เรียนไทยได้จีน : นิทานสุภาษิตจีน (155) 成语故事 (一五五)

(ที่มาภาพ : https://image.baidu.com)

นิทานสุภาษิตจีนที่ “เรียนไทยได้จีน” จะนำเสนอในฉบับนี้คือ 奇货可居/奇貨可居 qíhuò kějū (ฉีฮั่ว เข่อจวี) โดย คำว่า 奇货/奇貨 qíhuò (ฉีฮั่ว) แปลว่า ของแปลกประหลาด ของหายาก ทรัพย์สินมีค่า 可居 kějū (เข่อจวี) แปลว่า ควรสะสม ควรกักเก็บไว้ เมื่อรวมกันแล้วหมายถึง ของมีค่าหายากย่อมมีคุณค่าต่อการเก็บไว้ เก็บของมีค่าไว้เพื่อรอราคาดีๆ หรือโอกาสดีๆในการนำออกมาขายต่อหรือใช้ประโยชน์จากสิ่งนั้น รู้คุณค่าของทรัพย์สินนั้น ทรัพย์สินนั้นย่อมให้ผลตอบแทนอันมหาศาลต่อเจ้าของ หรืออาจแปลได้ว่าบุคคลที่ควรค่าแก่การนับถือ บุคคลที่ควรค่าแก่การรักษาไว้ เป็นต้น

จีนในยุคราชวงศ์โจวตะวันออก 东周/東周 Dōnɡzhōu (ตงโจว) หรือยุครัฐศึก 战国/戰國 Zhàn Guó (จ้านกั๋ว) เจ็ดนครรัฐใหญ่แห่งยุคนี้ ได้มีข้อตกลงร่วมกันแบบใหม่ นั่นก็คือแต่ละนครรัฐต่างก็จะพยายามผูกสัมพันธ์ โดยมีการสัญญาต่อกันว่าจะไม่รุกรานซึ่งกัน ในระหว่างข้อตกลงสันติภาพต่อกันนี้ แต่ละนครรรัฐก็ส่งองค์ชายแห่งรัฐของตนไปเป็นทูตสันถวไมตรียังรัฐพันธมิตร ซึ่งถ้าจะพูดให้น่าเกลียดหน่อยก็คือ การส่งองค์ชายของตนไปเป็นตัวประกันยังรัฐอื่นๆ ดังนั้นโดยทั่วไปแล้ว องค์ชายองค์ใดก็ตามถ้าถูกคัดเลือกให้ไปประจำยังรัฐใดแล้ว ก็เสมือนถูกเนรเทศ โอกาสที่จะกลับมายังรัฐของตนอีกนั้นมันช่างยากแสนยาก โอกาสที่จะได้ขึ้นเป็นกษัตริย์นั้นก็ยิ่งไม่ต้องฝัน ไม่เหมือนปัจจุบันที่ตำแหน่งเอกอัครราชทูต ข้าราชการในกระทรวงการต่างประเทศต่างก็ต้องการ

秦国/秦國 Qín Guó (ฉินกั๋ว) รัฐฉินเป็นรัฐใหญ่ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของจีนในยุคราชวงศ์โจว ในอดีตสมัยเริ่มก่อร่างสร้างตัว เป็นรัฐที่อ่อนแอและล้าหลัง จนไม่ค่อยมีใครอยากเข้าไปอยู่ แต่หลังจากผ่านการปฏิรูปซางยางแล้ว 商鞅变法/商鞅變法 Shānɡyānɡ biànfǎ (ฌางยาง เปี้ยนฝ่า) รัฐฉินก็เข้มแข็งขึ้นทุกปี จนสุดท้ายก็กลายมาเป็นนครรัฐทั้งเจ็ดที่ยิ่งใหญ่แห่งยุคราชวงศ์โจวตะวันออก หรือยุครัฐศึกเจ็ดรัฐแห่งยุคนี้ได้ตกลงทำสนธิสัญญาจะไม่รุกรานกัน และส่งตัวองค์ชายของแต่ละรัฐไปเป็นตัวประกันยังรัฐพันธมิตร องค์ชายแห่งรัฐฉินที่ถูกส่งไปเป็นตัวประกันยังรัฐต่างๆนั้น มีองค์ชายผู้อ่อนแอองค์หนึ่งพระนามว่าจื่อฉู่ 子楚 Zi Chǔ ถูกส่งไปเป็นตัวประกันยังรัฐจ้าว 赵国/趙國 Zhào Guó (จ้าวกั๋ว) ระหว่างที่พำนักในรัฐจ้าว ก็ได้มีโอกาสรู้จักกับเศรษฐีหนุ่มคนหนึ่งนามว่า ลหวี่ ปู้เหวย์ 吕不韦/呂不韋 Lǚ Bùwéi ทั้งสองคบหากันอย่างถูกคอ วันหนึ่งลหวี่ ปู้เหวย์ พูดกับองค์ชายจื่อฉู่ว่า ท่านมาอยู่ยังเมืองจ้าวแห่งนี้แล้ว ชีวิตของท่านคงจะหาความยิ่งใหญ่ไม่ได้อีก แต่ถ้าท่านอยากจะมีโอกาสสร้างความยิ่งใหญ่ขึ้นมานั้น ข้าพเจ้าพร้อมช่วยเหลือท่าน องค์ชายจื่อฉู่จึงตอบไปแบบไม่แยแสว่า ท่านจงทำกิจการของตัวเองให้ยิ่งใหญ่ก่อน ค่อยมาว่าข้าพเจ้าเถอะ ลหวี่ ปู้เหวย์จึงตอบว่า ก็เพราะกิจการอันยิ่งใหญ่ของข้าพเจ้านั้นผูกติดอยู่กับความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ของท่าน พอได้ยินเช่นนี้ องค์ชายจื่อฉู่เข้าใจทันที จึงถามว่า ท่านจะช่วยข้าพเจ้าเช่นไร ลหวี่ ปู้เหวย์จึงบอกแผนการทั้งหมดให้ฟัง พร้อมทั้งมอบทองคำห้าร้อยตำลึงให้กับองค์ชาย เพื่อใช้ในการคบหากับเหล่าชนชั้นผู้นำ และกองทัพของรัฐจ้าว ส่วนตัวลหวี่ ปู้เหวย์เดินทางไปรัฐฉินและอาศัยเงินจำนวนมากในการติดสินบน จนสุดท้ายสามารถเข้าถึงองค์รัชทายาทแห่งรัฐฉินได้ ลหวี่ ปู้เหวย์เมื่อมีความสนิทชิดเชื้อกับองค์รัชทายาทแล้ว ก็มักจะเอ่ยถึงคุณความดี ความฉลาด ความกล้าหาญขององค์ชายจื่อฉู่ให้รัชทายาทฟัง อันที่จริงองค์ชายจื่อฉู่เองก็มีฐานะเป็นหลานของรัชทายาท มีช่วงหนึ่งเกิดความขัดแย้งระหว่างรัฐฉินกับรัฐจ้าว ทั้งสองฝ่ายยกกำลังโจมตีกัน และสังหารองค์ชายตัวประกัน แต่องค์ชายจื่อฉู่ที่ในยามปกติได้เลี้ยงดูปูเสื่อให้กับพวกชนชั้นนำและดูและเหล่าขุนพลต่างๆของรัฐจ้าวตามคำแนะนำของลหวี่ ปู้เหวย์ ดังนั้นเมื่อถึงยามคับขัน พวกเค้าเหล่านี้ก็แอบช่วยเหลือองค์ชายให้หนีออกจากรัฐจ้าวไปอย่างปลอดภัย และได้เดินทางกลับถึงรัฐฉิน เมื่อถึงคราวที่องค์รัชทายาทขึ้นครองราชย์ กษัตริย์องค์ใหม่แห่งฉินก็แต่งตั้งจื่อฉู่เป็นรัชทายาท ดังนั้นตำแหน่งกษัตริย์องค์ต่อไปของรัฐฉินจึงตกมาอยู่ในมือขององค์ชายจื่อฉู่
ผู้ซึ่งต่อมาก็คือพระบิดาของจิ๋นซีฮ่องเต้ 秦始皇 Qín Shǐ Huánɡ (ฉิน ฉื่อ หวาง) นั่นเอง ส่วนลหวี่ ปู้เหวย์นั้น ด้วยความดีที่ได้ช่วยเหลือองค์ชายมาตลอด ก็ได้ตำแหน่งทางการเมืองใหญ่โต เป็นถึงอัครมหาเสนาบดี มีอิทธิพลและอยู่เบื้องหลังกษัตริย์องค์นี้จนถึงสมัยต้นของกษัตริย์จิ๋นซีฮ่องเต้ ซึ่งก็ถือว่าเขาได้ทำความฝันด้านการลงทุนในโครงการอันยิ่งใหญ่สำเร็จ จึงเป็นที่มาของคำว่ารู้คุณค่าของทรัพย์สิน ทรัพย์สินนั้นก็ย่อมตอบแทนผลประโยชน์ให้มหาศาล

ข้อคิดจากประโยคสุภาษิตนี้

Advertisement

成语比喻:凭借某种独特的技能或事物谋利。

成語比喻:憑借某種獨特的技能或事物謀利。

Chénɡyǔ bǐyù:Pínɡjiè mǒu zhǒnɡ dútè de jìnénɡ huò shìwù móu lì.

Advertisement

เฉิงยหวี่ ปี่ยวี่: ผิงเจี้ย โหมว โจ่ง ตู๋เท่อ เตอะ จี้เหนิง ฮั่ว ฉื้ออู้ โหมว ลี่

สุภาษิตเปรียบว่า แสวงหาประโยชน์จากการใช้ทักษะพิเศษหรือสิ่งของบางอย่าง

ประโยคตัวอย่างที่ใช้สำนวนสุภาษิตนี้ เช่น

他总以为自己才华出众,奇货可居,但在我们眼里他只是个爱吹牛的人。

他總以為自己才華出眾,奇貨可居,但在我們眼裏他只是個愛吹牛的人。

Tā zǒnɡ yǐwéi zìjǐ cáihuá chūzhònɡ, qí huò kě jū,dàn zài wǒmen yǎn lǐ tā zhǐshì ɡè ài chuīniú de rén.

ทา โจ่ง อี่เหวย์ จื้อจี่ ไฉหวา ชูโจ้ง, ฉี ฮั่ว เข่อ จวี, ตั้น ไจ้ หวั่วเหมิน เหยียน หลี่ ทา จื่อฉื้อ เก้อ อ้าย ชุยหนิว เตอะ เหริน

เขามักจะคิดว่าตัวเองเป็นคนที่มีความสามารถเหนือคนอื่น จึงเป็นบุคคลที่มีคุณค่า แต่ในสายตาของพวกเราเขาก็เป็นเพียงคนที่ชอบคุยโวเท่านั้น

ศูนย์ภาษาและวัฒนธรรมจีนสิรินธร
มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image