ศธ.ยกเครื่อง ‘คุรุสภา-สกสค.’  ลดกก.เพื่อคล่องตัว-เลขาฯนั่งกก. เพิ่มอำนาจสกสค.หารายได้

เมื่อวันที่ 12 ธันวาคม ที่ห้องประชุมจันทรเกษม สำนักงานเลขาคุรุสภา นายบูรพาทิศ พลอยสุวรรณ รองเลขาธิกาาคุรุสภา และนายเอกศักดิ์ คงตระกูล รองเลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.) เป็นประธานจัดการประชุมเปิดรับฟังความคิดเห็นต่อร่าง พ.ร.บ.สภาครูและบุคลากรทางการศึกษา (ฉบับที่ 2) พ.ศ. … โดยมีผู้บุคลากรทางการศึกษาสนใจเข้าร่วมกว่า 50 ราย
นายบูรพาทิศ กล่าวว่า สาเหตุที่แก้ไขพ.ร.บ.สภาครูและบุคลากรทางการศึกษา เนื่องจาก 1.พ.ร.บ.เดิมใช้มากว่า 15 ปีแล้ว จำเป็นต้องปรับปรุงให้ทันสมัย 2.คําสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) มีผลให้คณะกรรมการมาตรฐานวิชาชีพ (กมว.) ไม่สามารถปฏิบัติงานได้ และ 3. จากเหตุผลทั้ง 2 ข้อ ที่ประชุมกรรมการคุรุสภา ที่มี นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เป็นประธาน มอบมหายให้สำนักงานเลขาธิการคุรุสภา เป็นผู้ดำเนินงานและตั้งคณะทำงานพิจารณาการแก้ไขพ.ร.บ.สภาครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ.2546 โดยมี นางวัฒนาพร ระงับทุกข์ ปฏิบัติหน้าที่เลขาธิการคุรุสภาเป็นประธาน

“จึงเป็นเหตุให้คุรุสภา และ สกสค.ร่วมกับแก้ไข พ.ร.บ.เพื่อให้เหมาะสมกับปัจจุบัน ปรับปรุงการบริหารจัดการคุรุสภา และ สกสค. ให้เกิดความคล่องตัวและมีประสิทธิภาพ อีกทั้งเพื่อพัฒนาการกำกับดูแลปฏิบัติตามจรรยาบรรณวิชาชีพให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น และเพื่อให้สอดคล้องกับรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2560 และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง” นายบูรพาทิศ กล่าว

นายบูรพาทิศ กล่าวว่า สาระการแก้ไข เช่น หมวดที่ 1 เพิ่มเติมองค์ประกอบของคณะกรรมการคุรุสภา จากเดิม 39 คน ลดเหลือ 22 คน ประกอบด้วย รัฐมนตรีว่าการ ศธ. เป็นประธาน กรรมการโดยตำแหน่ง 8 คน กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ 4 คน กรรมการจากผู้ดำรงตำแหน่งคณบดีครุศาสตร์/ศึกษาศาสตร์ หรือการศึกษาทั้งรัฐและเอกชน 2 คน กรรมการจากผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษาทั้งรัฐและเอกชน 6 คน และให้เลขาธิการคุรุสภา เป็นกรรมการและเลขานุการ แก้ไขคุณสมบัติ ลักษณะต้องห้ามการอยู่ในตำแหน่ง และการพ้นจากตำแหน่งของคณะกรรมการคุรุสภา โดยกรรมการที่มาจากครู ต้องมีประสบการณ์ด้านปฏิบัติการสอนรวมกันไม่น้อยกว่า 20 ปี หรือมีวิทยฐานะไม่ต่ำกว่าผู้เชี่ยวชาญ เป็นต้น การปรับลดคณะกรรมการคุรุสภา เพื่อให้เกิดความคล่องตัว

นายบูรพาทิศ กล่าวต่อว่า ส่วนของ สกสค. จะมีการปรับโครงสร้างที่คล้ายกัน คือ แก้ไขเพิ่มเติมองค์ประกอบของคณะกรรมการ สกสค. จากเดิมมี 23 คน ลดเหลือ 21 คน ประกอบด้วย รัฐมนตรีว่าการ ศธ. เป็นประธาน กรรมการโดยตำแหน่ง 7 คน กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ 6 คน กรรมการที่ได้รับการเลือกตั้งจากผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษาหรือบุคลากรทางการศึกษาอื่น หรือข้าราชการพลเรือนที่เกี่ยวข้องกับการศึกษา 6 คน และให้เลขาธิการ สกสค.เป็นกรรมการและเลขานุการ เพื่อให้การบริหารงานคล่องตัว ทั้งยังแก้ไขเพิ่มเติมอำนาจหน้าที่ของ สกสค. ในมาตรา 63 เช่น ดำเนินงานและบริหารจัดการองค์การจัดหาผลประโยชน์ของ สกสค. ให้เป็นไปตามข้อบังคับและไม่ขัดต่อกฎหมาย หรือ แต่งตั้งคณะกรรมการ หรือคณะอนุกรรมการ หรือมอบหมายให้กรรมการ สกสค.เพื่อกระทำการใดๆ แทน ตามที่กฎหมายให้อำนาจไว้และไม่ขัดต่อกฎหมาย เป็นต้น
“การเปิดรับฟังความคิดเห็นเป็นไปตาม มาตรา 77 ของรัฐธรรมนูญ นอกจากนี้ยังได้เผยแพร่ร่างพ.ร.บ.ที่เว็บไซต์ www.ksp.or.th ผู้สนใจสามารถเข้าไปแสดงความคิดเห็นได้ถึงวันที่ 17 ธันวาคมนี้ จากนี้จะประมวลความคิดเห็น ก่อนนำไปปรับปรุงร่างพ.ร.บ. และเสนอต่อที่ประชุมคณะกรรมการคุรุสภา ที่มีรัฐมนตรีว่าการศธ. เป็นประธานต่อไป คาดว่าจะเสนอได้ภายในเดือนธันวาคมนี้” นายบูรพาทิศ กล่าว

Advertisement

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image