสื่อ และผู้ที่แชร์คลิปทั้งหมด ช่วยลบคลิป ถ้าเป็นไปได้อาจจะต้องให้กระทรวงไอซีที ทำทุกอย่างให้คลิปหายไป เพื่อป้องกันไม่ให้น้องได้รับผลกระทบจากคลิปดังกล่าว” น.ส.อัญญาภิลักษณ์ กล่าว
นายนันทพล ฟูสีกุล ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านดง กล่าวว่า เมื่อวันที่ 10 ตุลาคม มีการเจรจาระหว่างผู้ปกครองนักเรียนทั้งหมด และได้จ่ายทำขวัญให้แก่ผู้เสียหาย 4,000 บาท ผู้ปกครองผู้เสียหายยอมรับด้วยดี ให้นักเรียนผู้กระทำไปขอโทษ กราบแม่ และยายของนักเรียน ซึ่งเป็นผู้เสียหายเรียบร้อยแล้ว
นายประถม เชื้อหมอ ผู้อำนวยการ สพป.พะเยา เขต 1 กล่าวว่า เช้าวันนี้ตนพร้อมนายอำเภอดอกคำใต้ ตัวแทน พมจ.ได้ลงไปที่โรงเรียนเพื่อรับทราบข้อเท็จจริงพร้อมกัน ทราบจากผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านดงว่าทางโรงเรียนเชิญผู้ปกครองของผู้เสียหาย และผู้กระทำมาหารือถึงทางออก โดยในทางกฎหมายระเบียบราชการนั้น ผู้อำนวยการโรงเรียนดำเนินการลงโทษนักเรียน ซึ่งมีระเบียบขั้นตอนที่ดำเนินการไปตามนั้น และทางคณะลงไปตรวจสอบข้อเท็จจริง ได้ลงไปพบกับผู้ปกครองเพื่อให้ผู้ปกครองสบายใจ จึงเชิญนักเรียนทั้งหมดมาตรวจสุขภาพที่โรงพยาบาลพะเยา และหลังจากตรวจสุขภาพกาย และจิตแล้ว จะหารือกันอีกครั้งหนึ่ง ณ สภ.ดอกคำใต้ ซึ่งได้นัดหมายกันไว้แล้ว
“ทางด้านกฎหมาย สพป.พะเยา เขต 1 ไม่ได้นิ่งนอนใจ ดำเนินการไปตามระเบียบ ส่วนมาตรการระยะยาวเรื่องการดูแล การให้ความรู้ หรือการอบรมนักเรียนในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม เรากำหนดจะประชุมครูผู้บริหารทั้งหมดในพื้นที่ และจะจัดกิจกรรมที่หลากหลายเพื่อทำให้การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเด็กเข้าไปสู่แนวทางที่ดีขึ้น” นายประถม กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงาน สำหรับรายงานผลการตรวจร่างกายของนักเรียนหญิงชั้น ป.4 ที่เป็นผู้ถูกกระทำ แพทย์โรงพยาบาลพะเยาได้ตรวจสภาพร่างกาย และสติปัญญา ผลทางการแพทย์ระบุว่า มีความบกพร่องด่านสติปัญญาระดับอ่อน สมาธิสั้น แต่ไม่ได้เป็นออทิสติกแต่อย่างใด
