สพฐ. เผย 61 ร.ร.เสี่ยงดินถล่ม จับมือมก. วางมาตรการป้องกัน ทุ่ม 212 ล. ซ่อมบ้านพักครู

เมื่อวันที่ 25 กันยายน นายพีระ  รัตนวิจิตร  รองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) เปิดเผยว่า  ในการประชุมผู้บริหารสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) เมื่อเร็ว ๆ นี้ ได้รายงานข้อมูลการป้องกันภัยพิบัติต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นไม่ว่าจะเป็น น้ำท่วม แผ่นดินไหว ซึ่งที่ผ่านมาโรงเรียนของสพฐ. ตั้งรับมาตลอด  ดังนั้นจึงได้ประสานกับคณะวิศวกรรมศาสตร์ สาขาปฐพีและฐานราก  มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ (มก.)  นำจุดที่ตั้งของโรงเรียนไปเทียบกับพื้นที่เสี่ยงที่จะเกิดภัยพิบัติ  พบว่า ที่ตั้งของโรงเรียนบางพื้นที่อยู่ในจุดเสี่ยงมาก มีโอกาสเกิดแผ่นดินไหว  ดินสไลด์ น้ำท่วม โดยทางมก. ได้วิเคราะห์ และส่งรายชื่อโรงเรียนที่เสี่ยงจะเกิดภัยพิบัติธรรมชาติ มาให้สพฐ. แล้ว  จำนวน 61 โรงเรียน แบ่งเป็น พื้นที่ที่เสี่ยงจะเกิดดินถล่มระดับสูงมาก 6 โรงเรียน ได้แก่ โรงเรียนบ้านทรัพย์เจริญ  โรงเรียนบ้านปากแดง โรงเรียนบ้านกลาง  จังหวัดเลย โรงเรียนบ้านนางิ้ว โรงเรียนบ้านคงทิพย์ จังหวัดหนองคาย และโรงเรียนบ้านเสาหงส์ จังหวัดกาญจนบุรี  ระดับความเสี่ยงสูง 10 โรงเรียน คือ โรงเรียนธารโตวิฑฒนวิทย์ โรงเรียนบ้านปะเดิ่ง จังหวัดยะลา  โรงเรียนบ้านโกรกช้างน้อย จังหวัดนครราชสีมา โรงเรียนบ้านหนองจิก จังหวัดบึงกาฬ โรงเรียนบ้านโบนา จังหวัดเชียงใหม่  โรงเรียนบ้านทับใหม่  โรงเรียนน้ำพร้าสามัคคี จังหวัดอุตรดิตถ์ โรงเรียนปางยาง  โรงเรียนสกาดพัฒนา จังหวัดน่าน  โรงเรียนบ้านห้วยนกกสาขาบ้านจ่อดิ จังหวัดตาก

นายพีระ กล่าวต่อว่า เสี่ยงดินถล่มระดับปานกลาง 15 โรงเรียน คือ โรงเรียนเต่าดอยวิทยาคม โรงเรียนเกาะหลวง โรงเรียนบ้านห่างหลวง  จังหวัดเชียงใหม่  โรงเรียนวัดหนองผักชี จังหวัดสระบุรี โรงเรียนบ้านปวนพุ จังหวัดเลย โรงเรียนบ้านสะเนียน โรงเรียนบ้านผาเวียง โรงเรียนบ้านปางแก โรงเรียนบ้านกวด จังหวัดน่าน โรงเรียนบ้านนาปู่ป้อม โรงเรียนบ.แม่จ๊างส.บ้านดงหลวง-ดงน้อย  โรงเรียนบ้านห้วยไก่ป่า โรงเรียนบ้านแม่ออก โรงเรียนบ้านอุมโละเหนือ จังหวัดแม่ฮ่องสอน และโรงเรียนบ้านคลองมดแดง สาขาป่าคา จังหวัดกำแพงเพชร  ส่วนที่เหลือเป็นจุดที่มีความเสี่ยงต่ำถึงต่ำมาก  ซึ่งจากนี้ทางทางคณะวิศวกรรมปฐพีและฐานราก จะเข้าไปหาวิธีป้องกัน

“การทำงานของสพฐ. ต่อไปจะเป็นเชิงลึก หามาตรการป้องกัน ไม่ใช่ตั้งรับเหมือนที่ผ่านมา ขณะเดียวกัน ยังขอให้เร่งทำข้อมูลพื้นที่เสี่ยงจะเกิดอุทกภัย เพื่อหามาตรการป้องกันในเชิงรุกมากขึ้นด้วย ถือเป็นมิติใหม่ที่ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามาช่วย  ในการศึกษาพื้นที่เสี่ยงภัยพิบัติธรรมชาติในโรงเรียน ซึ่งต่อไปโรงเรียนสังกัดอื่น ทั้ง สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน( สช.) และสังกัดอื่น ๆ ก็สามารถมาดูข้อมูลและวิเคราะห์ เพื่อวางมาตรการป้องกันได้”นายพีระกล่าว

รองเลขาธิการกพฐ. กล่าวต่อว่า  ที่ประชุมได้รายงานแก้ไขปัญหาบ้านพักครู โดยเฉพาะบ้านพักครูที่ห้องน้ำไม่ได้อยู่ในตัวบ้านพัก โดยสพฐ.ได้จัดสรรงบประมาณ ลงไป เขตพื้นที่ละ 1 ล้านบาท  รวม 225 ล้านบาท  ซึ่งสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (สพท.) ได้ส่งข้อมูลมีสถานศึกษาขอรับการสนับสนุนเพื่อซ่อมแซมปรับปรุงทั้งสิ้น 2,200 หลัง เป็นของโรงเรียนในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา(สพป.) 1,723 หลัง ของโรงเรียนในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา(สพม.) 477 หลัง โดยแบ่งการจัดสรรงบเป็น 3 ครั้ง ครั้งแรกสำหรับบ้านพักครู จำนวน 1,483 หลัง ใช้งบประมาณปรับปรุง 147,786,100 บาท ครั้งที่สอง บ้านพักครู 680 หลัง ใช้งบประมาณ 60,453,700 บาท และระยะที่สาม บ้านพักครู จำนวน 37 หลัง ใช้งบประมาณ 3,933,200 บาท รวมทั้งสิ้น 212,173,000 บาท ซึ่งเป็นงบลงทุนของ สพฐ. ปีงบประมาณ 2562

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image