‘ศิลปินแห่งชาติ’ ติง อย่าโทษแต่ ‘น้ำใส’ โวยการศึกษาไทยปลูกฝังค่านิยมฝักใฝ่เผด็จการ ตัดต่อความทรงจำปวศ.

สุชาติ สวัสดิ์ศรี

เมื่อวันที่ 27 มกราคม นายสุชาติ สวัสดิ์ศรี ศิลปินแห่งชาติสาขาวรรณศิลป์ เผยแพร่ข้อความในเฟซบุ๊ก แสดงความเห็นต่อกรณี ‘น้ำใส’ บีเอ็นเค สวมเสื้อมีสัญลักษณ์นาซีซึ่งเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง โดยมองว่า ประเด็นดังกล่าว อย่าโทษแต่เด็ก ต้องโทษระบบการศึกษาที่มีโครงสร้างการเรียนการสอนให้คลั่งชาติ ชาตินิยม จิตสำนึกคับแคบ ซ้ำยังตัดต่อความทรงจำทางประวัติศาสตร์และยัดเยียดคำขวัญต่างๆ

รายละเอียดดังนี้

เราจะไปโทษเด็กใส่เสื้อนาซีอย่างเดียวไม่ได้ เราต้องโทษระบบการศึกษาของชาติที่มีโครงสร้างคลั่งชาติ และชาตินิยมขวาจัดและปลูกฝังค่านิยมคับแคบ และฝังแฝงไว้ในจิตใต้สำนึกของผู้คนในสังคม จากรุ่นสู่รุ่น จากผู้ใหญ่สู่เด็ก ว่ากันมายาวนาน แนบเนียน อยู่ในโครงสร้างหลักของชาติ

ตั้งแต่แบบเรียนจำพวก “ต้นตระกูลไทย” และเพลงปลุกใจจำพวก “ไทย ไทย ไทย ยิ่งใหญ่ไชโย” สืบเนื่องเรื่อยมาจนถึงการใช้วิธีรุนแรง ” อ้มหาย อุ้มฆ่า” ฝักใฝ่ และปลูกฝังค่านิยม และจิตสำนึกคับแคบ ทั้งที่เป็น “วิถีชีวิต” และ “วิธีปฎิบัติ” จนก่อเกิดอาการ “คลั่งชาติ” กันอย่างไร้เหตุผล ว่ากันมาตั้งแต่สมัย “รัฐนิยม” ก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2 เรื่อยมาจนถึงการทำรัฐประหารโดย “คณะทหาร” หลายครั้งหลายหน ทำลายความต่อเนื่องของค่านิยมประชาธิปไตย ที่เห็นคนเท่ากัน ( เสรีภาพ เสมอภาค ภราดรภาพ ) แต่ไปปลูกฝังค่านิยม “ฝักใฝ่เผด็จการ” ลดทอนอำนาจอธิปไตยของปวงชน และการกระจายอำนาจให้ราษฏร ซึ่งเท่ากับเป็นการส่งเสริมอภิสิทธิชนและสร้างลัทธิ “คณาธิปไตย” ให้กับ “ระบบราชการ” และ “ระบบเศรษฐี” เป็นใหญ่ ที่ใช้โครงสร้าง “คลั่งชาติ” เป็นเครื่องมีอปลูกฝังชาตินิยมแบบคับแคบ และนำไปเป็นเครื่องมือทางการเมืองของตนที่ฝักใฝ่ไปทาง “รวมศูนย์อำนาจ”

Advertisement

รูปธรรมมีให้เห็นมาในทุกครั้งที่มีการยึดอำนาจ รัฐประหาร ตัดต่อความทรงจำ ยัดเยียดคำขวัญ บิดเบือนข้อเท็จจริงทางประวัติศาสตร์ ข่มขู่คุกคามให้อยู่ในความกลัว อุ้มหาย อุ้มฆ่า ใช้อภินิหารทางกฎหมายในแบบ Rule by Law กันมาอย่างยาวนาน ทั้งในแบบที่เป็น “กระบวนการ” ( Process เช่น ตำราเรียน ) และ “ขบวนการ” ( Movement เช่น กปปส.)

อย่าไปโทษ “เด็ก” ที่ใส่เสื้อนาซีเพราะความไม่รู้นั่นเลย แต่ต้องโทษ “ผู้ใหญ่” ในสังคมที่ปลูกฝังค่านิยมฝักใฝ่เผด็จการ อำนาจนิยม ตัดต่อความทรงจำ และทำลายโครงสร้าง “ประชาธิปไตย” ที่อำนาจอธิปไตยเป็นของประชาชน ทำลายอำนาจของประชาชน “ผ่าน” คะแนนเสียงเลือกตั้ง กันมาเรื่อย ตลอดเวลา 86 ปีที่ผ่านมา

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image