เมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รัฐมนตรีส่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆ นี้ ได้หารือกับ นพ.ธีระเกีนรติ เจริญเศรษฐศิลป์ สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) อดีตรัฐมนตรีว่าการ ศธ.และ พล.อ.สุรเชษฐ์ ชัยวงศ์ ส.ว.และอดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการ ศธ.โดยทั้ง 2 คน ฝากให้สานต่อโครงการต่างๆ ที่เคยทำ ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนาการเรียนการสอนภาษาอังกฤษ การพัฒนาอาชีวศึกษา การพัฒนาครู เป็นต้น สิ่งใดที่ดำเนินการได้ดีแล้วเกิดประโยชน์ คงต้องสานต่อ แต่สิ่งใดที่อาจไม่ตรงกับแนวทางการทำงาน และนโยบายของตน ต้องร่วมกับทีมงานซึ่งจะเชิญผู้เชี่ยวชาญด้านการศึกษามาช่วยงาน ร่วมวิเคราะห์ ว่าจะเดินหน้าต่อ หรือปรับเปลี่ยนเป็นรูปแบบใด
นายณัฏฐพลกล่าวต่อว่า สำหรับโครงการพัฒนาครูรูปแบบครบวงจร หรือคูปองครู ที่ผ่านมามีเสียงร้องเรียนว่าไม่เกิดประโยชน์ต่อครู และผู้เรียน ขอให้ยกเลิกโครงการนั้น ขณะนี้ได้ขอข้อมูลโครงการมาดูแล้ว แต่ยังไม่ได้ศึกษารายละเอียด ซึ่งต้องวิเคราะห์ ข้อดี ข้อเสีย และประเมินความคุ้มค่าการดำเนินการที่ผ่านมา ส่วนตัวเน้นในเรื่องการประเมินประสิทธิภาพโครงการ เพราะเงินทุกบาททุกสตางค์มาจากภาษีประชาชน หลังวิเคราะห์ และมีข้อมูลที่เป็นจริงแล้ว จึงจะตัดสินใจได้ว่าจะเดินหน้าต่อ หรือยกเลิกโครงการ
“ช่วงนี้อยู่ระหว่างศึกษารายละเอียดการทำงานต่างๆ ที่ผ่านมาใน ศธ.ภายในสัปดาห์นี้จะทยอยเชิญผู้บริหารใน ศธ.ทั้งสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) และหน่วยงานที่ผมดูแล มาพูดคุยสะท้อนปัญหา เพื่อวางแผนการทำงานร่วมกัน โดยหลักการสำคัญของนโยบาย จะเน้นทำงานสอดคล้องกับแผนพัฒนาประเทศ คือเร่งพัฒนาบุคลากรเข้าสู่ศตวรรษที่21 เตรียมตัวเข้าสู่โลกดิจิทัล ซึ่งการศึกษาเป็นหัวใจสำคัญในการขับเคลื่อน อาจต้องเสริมศักยภาพเด็กไทยในการปรับตัวเอง ผลักดันเข้าสู่การแข่งขันในเวทีโลก เน้นส่งเสริมการเรียนภาษาต่างประเทศ ทั้งภาษาอังกฤษ และภาษาจีน” นายณัฏฐพล กล่าว
