เมื่อวันที่ 9 สิงหาคม นายเอกชัย กี่สุขพันธ์ ประธานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) เปิดเผยภายหลังการประชุมกพฐ. ว่า นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) มอบนโยบายโดยจะเน้นคุณภาพการศึกษา โดยเฉพาะการควบรวมสถานศึกษา ซึ่งหากทำให้เกิดคุณภาพจะทำแน่นอน ขณะเดียวกันย้ำในเรื่องการพัฒนาครู ซึ่งโครงการพัฒนาครูรูปแบบครบวงจร หรือ คูปองครู ที่มีปัญหา อาจจะต้องมีการปรับพัฒนาครูในรูปแบบอื่น เน้นให้ครูมีความสามารถทางภาษาอังกฤษ โดยเฉพาะการสื่อสารภายใน 2-3 ปี เพราะถ้าครูขาดความรู้ในส่วนนี้ การเข้าถึงความรู้ทางอินเตอร์เน็ตจะเป็นไปได้ยาก จะหารือกับนายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ว่าทางมหาวิทยาลัยต้องผลิตครูที่มีความรู้ในส่วนนี้ด้วย
นายเอกชัย กล่าวต่อว่า ที่ประชุมยังหารือกรณีโรงเรียนขนาดเล็กแห่งหนึ่งในจังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งเคยมีการควบรวมกับโรงเรียนใกล้เคียงแล้ว มา 5 ปี แต่ปรากฏว่าคณะกรรมการศึกษาธิการจังหวัด (กศจ.) แต่งตั้งผู้อำนวยการโรงเรียนลงไป รวมถึงมีการปรับปรุงอาคารเรียน ทำให้มีเด็กมาเรียน 47 คน ซึ่งกศจ.อนุมัติแล้ว กพฐ.ไม่สามารถทำอะไรได้ แต่ขอให้มองที่คุณภาพ และอนาคต ที่จำนวนผู้เรียนจะลดลง ซึ่งหากไม่ระวังในส่วนนี้จะทำให้ปัญหาโรงเรียนขนาดเล็กวนกลับมาอีก ดังนั้นต่อไปโรงเรียนใดที่มีการควบรวม 100% เป็นเวลา 2-3 ปีให้สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ดำเนินการเลิกโรงเรียนดังกล่าว เพื่อไม่ให้มีอัตราครูและอัตราผู้บริหาร ซึ่งต่อไปจะยากขึ้น เพราะคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (ก.พ.ร.) จะไม่อนุมัติอัตราครูและผู้บริหารให้โรงเรียนที่มีนักเรียนต่ำกว่า 120 คน เริ่มตั้งแต่ปี 2562 เป็นต้นไป ส่งผลให้โรงเรียนกลุ่มนี้จะค่อย ๆ ลดจำนวนลง นอกจากนี้ที่ประชุมยังมีมติเห็นชอบเลิกสถานศึกษาที่มีการควบรวม 100% จำนวน 9 แห่ง และอนุมัติให้มีการควบรวมโรงเรียนขนาดเล็ก 4 แห่ง
