‘คุณหญิงกัลยา’ เล็งนำร่อง ‘Green Health School’ เปลี่ยน ร.ร.เป็นแปลงเกษตรอินทรีย์ แก้ปัญหาอาหารกลางวัน
เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ(ศธ.) เปิดเผยภายหลังการเข้าพบ นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ ผู้ประสานงานกลุ่มยุติธรรมภิวัฒน์ พร้อมด้วย นายไชยวัฒน์ สินสุวศ์ และคณะ ได้เข้าพบ ว่า ประชุมได้หารือถึงโครงการอาหารกลางวันนักเรียน ในจังหวัดนครราชสีมา ที่มีข่าวว่าสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ตรวจพบ 4 โรงเรียน ที่ส่อทุจริตโครงการอาหารกลางวันนั้น ที่ประชุมเห็นตรงกันว่าควรพลิกวิกฤตเป็นโอกาส โดยดำเนินการโครงการขับเคลื่อนโคราชต้นแบบ ซึ่งเป็นการพัฒนาโรงเรียนต้นแบบ (Green Health School) เพื่ออาหารกลางวันเด็ก ซึ่งจะเลือกโรงเรียนที่มีความพร้อม ทั้งนี้คณะกรรมการสถานศึกษาและผู้บริหารต้องเห็นชอบด้วย โดยจะเข้าพัฒนาพื้นที่ว่างภายในโรงเรียนเป็นแปลงเกษตรอินทรีย์ เพื่อนำผลผลิตที่ได้มาปรุงเป็นอาหารสุขภาพสำหรับนักเรียน ซึ่งโครงการจะจัดคณะพี่เลี้ยงจิตอาสาในการทำเกษตรอินทรีย์ การปรุงอาหารสุขภาพเมนูต่างๆ ลงไปช่วยเหลือโรงเรียน อย่างไรก็ตาม เบื้องต้นคาดว่าจะดำเนินการนำร่องใน วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยี (วษท.) นครราชสีมา เนื่องจากมีความพร้อมและสอดคล้องกับนโยบายของตน ที่ดูแลและจะส่งเสริมให้ วษท.เป็นวิทยาลัยที่มีความพร้อมเป็นศูนย์กลางในการพัฒนาชุมชนใกล้เคียง คาดว่าจะใช้เวลา 6 เดือน จะเห็นผลและกลายเป็นแหล่งเรียนรู้สำหรับการขยายผลไปโรงเรียนอื่นๆ ในอนาคตต่อไป
คุณหญิงกัลยา กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ที่ประชุมได้มีการหารือเรื่องหนี้สินครูว่า จะช่วยครู 4.5 แสนคน ได้อย่างไร ซึ่งขณะนี้ทางกลุ่มยุติธรรมภิวัฒน์ ได้รับร้องเรียนจากครูกู้เงินไปแล้วแต่ตามชำระเงินไม่ทัน หรือไม่รู้เกี่ยวกับการชำระหนี้ จากที่ต้องชำระดอกเบี้ยเงินกู้ในอัตราร้อยละ 5-6 ต่อปี กลายเป็นต้องจ่ายดอกเบี้ยเงินกู้ร้อยละ 15-16 ต่อปี เนื่องจากสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (สพท.) มีการหักเงินชำระหนี้ช้า ทำให้ครูต้องจ่ายเบี้ยปรับ ส่งผลให้เงินที่ถูกหักชำระหนี้จากต้นสังกัดแทนที่จะไปชำระเงินต้น ต้องไปชำระดอกเบี้ยแทน ทำให้เงินต้นที่กู้ไว้ไม่ได้ลดลง ครูบางรายก็ถูกฟ้องล้มละลาย และถูกยึดทรัพย์ไปแล้ว ซึ่งตนได้รับเรื่องไว้และจะประสานให้กลุ่มยุติธรรมภิวัฒน์ ไปพบและให้ข้อมูลกับ นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการศธ. ซึ่งโดยส่วนตัวเห็นว่าควรจะต้องมีการตั้งคณะทำงานขึ้นมาดูปัญหาที่เกิดขึ้น และจะหาทางออกให้แก่ครูกลุ่มนี้ได้อย่างไรบ้าง
