‘ปชป.’ ชู ‘เกิดปั๊บรับแสน’ สร้างเด็ก “เก่ง-ดี” ตั้งแต่ในท้อง

พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ถือเป็นพรรคการเมืองที่เก่าแก่ที่สุดพรรคหนึ่งของประเทศไทย และมักจะถูกจับตามองทุกครั้งที่มีการเลือกตั้ง ซึ่งที่ผ่านมาแต่ละพรรคต่างแข่งขันกันชูนโยบายด้านต่างๆ เพื่อดึงคะแนนเสียงจากประชาชนอย่างไม่มีใครยอมใคร และหนึ่งในนโยบายที่หลายคนจับตามอง คงหนีไม่พ้นนโยบายด้าน “การศึกษา” ซึ่งสำคัญไม่แพ้เรื่องปากท้อง เพราะเป็นรากฐานสำคัญในการพัฒนาอนาคตของชาติ

“มติชน” จึงถือโอกาสจับเข่าคุยกับแกนนำพรรคอย่าง นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองหัวหน้า ปชป.เกี่ยวกับนโยบายการศึกษา ซึ่งนายจุรินทร์เคยนั่งเก้าอี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) มาแล้ว โดยย้ำว่าการเขียนนโยบายครั้งนี้ ปชป.นำประสบการณ์ในฐานะเป็นอดีตรัฐมนตรีว่าการ ศธ.และอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) มาประมวลก่อนกำหนดเป็นนโยบายการศึกษา เพื่อพัฒนาเด็กไทย…

สำหรับนโยบายด้านการศึกษาของ ปชป.ครั้งนี้ จะให้ความสำคัญกับการสร้างคนให้มีศักยภาพ คือ มีทั้งสุขภาพที่ดี มีความเป็นคนเก่ง และคนดี

ทั้งนี้ ในส่วนของความมีสุขภาพดีนั้น มุ่งเน้นให้เด็กมีสุขภาพสมบูรณ์ทั้งร่างกาย และสมอง ตั้งแต่อยู่ในครรภ์มารดา โดยจะให้รับฝากครรภ์ฟรี และแจกวิตามินส่งผลที่ดีกับสมอง และร่างกาย พอเกิดมาก็มีนโยบาย “เกิดปั๊บรับแสน” ให้พ่อแม่ ซึ่งบางส่วนเป็นผู้ด้อยโอกาส ให้มีเงินเลี้ยงลูกได้จนครบอายุ 8 ปี โดยเดือนแรกรับทันที 5 พันบาท จากนั้นรับเดือนละ 1 พันบาท อีก 96 เดือน ซึ่งพรรคคิดแล้วว่ามีงบประมาณเพียงพอที่จะดำเนินการเรื่องนี้ เพราะก่อนที่จะจัดทำนโยบายเรื่องใดออกมา จะสำรวจแล้วว่าทำได้จริงหรือไม่

Advertisement

ส่วนนโยบายสร้างเด็กเก่ง และดี เน้นผลที่จะเกิดขึ้นกับนักเรียนนักศึกษา ถ้าจบการศึกษาออกมาแล้ว จะต้องมีทักษะในการคิดวิเคราะห์ สามารถใช้เทคโนโลยีในชีวิตประจำวันได้อย่างดี รวมถึง มีทักษะการใช้ภาษาต่างประเทศได้อย่างน้อย 2 ภาษา มีคุณธรรม จริยธรรม มีจิตสาธารณะ รู้จักสิทธิมนุษยชนในฐานะที่เป็นพลเมืองของประเทศ

ทั้งหมดที่กล่าวมานี้ คือเป้าหมายในการผลิตบัณฑิต โดยมีรายละเอียดนโยบายต่างๆ ที่เชื่อมโยงกัน ทั้งการดูแลสุขภาพเด็กตั้งแต่อยู่ในครรภ์มารดา พอเกิดปุ๊บรับทันที 1 แสนบาท จัดตั้งศูนย์เด็กเล็กดูแล จากนั้นเมื่อเข้าสู่วัยเรียน จะมีนโยบายเรียนฟรีถึงระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.) เน้นพัฒนาฝีมือ จบมีงานทำ แจกคูปองการศึกษาตลอดชีวิต เพิ่มทักษะและส่งเสริมการเรียนรู้ให้ประชาชนทุกช่วงวัย จัดโครงการอาหารเช้า และอาหารกลางวันฟรี ตั้งแต่อนุบาลจนถึงชั้น ม.3

นอกจากนี้ ยัง “ปรับหลักสูตร” ให้สอดคล้องกับโลกอนาคต จัดหลักสูตร English for All โดยเจ้าของภาษา เน้นทักษะการสื่อสารตั้งแต่ระดับชั้นอนุบาล เน้นการคิดวิเคราะห์มากกว่าการท่องจำ

Advertisement

จัดโครงการ “คืนครูให้โรงเรียน” โดยยกเลิกไม่ให้ครูทำงานธุรการ เพื่อให้มีเวลาปฏิบัติการสอนในห้องเรียนอย่างเต็มที่ โดยโครงการนี้ นายจุรินทร์การันตีว่าเคยทำ และประสบความสำเร็จในช่วงที่เป็นรัฐมนตรีว่าการ ศธ.โดยสามารถคืนครูกลับสู่ห้องเรียนได้กว่า 1 หมื่นคน

นอกจากนี้ ยังมีนโยบายจัดตั้ง กองทุน Smart Education เพื่อสนับสนุน Social Enterprise และ Startup ด้านการศึกษา รวมถึง การนำ เทคโนโลยี EdTech (Education Technology) เพื่อใช้ในการพัฒนาการเรียนการสอน และการสอบ ให้มีประสิทธิภาพ และการกระจายอำนาจจากกระทรวงสู่โรงเรียน

ปชป.ให้ความสำคัญกับนโยบายด้านการศึกษาเป็นลำดับต้นๆ ควบคู่กับการแก้ไขปัญหาความยากจน ซึ่งเป็นเรื่องเร่งด่วนที่ต้องแก้ไข ตามที่ได้ประกาศนโยบายไปแล้ว ว่าจะเดินหน้า แก้จน สร้างคน สร้างชาติ ในส่วนของการศึกษาจะเกี่ยวข้องกับการสร้างคน โดยปัจจุบันกระบวนการเรียนการสอน เป็นสิ่งสำคัญที่ต้องเร่งปรับปรุง เพื่อให้เด็กที่จบออกมามีศักยภาพ และไม่ใช่แค่เป็นคนเก่งอย่างเดียว แต่ต้องเป็นคนเก่ง และดี มีคุณธรรม รวมถึง สามารถคิดวิเคราะห์ไป ตรงนี้ถือเป็นเรื่องใหญ่

ทั้งนี้ การจัดทำนโยบายพรรค ปชป.วิเคราะห์จากสถานการณ์ปัจจุบัน และข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น โดยนำประสบการณ์ที่เคยเป็นรัฐมนตรีว่าการ ศธ.และรัฐมนตรีว่าการ สธ.มาประมวล และกำหนดเป็นนโยบาย

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image