เรียนไทยได้จีน : นิทานสุภาษิตจีน (146) 成语故事 (一四六)

(ที่มาภาพhttps://www.itsfun.com.tw/ 齊宣王使人吹竽/wiki-1349156-9985036)

นิทานสุภาษิตจีนที่ “เรียนไทยได้จีน” จะนำเสนอในฉบับนี้คือ 南郭先生 Nánɡuō xiānshēnɡ (หนานกัว เซียนเฌิง) คำว่า 南郭 Nánɡuō (หนานกัว) แปลว่าชื่อคนว่า หนานกัว 先生 xiānshēnɡ (เซียนเฌิง) สรรพนามใช้เรียกผู้ชาย หมายถึง คุณผู้ชาย คุณชาย คุณ หรือนาย รวมกันแปลว่า นายหนานกัว คุณชายหนานกัว ซึ่งหมายถึงคนที่ชอบโอ้อวดเกินความสามารถของตน คนที่ดีแต่พูดแต่ทำอะไรไม่เป็นสักอย่าง รายละเอียดดูตัวอย่างจากนิทานสุภาษิตนี้

จีนในยุคสมัยรัฐศึก 战国/戰國 Zhàn Guó (จ้านกั๋ว) แม้จะฟังชื่อแล้วคล้ายว่าจะเกิดสงครามสู้รบกันอยู่ตลอดเวลา จนไม่มีเวลาทำมาหากินกันเลยทีเดียว แต่ที่จริงแล้วผู้คนก็ยังคงใช้ชีวิตกันได้ตามปกติสุข อาจมีการรบกันบ้างระหว่างรัฐต่างๆ แต่ก็ไม่ได้บ่อยมากนัก ในช่วงยามสงบสุข ผู้คนแต่ละรัฐ
โดยเฉพาะระดับเจ้าแคว้นทั้งหลายก็จะมีการแสวงหาความสุขใส่ตัวที่แตกต่างกันออกไปที่รัฐฉี เจ้าผู้ครองนครรัฐฉีนามว่าฉีเซวียนหวัง 齐宣王/齊宣王 (Qí xuānwánɡ) นิยมฟังดนตรีที่บรรเลงด้วยเครื่องเป่าชนิดหนึ่ง เรียกว่า ยหวี 竽Yú คล้ายเครื่องเป่าแคนของไทย มีการเล่าต่อกันมาว่าฉีเซวียนหวัง สั่งให้จัดตั้งคณะบรรเลงดนตรีขนาดใหญ่ขึ้น ประกาศรับสมัครนักดนตรีที่เชี่ยวชาญการเป่ายหวีจำนวนสามร้อยคน ในเมืองศูนย์กลางรัฐฉีนี้ มีชายคนหนึ่งนามว่า
หนานกัว 南郭 (Nánɡuō) หนานกัวคนนี้เป็นคนไร้อาชีพประจำ ยึดการเล่นพนันขันต่อเป็นอาชีพ เช่น ชนไก่ แข่งม้า แต่เขาเป็นคนที่มีคารมคมคาย พูดเก่งจนเป็นที่เลื่องลือในชุมชน เมื่อเขาเห็นทางการประกาศรับสมัครนักดนตรีเป่ายหวี ซึ่งจะได้รับเงินเดือนและการเลี้ยงดูอย่างดี เขาจึงคิดว่า ถ้าได้ไปทำงานนี้แล้ว ชีวิตความเป็นอยู่ก็คงจะสุขสบายขึ้นอีก แต่เขาไม่มีความรู้ด้านดนตรีสักอย่างเดียว โดยเฉพาะการเป่ายหวี เขาไม่ละความอยากนี้ ก็ในเมื่อมีนักดนตรียหวีมากมายตั้งสาม
ร้อยคน เขาอยู่ท่ามกลางวงดนตรี ก็เสแสร้งทำเป็นเป่ายหวีไปเรื่อยๆ ก็จะไม่มีใครรู้ได้ เขาตัดสินใจไปสมัครและผ่านการคัดเลือกเข้าไปร่วมวงดนตรีในวังได้อย่างเหลือเชื่อด้วยเล่ห์กลและคารม เขาหลอกทุกคนได้อย่างแนบเนียน เมื่อยามว่าง ก็มีการพูดคุยถึงเรื่องดนตรี เขาก็จะพูดจาได้อย่างฉะฉาน อภิปรายอย่างมีหลักการ จนทุกคนยกย่องเขาว่าเป็นสุดยอดของนักดนตรีประจำวงเลยทีเดียว เหตุการณ์เป็นเช่นนี้ไปอีกนานจนฉีเซวียนหวังสิ้นพระชนม์ องค์รัชทายาทขึ้นปกครองแทน เจ้านายองค์ใหม่โปรดฟังดนตรีบรรเลงเดี่ยว เหล่านักดนตรีจึงเสนอชื่อหนานกัวให้เป็นคนแรกขึ้นบรรเลงเพลงถวายเจ้านายองค์ใหม่ เพราะทุกคนเชื่อว่าเขาคือสุดยอดของนักดนตรีประจำวง เมื่อหนานกัวรู้ข่าว ก็ตกใจยิ่งนัก ยืนตัวสั่น เหงื่อท่วมตัวอยู่ในบ้านพักสุดหรูของเขา ภายใต้เจ้านายคนใหม่นี้ เขาคงจะอยู่ที่นี่ต่อไปไม่ได้ ในที่สุดเขาก็หลบหนีออกจากวังไปอย่างไร้ร่องรอย เรื่องราวของหนานกัวเป่ายหวีใช้เปรียบเทียบกับคนที่ไม่มีเก่งจริงแต่มักอวดเก่ง คนที่ไม่มีความรู้จริงแต่มักอวดรู้ หรือพวกดีแต่พูด ว่าเป็นคุณชายหนานกัว นั่นเอง

ข้อคิดจากประโยคสุภาษิตนี้

成语比喻:本来就无才能但却占据其位的人。

Advertisement

成語比喻:本來就無才能但卻占據其位的人。

Chénɡyǔ bǐyù:Běnlái jiù wú cáinénɡ dàn què zhànjù qí wèi de rén.

เฉิงยหวี่ ปี่ยวี่ : เปิ่นไหล จิ้ว อู๋ ไฉเหนิง ตั้น เชว่ จ้านจวี้ ฉี เว่ย์ เตอะ เหริน

สุภาษิตเปรียบว่า เป็นคนที่ไม่มีความสามารถมาตั้งแต่แรกอยู่แล้ว แต่กลับเป็นผู้ที่ได้ตำแหน่งนั้นไป

ประโยคตัวอย่างที่ใช้สำนวนสุภาษิตนี้ เช่น

我们不能像南郭先生那样过生活,我们要认真学习,拥有真正的能力,才能有立足之地。

我們不能像南郭先生那樣過生活,我們要認真學習,擁有真正的能力,才能有立足之地。

Wǒmen bùnénɡ xiànɡ Nánɡuō xiānshenɡ nàyànɡ ɡuò shēnɡhuó,wǒmen yào rènzhēn xuéxí, yōnɡyǒu zhēnzhènɡ de nénɡlì, cáinénɡ yǒu lìzú zhī dì.

หวั่วเหมิน ปู้เหนิง เซี่ยง หนานกัว เซียนเฌิง น่าย่าง กั้ว เฌิงหัว, หวั่วเหมิน เหย้าเริ่นเจิน เสวสี, ยงโหย่ว เจินเจิ้ง เตอะ เหนิงลี่, ไฉเหนิง โหย่ว ลี่จู๋ จือ ตี้

พวกเราต้องไม่ใช้ชีวิตแบบคุณชายหนานกัว พวกเราต้องตั้งใจเล่าเรียน ต้องมีความสามารถแท้จริง จึงจะมีที่ยืนได้

ศูนย์ภาษาและวัฒนธรรมจีนสิรินธร
มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image