‘บอร์ด ก.ค.ศ.’ เห็นชอบเกณฑ์บรรจุครูเหตุพิเศษ 4 กรณี เกณฑ์ย้ายครูข้ามหน่วยราชการ ในสังกัด ศธ.

‘บอร์ด ก.ค.ศ.’ เห็นชอบเกณฑ์บรรจุครูเหตุพิเศษ 4 กรณี อนุมัติเกณฑ์โอนย้ายครูข้ามหน่วยราชการ ในสังกัด ศธ.

เมื่อวันที่ 23 เมษายน นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) ว่า ที่ประชุมมติเห็นชอบหลักเกณฑ์และวิธีการคัดเลือกเพื่อบรรจุและแต่งตั้งเข้ารับราชการเป็นข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งครูผู้ช่วย กรณีที่มีความจำเป็นหรือมีเหตุพิเศษ ในพ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ.2547 ตามมาตร 50 ในกรณีที่มีความจำเป็นหรือมีเหตุพิเศษที่ คณะอนุกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (อ.ก.ค.ศ.) เขตพื้นที่การศึกษา ไม่สามารถดำเนินการสอบแข่งขันได้ หรือการสอบแข่งขันอาจทำให้ไม่ได้บุคคลต้องตามประสงค์ของทางราชการ อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นที่ อาจคัดเลือกบุคลากรเพื่อบรรจุและแต่งตั้งเป็นข้าราชการครู และบุคลากรทางการศึกษาโดยวิธีอื่นได้ ทั้งนี้ตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่ก.ค.ศ.กำหนด โดยแบ่งเป็น 4 กรณี ดังนี้ 1.กรณีมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) 2.กรณีมีสัญญาณผูกพันตามโครงการพิเศษ /นักเรียนทุนรัฐบาล 3. กรณีการบรรจุในพื้นที่พิเศษ 4.กรณีความจำเป็นหรือมีเหตุพิเศษอื่น แต่ปัจจุบันไม่มีอ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่การศึกษา เป็นอำนาจของคณะกรรมการศึกษาธิการจังหวัด (กศจ.) เป็นผู้พิจารณา

“ดีใจที่เรื่องนี้เสร็จในรัฐบาลนี้ ซึ่งการกำหนดหลักเกณฑ์ตามมาตรา 50 ยังไม่เคยดำเนินการมาก่อน และไม่ใช่การสอบแบบปกติ แต่เป็นการคัดเลือกจากเหตุผลและความจำเป็น ดังนั้น ที่ประชุมได้เน้นย้ำว่าต้องพิจารณาตามด้วยเหตุผลความจำเป็นจริงๆ โดยให้ กศจ.พิจารณาและต้องมีความคิดเห็นร่วมกัน โดยเฉพาะในกรณีการบรรจุในพื้นที่พิเศษ และกรณีความจำเป็นหรือมีเหตุพิเศษอื่น นั้นจะต้องเสนอให้ ก.ค.ศ.อนุมัติก่อนดำเนินการแต่ละครั้ง แต่ในทุกกรณีจะต้องเป็นไปตามเงื่อนไขการบรรจุและแต่งตั้งผู้ที่ได้รับการคัดเลือกที่มีคุณสมบัติครบถ้วนตามมาตรฐานตำแหน่ง อย่างไรก็ตาม หลักเกณฑ์ดังกล่าว ถือเป็นการทำงานรองรับกับร่างพ.ร.บ.พื้นที่นวัตกรรม โรงเรียนร่วมพัฒนา หรือ Partnership School หรือโรงเรียนกลุ่มวัตถุประสงค์พิเศษ เช่น โรงเรียนจุฬาภรณราชวิทยาลัย หรือโรงเรียนในพื้นที่ห่างไกล ชายแดน อาจจะมีความจำเป็นก็ต้องคัดคนเป็นกรณีพิเศษ เป็นต้น ส่วนจะได้ครูปีละกี่คน ไม่อยากกำหนดจำนวน เพราะถ้ากำหนดจำนวนอาจจะมีเรื่องตามมา ให้ขึ้นอยู่กับพื้นที่ หรือเรื่องที่เสนอเข้ามาให้อนุมัติ” นพ.ธีระเกียรติ กล่าว

นพ.ธีระเกียรติ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ ที่ประชุมได้เห็นชอบร่างหลักเกณฑ์และวิธีการโอนข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ผู้ดำรงตำแหน่งครูในสังกัด ศธ.มาบรรจุและแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งครู ซึ่งถือเป็นครั้งแรกเพราะอดีตการขอโอนย้ายข้ามหน่วยราชการภายในสังกัด ศธ.จะใช้วิธีการพิจารณาเป็นรายๆ ไป แต่จากนี้ต้องพิจารณาตามเกณฑ์มาตรฐานนี้ ที่ได้มีกำหนดรายละเอียดไว้มีสาระสำคัญ เช่น สถานศึกษาที่จะรับโอนข้าราชการครูฯ ต้องมีเหตุผลและความจำเป็นที่จะรับโอน, ต้องมีความเห็นชอบของคณะกรรมการสถานศึกษา, ต้องไม่มีบัญชีผู้สอบแข่งขันได้ หรือผู้ได้รับการคัดเลือกรอการบรรจุและแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งครูผู้ช่วยในกลุ่มวิชา หรือทาง หรือสาขาวิชาเอกที่จะรับโอนของ กศจ. หรืออ.ก.ค.ศ. ที่ ก.ค.ศ.ตั้ง เป็นต้น

“เกณฑ์จะกำหนดเฉพาะตำแหน่งครูเท่านั้น ซึ่งต่อไปครูที่ขอโอนย้ายข้ามหน่วยงานราชในกระทรวง ต้องยึดไปตามเกณฑ์นี้ ซึ่งถือเป็นมาตรฐานกำหนดไว้ชัด ถ้ามีตำแหน่งว่างก็เรียกคนในบัญชีก่อน ยกเว้นมีเหตุผลจริงๆ ก็พิจารณาเป็นกรณีไป แต่ไม่ใช่ไปแอบลักไก่ทำอะไร หรือกรณีตำแหน่งนั้นจะยุบอยู่แล้วก็ไม่ใช่ไปรับโอนมา เพราะเมื่อก่อนมีกรณีรับโอนคนมาใส่ตำแหน่งไว้รอก่อนแบบนี้ไม่ได้ อย่างไรก็ตาม จากนี้ ก.ค.ศ.จะไปปรับปรุงรายละเอียดตามที่ประชุมเสนอแนะก่อนประกาศและแจ้งไปยังหัวหน้าส่วนราชการ กศจ.สำนักงานคณะกรรมการเขตพื้นที่การศึกษา (สพท.) รับทราบ” นพ.ธีระเกียรติ กล่าว

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image