จากกรณีโรงเรียนกรุงเทพคริสเตียน ประกาศให้นักเรียนสวมชุดไปรเวทมาเรียนได้ทุกวันอังคาร โดยได้วันอังคารที่ 8 มกราคม นี้เป็นวันแรก ท่ามกลางเสียงคัดค้านจากศิษย์เก่าบางส่วนนั้น นายศุภกิจ จิตคล่องทรัพย์ ผู้อำนวยการโรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย กล่าวว่า บรรยากาศวันแรกที่ให้เด็กใส่ชุดไปรเวทมาเรียนถือ ว่า ค่อนข้างดี ทุกคนยิ้มแย้มแจ่มใส ส่วนผู้ปกครองและศิษย์เก่า เท่าที่ดูเป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้น หลายคนเมื่อได้รับข้อมูลอย่างรอบด้านก็มีความเข้าใจมากขึ้น ทั้งนี้การแต่งชุดไปรเวทมาเรียนทุกวันอังคารเป็นงานวิจัยของโรงเรียน โดยไม่มีการบังคับ เป้าหมาย เพื่ออยากให้โรงเรียนสถานที่แห่งความสุขของนักเรียน เชื่อว่าแค่หนึ่งวันของนักเรียน จะเป็นการสร้างความสุขให้เด็ก มีความคิดสร้างสรรค์ และต้องการสะท้อนว่า ความแตกต่างของแต่ละคนสามารถอยู่ด้วยกันได้ หากพบว่าการแต่งชุดไปรเวทมาเรียนแล้วทำให้ผลการเรียนแย่ลง หรือได้รับผลกระทบต่อการเรียนหนังสือก็จะยกเลิกทันที
นายศุภกิจ กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตามงานวิจัยครั้งนี้ทางโรงเรียนดูอย่างรอบด้าน ทั้งเรื่องความเหลื่อมล้ำ ความมีระเบียบวินัยและการใช้ชีวิตร่วมกันอย่างมีความสุขของนักเรียน ซึ่งเราคิดถึงบริบทของโรงเรียนกรุงเทพคริสเตียน เป็นหลัก เชื่อว่าจะเป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้น ส่วนโรงเรียนอื่น ๆ จะทำตามด้วยนั้น คงต้องดูบริบทของแต่ละแห่ง
“เรามีการคุยเรื่องนี้กันมานานกว่า 10 ปี จุดเริ่มต้นเกิดจากตัวผมเอง ในขณะที่เป็นรองผู้อำนวยการโรงเรียนกรุงเทพคริสเตียน ได้ถูกส่งศึกษาต่อที่ประเทศสหรัฐอเมริกา จึงได้มีโอกาสเห็นงานวิจัยเกี่ยวกับเรื่องการแต่งกายและความสุขในการเรียน ดังนั้นเมื่อกลับมาจึงมีการเสนอเรื่องนี้ ซึ่งได้มีการพูดคุยกับผู้ที่เกี่ยวข้องผ่านกระบวนการกลั่นกรอง จนตกผลึก และเริ่มโครงการวิจัยเรื่องดังกล่าว ทั้งนี้ปัจจุบันเราสอนเด็กไม่ใช่เฉพาะเรื่องสติปัญญาเท่านั้น แต่ยังต้องสร้างความเป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์ ซึ่งจะต้องมีทั้งความรู้และบุคลิกภาพที่ดี มีความเป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์ โดยขณะนี้ทางโรงเรียนยังเหลือเวลาทดลองช่วงเทอมนี้อีก ประมาณ 6 สัปดาห์ ซึ่งถือว่าไม่มาก แต่หากเราพบว่า เด็กสามารถเรียนได้อย่างมีความสุข จะเริ่มการทดลองในสเต็ปต่อไป ดูผลที่เกิดขึ้นในด้านความคิดสร้างสรรค์และความกล้าแสดงออกของเด็ก ๆ ซึ่งในส่วนนี้อาจใช้เวลาเป็นปี จึงจะเห็นผลที่เกิดขึ้น ”ผู้อำนวยการโรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนกล่าว และว่า อย่างไรก็ตามหากผลวิจัยเป็นไปในทิศทางที่ดี จะเปิดโอกาสให้เด็กแต่งชุดไปรเวทได้มากกว่า 1 วันหรือไม่นั้น เบื้องต้นคิดว่า การแต่งชุดไปรเวทมาเรียนสัปดาห์ละ 1 วันถือเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมแล้ว
นายสมพงษ์ จิตระดับ อาจารย์คณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นโจทย์ที่ท้าทาย สังคมไทยมีวิธีคิดแบบอนุรักษ์นิยมมาโดยตลอด ว่าต้องเป็นคนมีระเบียบวินัย ใส่เครื่องแบบนักเรียน อยู่ในกรอบและต้องตัดผมสั้น การที่โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนเปิดโอกาสให้เด็กใส่ชุดไปรเวทได้สัปดาห์ละ 1 วัน ถือว่าเป็นการปลดล็อก ส่วนตัวเห็นด้วย และอยากให้ผู้ปกครอง ศิษย์เก่า และสังคมทำความเข้าใจ และเปลี่ยนความคิดเกี่ยวกับการแต่งกาย ซึ่งส่วนตัวเห็นด้วยที่โรงเรียนค่อย ๆ มีการปรับเปลี่ยน เชื่อว่า หากมีงานวิจัยที่ชี้ชัดถึงผลกระทบที่เกิดขึ้นกับการเรียนการสอน การแต่งกายชุดไปรเวทในโรงเรียนจะขยายวงกว้างขึ้น แต่ก็ต้องทำแบบค่อยเป็นค่อยไป เพราะต้องยอมรับว่าบ้านเรายังคงมีความเหลื่อมล้ำ ทางด้านการศึกษาอยู่มาก และการแต่งกายถือเป็นความเหลื่อมล้ำอีกด้านหนึ่ง ดังนั้น ถ้าเราสามารถลดความเหลื่อมล้ำในการจัดการศึกษาลงได้ การแต่งกายไปรเวทก็จะไม่ใช่ปัญหา
“ส่วนตัวผมเห็นด้วย กับแนวคิดนี้ เพราะตอบโจทย์กับสังคมยุคปัจจุบัน ส่วนเรื่องความมีระเบียบวินัยนั้น ต่อไปเราต้องปรับวิธีคิด และส่งเสริมให้เด็กมีวินัยจากภายใน มาจากจิตสำนึก ไม่ใช่การมีวินัยด้วยการบังคับ หรือมีวินัยเฉพาะต่อหน้ากันเท่านั้น เชื่อว่า เรื่องนี้จะขยายวงกว้างมากขึ้น แต่เป็นแบบค่อยเป็นค่อยไป และคงจะเริ่มในโรงเรียนเอกชน และโรงเรียนขนาดใหญ่ก่อน”นายสมพงษ์กล่าว
