เมื่อวันที่ 22 กันยายน นายธนารัชต์ สมคเณ รองผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 1 กรุงเทพมหานคร (สพม.เขต 1 กทม.) เปิดเผยว่า ตามที่นายสุเทพ ชิตยวงษ์ เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) สั่งการให้สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (สพท.) หามาตรการรองรับการเกษียณของครู และผู้บริหารโรงเรียน ซึ่งปีนี้มีกว่า 26,000 คนนั้น สพม.เขต 1 กรุงเทพฯ มีครู และผู้บริหารโรงเรียนเกษียณอายุราชการ 204 ราย ในจำนวนนี้มีผู้อำนวยการโรงเรียนขนาดใหญ่ประมาณ 4 โรง คือ โรงเรียนโยธินบูรณะ โรงเรียนวัดราชาธิวาส โรงเรียนเบญจมราชาลัย และโรงเรียนโพธิสารพิทยากร ได้รับอัตราเกษียณคืน 84 อัตรา ขาดไป 120 อัตรา โดยเขตพื้นที่ฯ ได้เตรียมแผนรองรับ ใช้ทั้งวิธีการโอนย้าย และบรรจุแต่งตั้งใหม่ โดยอัตราที่ได้รับคืนจะจัดสรรจะไปลงในโรงเรียนที่ขาดก่อน โรงเรียนใดมีอัตราเกินอยู่แล้ว จะไม่ได้รับการจัดสรร อย่างไรก็ตาม โรงเรียนในกรุงเทพฯ ส่วนใหญ่เป็นโรงเรียนยอดนิยม จึงไม่มีปัญหาขาดบุคลากรมากนัก
“โรงเรียนในกรุงเทพฯ ส่วนใหญ่ไม่มีปัญหาขาดบุคลากร เพราะเป็นเป้าหมายหลักของการขอโอนย้าย แต่ที่เป็นปัญหาขณะนี้ คือขาดรองผู้อำนวยการโรงเรียน ซึ่งไม่ได้สอบมานานกว่า 2 ปี ที่ผ่านมาใช้วิธีให้ครูรักษาการ แม้ไม่มีปัญหาเรื่องขาดคนทำงาน แต่อยากให้ สพฐ.เร่งจัดสอบคัดเลือกรองผู้อำนวยการโรงเรียนโดยเร็ว เพราะตำแหน่งรองผู้อำนวยการโรงเรียนมีความสำคัญ หากให้ครูรักษาการนานไป อาจกระทบต่องานเชิงบริหารจัดการที่ต้องใช้ผู้ที่มีความสามารถเฉพาะเข้ามาดูแล” นายธนารัชต์ กล่าว
นายธนารัชต์กล่าวต่อว่า ส่วนของการอนุมัติโอนย้ายผู้บริหารโรงเรียน หรือบรรจุแต่งตั้งนั้น เป็นอำนาจของคณะกรรมการศึกษาธิการจังหวัด (กศจ.) แต่ละแห่ง ซึ่งในส่วนกรุงเทพฯ มีความพิเศษ ตรงที่มีรัฐมนตรีว่าการ ศธ.เป็นประธาน มีผู้บริหารองค์กรหลักของ ศธ.เป็นกรรมการ แต่ปีนี้มีผู้บริหารองค์กรหลักของ ศธ.เกษียณถึง 3 ตำแหน่ง คือ นายสุเทพ เลขาธิการ กพฐ., นายการุณ สกุลประดิษฐ์ ปลัด ศธ.และนายบุญรักษ์ ยอดเพชร เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (กอศ.) ดังนั้น การอนุมัติแต่งตั้งผู้บริหารโรงเรียนในกรุงเทพฯ ครั้งนี้ อยากให้ดำเนินการหลังแต่งตั้งผู้บริหารองค์กรหลักแทนอัตราเกษียณก่อน เพื่อไม่ให้มีปัญหา เพราะเป็นเรื่องละเอียดอ่อน เนื่องจากการแต่งตั้งผู้บริหารโรงเรียนขนาดใหญ่ หากไม่ยึดตามระเบียบกฎเกณฑ์ เชื่อว่ามีปัญหาแน่นอน
นายเจริญชัย กิตติพีรเดช ผู้อำนวยการ สพม.เขต 9 (นครปฐม-สุพรรณบุรี) กล่าวว่า ในส่วนของ สพม.เขต 9 มีครูเกษียณอายุกว่า 100 ราย และผู้อำนวยการโรงเรียนเกษียณ 2 ราย โดยหลักการทางเขตพื้นที่ฯ จะแก้ปัญหาเบื้องต้น โดยจะโอนย้าย และเรียกบรรจุแต่งตั้งตามบัญชีของ กศจ.ซึ่งมีอยู่แล้ว เชื่อว่าบริหารจัดการได้ อีกทั้ง ภาพรวมในส่วนของโรงเรียนมัธยมศึกษาสังกัด สพม.มีปัญหาน้อยกว่าโรงเรียนสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา (สพป.) เพราะเป็นโรงเรียนขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ มีบุคลากรหมุนเวียน ต่างจากโรงเรียนประถมศึกษาบางแห่ง โดยเฉพาะโรงเรียนขนาดเล็กบางแห่งที่มีครู 3-4 ราย และผู้อำนวยการโรงเรียน 1 ราย หากเกษียณพร้อมกัน จะทำให้กระทบกับการเรียนการสอน ไม่มีครูทดแทน อย่างไรก็ตาม ในส่วนของโรงเรียนมัธยมไม่ปัญหาเรื่องการขาดผู้บริหารโรงเรียน แต่ที่เป็นปัญหาจริงๆ คือตำแหน่งรองผู้อำนวยการโรงเรียน ซึ่งปีนี้มีผู้เกษียณจำนวนมาก แต่ยังไม่สามารถบรรจุแต่งตั้งทดแทนได้ เพราะไม่ได้เปิดสอบมานานกว่า 2 ปี หากเร่งดำเนินการได้ก็จะเป็นเรื่องดี
“กรณีที่นายสุเทพจะเสนอให้คณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) พิจารณาให้ กศจ.แต่ละจังหวัดเข้ามามีอำนาจในการจัดสอบผู้บริหารโรงเรียนเองนั้น ส่วนตัวเห็นด้วย เพราะในพื้นที่จะรู้ข้อมูลความขาดแคลนอยู่แล้ว” นายเจริญชัย กล่าว
