เมื่อวันที่ 1 กันยายน นายอดิศร เนาวนนท์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา เปิดเผยว่า ตามที่กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เตรียมหารือเพื่อแก้ปัญหาความขัดแย้งระหว่างศึกษาธิการจังหวัด (ศธจ.) กับสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (สพท.) กรณีการใช้อำนาจการบรรจุแต่งตั้งข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาในจังหวัด และกรุงเทพฯ ตามมาตรา 53 (3) (4) แห่ง พ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ซึ่งคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) แก้ไขคำสั่ง คสช.ที่ 19/2560 ให้เป็นอำนาจของ ศธจ.โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการศึกษาธิการจังหวัด (กศจ.) จากเดิมที่เป็นอำนาจของ สพท.ทำให้ผู้อำนวยการ สพท.ทั่วประเทศเรียกร้องให้แก้ไขคำสั่งดังกล่าวนั้น คำสั่ง คสช.ฉบับดังกล่าวทำให้โจทย์การทำงานในพื้นที่มีความซับซ้อน สร้างหน่วยงานเพิ่ม มีการทำงานในลักษณะรวบอำนาจ ทั้งที่เดิมออกแบบเขตพื้นที่ฯ ขึ้นมาเพื่อให้มีการทำงานแบบกระจายอำนาจจากส่วนกลาง แต่กลับมีการเพิ่มองค์กรใหม่ เพิ่มคน ทำให้เกิดความขัดแย้ง
“การแก้ปัญหาเรื่องนี้ ที่ผ่านมาผมเคยเสนอให้เลือกอย่างใดอย่างหนึ่งระหว่าง ศธจ.หรือ สพท.แต่ตอนนี้หากจะไปยุบ ศธจ.ก็ต้องถามว่าจะนำบุคคลากรที่ทำงานใน ศธจ.ทั่วประเทศไปไว้ที่ใด ทางแก้มีหลายแนวทาง อาทิ ลดอำนาจ ศธจ.และ สพท.ลง กระจายอำนาจให้โรงเรียนสามารถตัดสินใจ ทั้งเรื่องงบประมาณ และบุคลากรได้มากขึ้น อีกแนวทางหนึ่งคือหลอมรวม ศธจ.และ สพท.เข้าด้วยกัน แยกการทำงานออกเป็นประถม และมัธยม จังหวัดละ 1 หน่วยงาน ดูแลการจัดการศึกษาภายในจังหวัด และตั้งหน่วยงานย่อยดูแลการจัดการศึกษาในระดับตำบล กระจายบุคลากรจาก ศธจ.และ สพท.ลงไปในหน่วยงานเหล่านี้ เพื่อให้การจัดการศึกษาเกิดประสิทธิภาพ” นายอดิศร กล่าว
นายอดิศรกล่าวต่อว่า เรื่องนี้ถือเป็นเรื่องสำคัญ ดังนั้น อยากเสนอให้นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เร่งดำเนินการแก้ไข ไม่ให้วิกฤต และเกิดความขัดแย้งในการทำงานที่ซ้ำซ้อนมากขึ้นกว่านี้ หากไม่เร่งดำเนินการอาจกระทบกับคุณภาพการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานในภาพรวม
