กสศ.จี้ 4.4 พันร.ร.รับรองข้อมูลเด็กยากจนพิเศษเข้าระบบ

น.ส.ชูสะอาด กันธรส ผู้อำนวยการสำนักบริหารเงินอุดหนุนผู้ขาดแคลนทุนทรัพย์ กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.)  เปิดเผยว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ กองทุนกสศ. จัดเสวนาติดตามเงินอุดหนุนนักเรียนยากจนพิเศษ จัดสรรช่วยเหลือแล้วแก้ปัญหาตรงจุดอย่างไร ที่โรงเรียนสตรีวัดอัปสรสวรรค์ โดยที่ผ่านมา กสศ. ได้โอนเงินอุดหนุนในรอบแรกให้แก่โรงเรียนและผู้ปกครองที่ส่งข้อมูลเข้ามาและผ่านการตรวจสอบความถูกต้อง ครบถ้วน เสร็จเรียบร้อยแล้วเป็นเงินทั้งสิ้น 393,932,400 บาท ครอบคลุมโรงเรียนจำนวน 16,497 โรงเรียน และนักเรียนจำนวน 364,527 คน โรงเรียนสามารถตรวจสอบการโอนเงินได้จาก User ของ Admin โรงเรียน และเมื่อได้รับเงินอุดหนุนแล้ว สามารถดำเนินการตามแผนการใช้เงินที่เสนอไว้แก่คณะกรรมการสถานศึกษาได้ทันที สำหรับเงินอุดหนุนนักเรียน ที่ผู้ปกครองไม่มีบัญชีเงินฝากธนาคารและขอรับเงินสดจากโรงเรียน ควรเบิกจ่ายแก่นักเรียนภายใน 7-10 วัน นับจากวันที่ได้รับเงินโอนจาก กสศ. โดยหลังจากนี้สถานศึกษาและครูจะรายงานบันทึกการมาเรียน รวมถึงน้ำหนัก ส่วนสูงของนักเรียนยากจนพิเศษรายบุคคลอย่างใกล้ชิดตลอดปีการศึกษาผ่าน cct.thaieduforall.org ตามข้อตกลงการจัดสรรเงินอุดหนุนอย่างมีเงื่อนไข ซึ่งจะเป็นข้อมูลและผลลัพธ์ที่สำคัญในการจัดสรรเงินอุดหนุนภาคเรียนถัดไป  โดยนักเรียนยากจนพิเศษจะต้องมีอัตราการมาเรียนสูงกว่าร้อยละ 80 ของเวลาเรียน  หลังจากนี้ทางเขตพื้นที่การศึกษาจะช่วยลงพื้นที่สนับสนุน ติดตามผลการใช้เงินอุดหนุน และการดำเนินงานของทางโรงเรียนต่อไป

“จากการตรวจสอบระบบการจ่ายเงินอุดหนุน เราพบว่าขณะนี้ยังมีโรงเรียน 2 กลุ่ม ที่ขอความร่วมมือให้เร่งดำเนินการเข้ามาในระบบได้แก่ 1.กลุ่มที่ต้องแก้ไขข้อมูลที่ส่งเข้ามาให้ถูกต้อง เช่น กรอกชื่อบัญชีเงินฝาก เลขบัญชีธนาคารไม่ถูกต้อง  และ2 กลุ่มที่ยังไม่ได้ดำเนินการส่งข้อมูลเข้ามาเลยจำนวนรวมทั้งสิ้น 7,070 โรงเรียน ซึ่งหลังจากเปิดระบบรอบสุดท้ายในปีการศึกษา 2561 ล่าสุด มีโรงเรียนกรอกข้อมูลเข้ามาเพิ่มเติมมากกว่า 2,600 โรงเรียนหรือ ประมาณ 1 ใน 3 ของรายชื่อโรงเรียนที่เหลืออยู่ โดยระบบจะยังเปิดไปจนถึงวันพุธที่ 16 มกราคม 2562 นี้ จึงขอประชาสัมพันธ์ให้สถานศึกษาอีกราว 4,400 แห่งเร่งจัดประชุมคณะกรรมการสถานศึกษาเพื่อส่งผลการรับรองรายชื่อนักเรียนยากจนพิเศษ และดำเนินการเปิดบัญชีสถานศึกษาพร้อมทั้งระบุชื่อ-เลขบัญชีให้ถูกต้องเพื่อมิให้นักเรียนเสียโอกาสในการรับเงินอุดหนุนยากจนพิเศษในปีการศึกษานี้

Advertisement

ด้านนายสุภกร บัวสาย ผู้จัดการ กสศ. กล่าวว่า หัวใจสำคัญของเงินอุดหนุนนักเรียนยากจนพิเศษ คือการดูแลและพัฒนานักเรียนเป็นรายบุคคล ตามสภาพปัญหาที่แตกต่างกัน กรณีของโรงเรียนสตรีวัดอัปสรสวรรค์ ถือเป็นต้นแบบการขยายผลเงินอุดหนุนนักเรียนยากจนพิเศษ ด้วยงบประมาณจำนวนไม่มาก แต่โรงเรียนวางแผนต่อยอด สร้างมูลค่าเพิ่ม เมื่อสำรวจว่านักเรียนมีความสนใจด้านเบเกอรี่ จึงเปิดคอร์สพิเศษเพื่อสอนนักเรียนกลุ่มนี้ ซึ่งการเรียนการสอนสามารถบูรณาการทั้งในส่วนทักษะการทำอาหารเพื่อสร้างอาชีพ การบูรณาการกับวิชาการเรียนอื่นๆที่เกี่ยวข้อง เช่น คณิตศาสตร์ การคำนวณต้นกำไรขาดทุน การชั่งตวงวัด วิทยาศาสตร์อาหาร ความคิดสร้างสรรค์ในการการออกแบบผลิตภัณฑ์  การวางแผนการขาย และการทำการตลาด ซึ่งโรงเรียนสามารถเชิญวิทยากรจากภายนอกมาร่วมให้ความรู้ได้

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image