กรณีที่มีผู้ปกครองด.ญอายุ 14 ปี ได้ออกมาประกาศขอความช่วยเหลือให้ช่วยตามหาลูกสาว ซึ่งหายตัวไปหลายวัน ก่อนเจ้าหน้าที่ตำรวจจะไปพบตัวที่จังหวัดเชียงใหม่ ว่าเดินทางไปกับผู้ปกครองของเพื่อน นำมาสู่การแจ้งข้อหาพรากผู้เยาว์กับผู้ปกครองรายดังกล่าว และนำตัวเด็กหญิงเข้าสู่การคุ้มครองดูแลของกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่งคงของมนุษย์ (พม.) นั้น
เมื่อวันที่ 12 มกราคม นายกิตติ บุญเชิด ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา(สพม.) เขต 1 กรุงเทพมหานคร กล่าวว่า จากข่าวการหายตัวไปของด.ญ.อายุ 14 ปี เบื้องต้นทางโรงเรียนของเด็กได้รายงานมาข้อมูลมายังเขตพื้นที่แล้วตั้งแต่วันแรกแล้ว โดยทางโรงเรียนประสานและทำงานร่วมกันกับ สพม.เขต 1 ตลอดเวลา และทาง สพม. เขต 1 ได้รายงานต่อไปยังสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ให้ทราบทุกระยะเช่นกัน โดยเมื่อเด็กกลับมาแล้ว ทางโรงเรียนแจ้งว่า เด็กสามารถกลับมาเรียนได้ตามปกติ โดยตนได้กำชับว่า การดำเนินการทุกอย่างต้องคำนึงถึงสิทธิเด็ก และต้องทำงานร่วมกับผู้ปกครอง และหน่วยงานต่างๆ เพื่อช่วยเหลือเด็ก
ผู้อำนวยการโรงเรียนแห่งหนึ่ง กล่าวว่า หากเด็กกลับมาเรียน ทางโรงเรียนได้เตรียมการสอนเพิ่มเติมให้ เนื่องจากเด็กหญิงอายุ 14 ปี ขาดเรียนมาหลายวัน แม้จะเป็นการขาดเรียนในระยะเวลาที่ไม่นานก็ตาม ซึ่งตนคาดว่าเรื่องการเรียนจะไม่มีปัญหาใดๆ
“อย่างไรก็ตาม ทางโรงเรียนต้องดูแล และให้โอกาสทางการศึกษากับเด็กหญิงอายุ 14 ปี และจะไม่ตัดโอกาสการเรียนของน้องโดยเด็ดขาด เพราะที่ผ่านมาน้องเป็นเด็กดี ตั้งใจเรียน เรื่องนี้อาจเป็นส่วนตัว ตั้งแต่น้องหายตัวไป ทางโรงเรียนได้หารือกันตั้งแต่วันแรก ว่าต้องทำอย่างไร สามารถช่วยเหลือหรือประสานงานหน่วยงานใดได้บ้างเพื่อช่วยตามตัวน้อง อีกทั้ง โรงเรียนต้องคำนึงถึงสิทธิเด็ก และได้กำชับให้ครู และเพื่อนร่วมชั้นของเด็กอายุ 14 ปี แล้วว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องละเอียดอ่อน ซึ่งทางเพื่อนๆขอน้องเองก็เข้าใจ ไม่มีปัญหาใดๆ หากน้องกลับเข้ามาเรียน ทางโรงเรียนจะดูแลน้องในส่วนที่โรงเรียนสามารถดูแลได้ และจะทำงานประสานกับหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้องช่วยเหลือน้องอีกทางหนึ่งด้วย”น.ส.วิมลนาถกล่าว
