จากกรณีที่ ด.ญ.เอ วัย 7 ขวบ ถูกครูประจำชั้นตีจนศีรษะมีลักษณะคล้ายบวมช้ำ ดวงตาทั้ง 2 ข้าง และแก้มข้างขวาบวมช้ำ สาเหตุเกิดจากครูทำโทษด้วยการใช้ไม้ตีที่ศีรษะ หลังตอบคำถามในวิชาคณิตศาสตร์ไม่ได้ โดยแพทย์โรงพยาบาลบางละมุงได้ตรวจอาการ และเอ็กซเรย์สมอง พบว่าศีรษะไม่แตกร้าว แต่มีอาการช้ำใน หรือเลือดคั่ง ทำให้บวมแดง ก่อนให้ยามากิน และทาบรรเทา โดยได้แจ้งความที่ สภ.เมืองพัทยา โดยเจ้าหน้าที่ได้สอบถามผู้ปกครองว่าจะดำเนินคดีทางกฎหมายหรือไม่ แต่ผู้ปกครองขอพูดคุยกับโรงเรียนก่อนว่าจะดำเนินการอย่างไร และจะพา ด.ญ.เอไปเอ็กซเรย์สมองอีกครั้งที่โรงพยาบาลเอกชน หากพบว่าอาการหนักขึ้น ก็จะดำเนินการถึงที่สุด เพราะถือเป็นการกระทำที่เกินกว่าเหตุ จากนี้จะไม่พา ด.ญ.เอไปเรียนที่โรงเรียนอีก หากครูคนดังกล่าวยังปฏิบัติหน้าที่อยู่เช่นเดิมนั้น
เมื่อวันที่ 18 สิงหาคม นายบรรลือ กุลละวณิชย์ รองนายกเมืองพัทยา พร้อมผู้อำนวยการโรงเรียน รวมถึง กิ่งกาชาดอำเภอบางละมุง และเทศบาลหนองปรือ ได้เข้าเยี่ยมดูอาการ ด.ญ.เอ พบว่าอาการดีขึ้นตามลำดับ ซึ่งแพทย์แจ้งว่าสาเหตุที่เกิดอาการบวมตามตา เนื่องจากถูกไม้ตีศรีษะอย่างแรง จนทำให้เส้นเลือดฝอยแตก และไหลออกจนเกิดอาการบวม ถ้าอาการไม่ดีขึ้น คงต้องเจาะเอาเลือดที่ไหลออกมาออก เบื้องต้นทางกิ่งกาชาดอำเภอบางละมุง มอบถุงยังชีพพร้อมเงิน 3,000 บาท ช่วยเหลือเบื้องต้น ส่วนทางเทศบาลเมืองหนองปรือมอบถุงยังชีพ และนม 1 ลัง
นายบรรลือ กล่าวว่า หลังทราบข่าวครูตี ได้ตรวจสอบว่าเกิดจากอะไร เบื้องต้นได้พูดคุยกับทางครูคนดังกล่าว ทราบว่าเกิดจากเด็กไม่ยอมทำการบ้าน ส่วนเด็กบอกว่าไม่เข้าใจการบ้านเลยยังไม่ได้ทำ ครูเลยคิดว่าเด็กดื้อ เบื้องต้นในวันที่ 19 สิงหาคม จะเรียกครูมาพบเพื่อพูดคุยอีกครั้งว่าจะตั้งคณะกรรมการสอบสวนหรือไม่ ซึ่งผู้ปกครองจะพูดคุยกับครูอีกครั้งว่าจะดำเนินการอย่างไร
ด้านยายของ ด.ญ.เอ กล่าวว่า คงต้องให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีตามขั้นตอน ส่วนทางเมืองพัทยาจะดำเนินการอย่างไรก็ขอให้เป็นไปตามระเบียบ อย่างไรก็ตาม จะไม่ยอมยุติเรื่องดังกล่าว เบื้องต้นคงขอให้ครูดังกล่าวหยุดการสอนในช่วงขั้นตอนการสอบสวนก่อน เพราะเด็กยังมีอาการหวาดระแวงเมื่อพูดถึงโรงเรียน
