เจ้าคณะหนองบัวลำภูอึ้งโครงกระดูกเผาไม่ไหม้ กรมศิลป์ชี้ไร่อ้อย ‘พรศักดิ์ ส่องแสง’ สุสานยุคปลายบ้านเชียง

เมื่อวันที่ 16 มกราคม ที่ จ.หนองบัวลำภู ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นักโบราณคดี สำนักศิลปากรที่ 8 ขอนแก่น พร้อมคณะนายอำเภอเมืองหนองบัวลำภู และ น.ส.พัชนี สภาวัฒนธรรมจังหวัดหนองบัวลำภู เข้าตรวจสอบพื้นที่ และโครงกระดูกที่ขุดค้นพบที่บริเวณไร่อ้อยของนักร้องชื่อดัง นายพรศักดิ์ ส่องแสง ที่บ้านโคกกุง หมู่ 8 ต.บ้านขาม อ.เมือง จ.หนองบัวลำภู ที่ได้ขุดเป็นหลุมลึกประมาณ 2.50 เมตร ขนาดของหลุมกว้าง 6 เมตร ยาว 15 เมตร พบโครงกระดูก และภาชนะดินเผา อุปกรณ์โลหะต่างๆ จำนวนมาก รวมทั้งมีเครื่องมือโลหะประเภทมีด หอก ดาบ และเครื่องมือไม่ทราบชื่ออีกจำนวนหนึ่ง นอกจากนี้ ยังมีภาชนะประเภทดินเผา ทั้งที่มีสีแดงและสีเทา ที่ถูกรถแบ๊กโฮขุดขึ้นมากองไว้บริเวณรอบๆ ทิ้งกระจัดกระจาย

ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า หลังการขุดพบ นายพรศักดิ์ได้นำโครงกระดูก และเครื่องปั้นดินเผา โลหะต่างๆ ไปมอบให้พระราชวชิรธาดา เจ้าคณะจังหวัด และเจ้าอาวาสวัดพัชรกิติยาภาราม บ้านเพ็กเฟื้อย ต.หนองหว้า อ.เมือง จ.หนองบัวลำภู พร้อมทำพิธีฌาปนกิจโครงกระดูก เพื่ออุทิศส่วนกุศลให้กับดวงวิญญาณของโครงกระดูก ตามที่ได้ฝันว่ามีวิญญาณขอให้ขุดโครงกระดูกขึ้นมาอุทิศบุญกุศลให้กับวิญญาณที่ล่วงลับไปแล้ว

ด้านพระราชวชิรธาดากล่าวว่า นายพรศักดิ์เจ้าของพื้นที่ที่ขุดพบโครงกระดูก ต้องการให้ทางวัดทำพิธีอุทิศบุญส่วนกุศลให้กับดวงวิญญาณ เจ้ากรรม นายเวร ตามประเพณี และนำสิ่งของอุปกรณ์ ภาชนะ ที่ขุดค้นพบนำจัดแสดงไว้เป็นพิพิธภัณฑ์ให้ประชาชนได้ชมต่อไป ซึ่งเมื่อคืนที่ผ่านมาได้ประกอบพิธีเผาโครงกระดูกที่ขุดได้กว่า 300 โครง ทำการฌาปนกิจแล้ว แต่กระดูกไม่ไหม้

Advertisement

น.ส.ทิพย์วรรณ วงศ์อัสสไพบูลย์ นักโบราณคดีปฏิบัติการ สำนักศิลปากรที่ 8 ขอนแก่น กล่าวว่า จากหลักฐานโครงกระดูก เศษภาชนะดินเผาในหลุมดินที่ขุด น่าจะอยู่ในยุคสมัยเหล็กราว 2,500-3,000 ปีก่อนประวัติศาสตร์ ยุคเดียวกับบ้านเชียงตอนปลาย และจากหลักฐานลักษณะการฝังศพที่ขุดพบ น่าจะเป็นสุสานฝังศพของชุมชนในสมัยนั้น ขณะนี้ได้ให้หยุดทำการขุดพื้นที่ดังกล่าวแล้ว และขอให้กลบคืนสภาพเดิม เพื่อให้เจ้าของพื้นที่ทำการเกษตรได้ตามปกติ หากมีการลักลอบขุดค้นจะถูกดำเนินคดีตาม พ.ร.บ.โบราณสถานโบราณวัสดุ ที่ให้อำนาจทางราชการในการควบคุม กำกับ ดูแลสมบัติของชาติ

“ได้เดินทางไปกราบนมัสการพระราชวชิรธาดา เพื่อดูโครงกระดูกและอุปกรณ์ที่นำไปฝากไว้ที่วัดพัชรกิติยาภาราม พร้อมนับจำนวนชิ้น ห่อเก็บอุปกรณ์หม้อดินไว้อย่างมิดชิด และจะเดินทางไปลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานที่สถานีตำรวจภูธรเมืองหนองบัวลำภู พร้อมชี้แจงแนวทางการทำพิพิธภัณฑ์ เพื่อเก็บหม้อดินเผา วัสดุ อุปกรณ์ ที่ขุดค้นพบ เพื่อให้ถูกต้องต่อไป” น.ส.ทิพย์วรรณกล่าว

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image