ปั้น ‘จุฬาฯ-มม.’ ท็อป100ม.โลก ‘สุวิทย์’ หวังดึง ‘ม.’ อื่นยกระดับตาม

เมื่อวันที่ 7 สิงหาคม นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เปิดเผยว่า  พล.อ.ประยุทธ์  จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ตั้งเป้าให้ อว.เป็นกระทรวงต้นแบบของการปฏิรูป ทั้งการปฏิรูปงบประมาณ ปฏิรูปกฎระเบียบที่ติดขัด ให้คลายตัวมากที่สุด และปฏิรูปการบริหารจัดการ จะให้อว.เป็นกระทรวงที่มีการเลื่อนไหลระหว่างกระทรวงกับมหาวิทยาลัยมากที่สุด ซึ่งการจะทำแบบนั้นได้ จะต้องไม่ติดกับระบบราชการ มหาวิทยาลัยต้องทำงานร่วมกับทุกภาคส่วนให้ได้ ทั้งเอกชน ชุมชน หน่วยงานวิจัย โดยที่ผ่านมาได้มอบหมายให้มหาวิทยาลัยทั้งกลุ่มมหาวิทยาลัยราชภัฏ (มรภ.) มหาวิทยาลัยเอกชน มหาวิทยาลัยรัฐ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล (มทร.) และมหาวิทยาลัยอื่น ๆ ไปแบ่งกลุ่มให้ชัดเจน ว่าจะเป็นมหาวิทยาลัยที่มุ่งสู่การเป็นมหาวิทยาลัยระดับโลก มหาวิทยาลัยที่ตอบโจทย์ด้านอุตสาหกรรมและเทคโนโลยี และมหาวิทยาลัยที่ตอบโจทย์ชุมชนและพื้นที่  โดยตั้งเป้าว่าจะยกอันดับมหาวิทยาลัยโลกจากปัจจุบันอยู่ที่อันดับ 200 กว่าของโลก ขยับมาอยู่ที่ 100 ของโลก  ซึ่งจะเริ่มปั้น  2 มหาวิทยาลัย คือ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และมหาวิทยาลัยมหิดล (มม.) ให้มาอยู่ในอันดับท็อป 100 ภายใน 5 ปี โดยจะมอบหมายให้มหาวิทยาลัยไปทำแผนพัฒนา เพื่อจัดสรรงบประมาณ สนับสนุนให้เกิดความเหมาะสม 

 นายสุวิทย์ กล่าวต่อว่า ทั้งนี้การพัฒนามหาวิทยาลัย จะพัฒนาใน 2 ส่วนคือ พัฒนาด้านวิชาการ และกลุ่มที่ต้องพัฒนาขึ้นสู่อันดับโลก ซึ่งจะเริ่มจาก จุฬาฯ และมม. เพื่อให้ทั้ง 2 แห่ง ดึงมหาวิทยาลัยอื่น ๆ ให้พัฒนาสู่อันดับโลกที่สูงขึ้นตามไปด้วย ซึ่งเท่าที่ดูมหาวิทยาลัยที่จะสามารถพัฒนาต่อจากจุฬาฯ และมม. มีอยู่จำนวนมาก  ไม่ว่าจะเป็น มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ (มช.) มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (มจธ.)  เป็นต้น  นอกจากนี้จะมีการจัดอันดับสาขา ซึ่งแต่ละมหาวิทยาลัยจะมีสาขาที่มีความเชี่ยวชาญแตกต่างกัน โดยได้มอบหมายให้สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) จัดอันดับ 5 สาขาวิชาที่มีโอกาสติดอันดับโลกได้ท็อป 100 ท็อป 50  เพื่อพัฒนาให้เต็มที่

 “ตรงนี้ถือเป็นวาระพิเศษของอว. ในการเปลี่ยนแปลงประเทศ เพราะหากมหาวิทยาลัยเหล่านี้มีความเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางที่ดีขึ้น ชาวต่างชาติก็อยากที่จะมาเรียนมหาวิทยาลัยไทย มหาวิทยาลัยอื่น ๆ ก็ต้องปรับตัวตามไปด้วย  สาเหตุที่เลือกปั้นมหาวิทยาลัยเฉพาะที่ก่อน เพื่อให้มีตัวลากจูง หากเหวี่ยงไปหมดจะเหมือนใช้งบละลายแม้น้ำ เชื่อว่ามหาวิทยาลัยอื่น ๆ จะต้องปรับตัวพัฒนาตาม”นายสุวิทย์กล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image