เมื่อวันที่ 3 ธันวาคม นายอรรถพล ตรึกตรอง ผู้ตรวจราชการกระทรวงศึกษาธิการ(ศธ.) ปฏิบัติหน้าที่เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ตนอยู่ระหว่างทำองค์กรให้สะอาดขึ้น และปรับปรุงให้ดีขึ้น ในเรื่องที่ค้างคาเก่าๆ ที่จะทำให้ดำเนินงานช้า จึงเร่งรัดฝ่ายกฎหมายให้ดำเนินการตรวจสอบเรื่องทุจริตต่างๆ ที่ สกสค. ค้างคาอยู่ ซึ่งขณะนี้ ได้ให้เจ้าหน้าที่ สกสค.ออกจากราชการ จำนวน 2-3 ราย ในระดับเจ้าหน้าที่ระดับปฏิบัติการ โดยให้ออกในกรณี เอาเงินสมาชิกโครงการสวัสดิการเงินกู้การฌาปนกิจสงเคราะห์ช่วยเพื่อนครูและบุคลากรทางการศึกษา (ช.พ.ค.) และสมาชิกการฌาปนกิจสงเคราะห์ช่วยเพื่อนครูและบุคลากรทางการศึกษาในกรณีคู่สมรสถึงแก่กรรม (ช.พ.ส.) ไปโดยไม่ส่งมายังส่วนกลาง กลับเอาไปใช้จ่ายอย่างอื่นแทน เช่น นำเงินไปฝากเพื่อเอาดอกเบี้ย หรือให้ออกกรณีขาดงานเกิน 15 วัน โดยไม่มีเหตุมารองรับ เป็นต้น ส่วนจะให้ออกเพิ่มเติมหรือไม่ ต้องรอดูก่อน เพราะอยู่ระหว่างการเร่งรัดสืบสวนสอบสวนอยู่
นายอรรถพล กล่าวต่อว่า สกสค.ได้ปรับปรุงการบริหารงานของ สถานพยาบาล สกสค. ใหม่ โดยเปลี่ยนชื่อเป็นใหม่ตามที่ได้รับการจดทะเบียนจากกระทรวงสาธารณะสุข (สธ.) เมื่อวันที่ 11 มกราคม พ.ศ.2560 คือ “โรงพยาบาลครู” นอกจากนี้ปรับเปลี่ยนคณะกรรมการบริหารโรงพยาบาลครู จาก 3 ชุด เหลือ 2 ชุด เนื่องจากคณะกรรมการชุดเดิมมีหน้าที่ไม่ชัดเจน โดยคณะกรรมการชุดแรก คือ คณะกรรมการบริหารโรงพยาบาลครู มีเลขาธิการ สกสค.เป็นประธาน แพทย์ประจำในโรงพยาบาล และผู้ทรงคุณวุฒิจากภายนอก เพื่อมาช่วยกำหนดนโยบาย และทิศทางการดำเนินงาน และคณะกรรมการแพทย์ประจำโรงพยาบาลครู โดยมีผู้อำนวยการโรงพยาบบาลครู เป็นประธาน ประกอบด้วย แพทย์ผู้เชี่ยวชาญ 6 คน เป็นกรรมการ ผู้อำนวยการกลุ่มเภสัชกร เป็นเลขานุการ ซึ่งคณะกรรมการชุดนี้จะเป็นคณะกรรมการปฏิบัติการ อยู่ภายใต้คณะกรรมการชุดแรก มีหน้าที่บริหารจัดการโรงพยาบาลครู รวมทั้งกำหนดความจำเป็นของเวชภัณฑ์ คัดเลือกและจัดซื้อยา ซึ่งคณะกรรมการชุดนี้จะไม่มีเจ้าหน้าที่จาก สกสค. เข้ามายุ่งเกี่ยว เพราะมองว่าเรื่องการจัดจ่ายยา ต้องมาจากผู้เชี่ยวชาญอย่างเดียวเท่านั้น
“ตอนนี้มอบมหายให้คณะกรรมการแพทย์ประจำโรงพยาบาลครู ไปสำรวจอุปกรณ์และเครื่องมือการแพทย์ และจัดทำรายละเอียดการจัดซื้อและเช่าอุปกรณ์การแพทย์ เพราะจากการสำรวจเบื้องต้นมีเครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่เก่ามาก เช่น เครื่องเอกซเรย์ใช้งานนานกว่า 15 ปี ต้องเปลี่ยนใหม่ นำระบบดิจิตอลเข้ามาใช้ ห้องแล็บ และเครื่องมือในต่างๆ ในห้องแล็บ เป็นต้น ตอนนี้กำลังหาผู้เช่า และตั้งงบประมาณเพื่อจัดหาอุปกรณ์ใหม่ คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในเดือนธันวาคม เพื่อรองรับการเปิดคลินิกพิเศษนอกเวลาราชการ ซึ่งจะพยายามเปิดโรงพยาบาลครูให้ทันในเดือนมกราคม 2562” นายอรรถพล กล่าว และว่า โรงพยาบาลครู เป็นโรงพยาบาลประเภทไม่มีเตียงคนไข้ อย่างไรก็ตาม สกสค. ต้องเตรียมเตียงผู้ป่วยฉุกเฉิน ห้องฉุกเฉิน และห้องพักเพื่อรอดูอาการ และรถพยาบาลในการส่งต่อผู้ป่วยฉุกเฉิน
นายอรรถพล กล่าวต่อว่า ในส่วนของบุคลากรทางการแพทย์ เดิมโรงพยาบาลครูมีแพทย์ประจำ 1 รายเท่านั้น ขณะนี้จะต้องหาแพทย์ประจำเพิ่มขึ้น และกำลังสรรหาพยาบาลที่มาประจำเพิ่มเติม ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการประกาศรับสมัครพยาบาลแทนตำแหน่งว่างอยู่ 2 อัตรา ตนมองว่าจุดแข็งของโรงพยาบาลครู คือจะมีแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญ และโรงพยาบาลครู แห่งนี้จะอำนวยความสะดวกให้ครูและชุมชนโดยรอบ เพราะไปมาสะดวก ทั้งยังเป็นสถานพยาบาลของรัฐที่ใช้สิทธิประกันสังคมเบิกได้
