ชาวบ้านจรเข้สามพัน ค้านเปลี่ยนสีวิหารทองวัดโพธาราม ลั่นกรมศิลป์ไม่เคยเหลียวแล

จากกรณีที่มีประเด็นกระแสวิพากวิจารณ์ถึงกรณีทางวัดทาสีวิหารสีเหลือง โดยมีบริษัทสีชื่อดังนำภาพวิหารไปโพสต์ลงโซเชียล และติดแฮชแท็กไปยังทางสำนักศิลปากรที่ 2 สุพรรณบุรี กรมศิลปากร จากนั้นหน่วยงานดังกล่าวได้ออกมาแสดงความเห็นโดยมีข้อความ ว่า “กรุณาลบแท็กหน่วยงานออกด้วย เนื่องจากการดำเนินครั้งนี้ สำนักศิลปากรที่ 2 สุพรรณบุรี ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง และกรมศิลปากรเองไม่มีนโยบายที่จะใช้วิธีการนี้ในการบูรณะโบราณสถาน ดังนั้น การโฆษณาของท่านในลักษณะนี้ อาจทำให้ประชาชนเกิดความเข้าใจผิด ทั้งนี้ สำนักศิลปากรที่ 2 สุพรรณบุรี กำลังดำเนินการเก็บหลักฐานวัดทุกวัดในเขตพื้นที่รับผิดชอบ ที่ถูกบูรณะทาสีทองด้วยฝีมือเอกชนกลุ่มดังกล่าวนี้ เพื่อดำเนินการทางกฎหมายในกรณีที่วัดนั้น เป็นสถานะโบราณสถานต่อไป”

เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม ที่วัดโพธาราม ต.จรเข้สามพัน อ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี พระปลัดกัลยวรรธ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโพธาราม เปิดเผยว่า วัดโพธารามเป็นวัดเก่าแก่ วิหารหลังนี้มีอายุยาวนานกว่า 400 ปี ที่ผ่านมาได้เกิดการชำรุดทรุดโทรม ผนังวิหารร้าว จนชาวบ้านในพื้นที่ไม่มีใครกล้าเข้าไปในวิหาร ตั้งแต่รุ่นเก่าแก่ที่ผู้เฒ่าผู้แก่เล่าต่อๆ กันมา เพราะกลัวจะพังถล่มลงมา จนท่านเจ้าอาวาสรูปเดิมมีดำริไว้ว่าอยากบูรณปฏิสังขาร์ เพราะไม่อยากให้วิหารหลังนี้พังลง ต่อมาเมื่อปี 2557 ได้มีกลุ่มร่วมทางจิตอาสา ได้เดินทางมาที่วัด และประสงค์จะร่วมเป็นเจ้าภาพในการบูรณะวิหารร่วมกับชาวบ้านในพื้นที่ ซึ่งทางวัดเห็นว่าเป็นสิ่งดี ไม่ได้ขัดข้อง โดยทางวัดได้ร่วมพูดคุยกับผู้นำชุมชน ชาวบ้านในพื้นที่เพื่อหาแนวทางร่วมกัน จนได้มติเป็นเอกฉันท์ในการบูรณะ ซึ่งบูรณะทั้งในส่วนโครงสร้าง กำแพงโบสถ์ทั้งด้านนอก ด้านใน และใช้กระเบื้องดินเผา ส่วนการทาสีเหลืองนั้น เพื่อต้องการให้วิหารแห่งนี้มีเอกลักษณ์ คือ สีทอง ซึ่งเป็นสีเหลืองทองอร่ามตา สัญลักษณ์ของชาวอู่ทอง ซึ่งชาวบ้านไม่ได้คัดค้านแต่อย่างใด เห็นว่าสวยงามดี จนมาเกิดเรื่องขึ้น ทำให้โลกโซเชียลได้ต่อว่าทางวัด

“เรื่องนี้แล้วแต่มุมมองของแต่ละคน ส่วนหน่วยงานของกรมศิลปากรได้เดินทางมาที่วัดเมื่อวันที่ 24 ตุลาคม โดยจะให้ทางวัดเปลี่ยนสีไปเป็นเหมือนเดิม และห้ามดำเนินการใดๆ กับวิหาร ซึ่งทางวัดจึงได้แจ้งไปยังกลุ่มผู้ใจบุญ และชาวบ้าน ซึ่งทุกคนไม่เห็นด้วย และไม่มีงบประมาณทาสีใหม่ จึงต้องรอให้งกรมศิลปากรดำเนินการต่อ เพราะที่ผ่านทางกรมศิลปากรไม่ได้เข้ามาบูรณะ หรือชี้แจงเรื่องนี้แต่อย่างใด พอมาเกิดเรื่องขึ้น ทางวัดคงรอให้ทางกรมศิลปากรดำเนินการต่อไป ส่วนบริษัทสีนั้น ไม่ได้สนับสนุน หรือมีส่วนเกี่ยวข้องกับทางวัดแต่อย่างใด ซึ่งงบบูรณะเป็นงบจากกลุ่มผู้ร่วมทาง และชาวบ้านในพื้นที่ กว่า 4.5 ล้านบาท ซึ่งได้บูรณะแล้วเสร็จตั้งแต่ต้นปี 2559 ทั้งนี้ วัดโพธาราม ต.จรเข้สามพัน อ.อู่ทอง ไม่ได้ขึ้นทะเบียนกับกรมศิลปากร” พระปลัดกัลยวรรธ กล่าว

Advertisement

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทั้งนี้ จากการสอบถามชาวบ้านในพื้นที่ที่เดินทางมาทำบุญที่วัด กล่าวเป็นเสียงเดียวกันว่า วัดนี้เป็นวัดแห่งการพัฒนา และชาวบ้านได้ร่วมกันบูรณะมาช้านานแล้ว จึงไม่มีใครเห็นด้วยกับการกลับไปทำสีให้เหมือนเดิม

นายไพเราะ เชื้อจีนดี ชาวบ้านหมู่ที่ 5 ต.จรเข้สามพัน อ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี กล่าวทั้งน้ำตาว่า ตน และชาวบ้านที่นี่ทุกคนรู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น คิดว่าทุกคนไม่ยอมที่จะเปลี่ยนสีไปเป็นสีเดิม เพราะสีเหลืองทองแบบนี้ก็สวยงามแล้ว อีกทั้ง เป็นสิ่งที่ชาวบ้านที่นี่มีความเห็นไปในทิศทางเดียวกัน เพราะทุกคนร่วมกันบูรณะ และที่ผ่านมากรมศิลปากรไม่ได้เข้ามาดูแลตั้งแต่แรก พอชาวบ้านบูรณะกันแล้วจะมาให้แก้ไขตามแบบเดิม ซึ่งชาวบ้านก็ไม่ยอม และอยากให้มองไปอีกแบบ ว่าวิหารเป็นแบบนี้มีความงดงาม อร่ามตา เป็นสถานที่ให้นักท่องเที่ยวเข้ามากราบไหว้พระ และถ่ายรูปเป็นที่ระลึก เพราะก็ไม่ได้เสียหายอะไร

Advertisement

นางสอิ้ง พานทอง วัย 85 ปี กล่าวว่า ตนเป็นผู้เฒ่าผู้แก่ชาวบ้านในพื้นที่ วันนี้ก็นำดอกไม้มาไหว้พระในวิหารหลังนี้ ซึ่งปกติก็มาสวดมนต์เป็นประจำ ส่วนตัวไม่ได้คิดอะไร มองว่าสวยงามดี ดีกว่าปล่อยให้ชำรุดทรุดโทรม พังทลาย เป็นสิ่งที่ชาวบ้านตั้งใจร่วมกันบูรณะกับทางวัด จึงอยากให้ทุกคนมองแต่ในแง่ดี

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้พยายามติดต่อขอสัมภาษณ์ผู้อำนวยการสำนักศิลปากรที่ 2 สุพรรณบุรี แต่ยังไม่ได้รับการตอบรับ หรือคำชี้แจง

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image