เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม นายจงรัก วัชรินทร์รัตน์ รักษาการอธิการบดีมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ (มก.) เปิดเผยว่า ตามที่สภา มก.มีมติให้ตนดำรงตำแหน่งอธิการบดีมก. คนที่ 15 และให้ปฏิบัติหน้าที่รักษาการอธิการบดี มก.ต่อ จนกว่าจะมีการโปรดเกล้าฯ อย่างเป็นทางการนั้น ส่วนตัวพร้อมจะทำงานอย่างเต็มที่ 3 ปีกับ 7 เดือนที่ปฏิบัติหน้าที่รักษาการอธิการบดีมก. ทำให้รู้ปัญหา และมองเป็นโอกาส ที่จะพัฒนาในมหาวิทยาลัยอย่างไรมก. เปลี่ยนสถานะเป็นมหาวิทยาลัยในกำกับรัฐ หรือมหาวิทยาลัยออกนอกระบบมานานกว่า 4 ปี แล้ว มีการจัดทำระเบียบข้อบังคับต่าง ๆ มาพอสมควร จากนี้เชื่อว่าจะสามารถบริหารจัดการและทำงานต่าง ๆ ได้เต็มที่มากขึ้น ลดการพึ่งพางบจากภาครัฐ อาศัยการจัดการทรัพย์สินที่ดินของมหาวิทยาลัย หารายได้จากสิทธิบัตรงานวิจัย และสนับสนุนนโยบายรัฐบาลในการจัดหลักสูตรที่ไม่มีปริญญา ให้ผู้ที่อยู่ในวัยทำงานหรือผู้สูงอายุมาเรียน แล้วสามารถนำไปต่อยอดการมีงานทำได้มากขึ้น ขณะเดียวกันก็จะมาดูเรื่องสวัสดิการ ค่าตอบแทน ของบุคลากรให้ดียิ่งขึ้น ให้ประชาคมมีความภูมิใจความเป็นมก.
“ส่วนปัญหาการฟ้องที่อาจจะมีเกิดขึ้นหลังจากนี้นั้น ส่วนตัวไม่กังวล เพราะตลอดเวลาทำทุกอย่างโปร่งใส และสภามก.เองก็ดำเนินการทุกอย่างโปร่งใส สามารถตรวจสอบได้” นายจงรักกล่าว และว่า ส่วนการเพิ่มอันดับมหาวิทยาลัยโลก ซึ่งขณะนี้มก. ตกไปอยู่อันดับที่ 800 กว่า จากเดิมอยู่ที่ 600 นั้น มก.ตั้งเป้าจะพัฒนาให้เป็นมหาวิทยาลัยชั้นนำในอันดับที่ 500 ของโลก แต่ตรงนั้นเป็นเป้าหมาย ที่จะเริ่มโดยยกระดับเป็นสาขา เช่น สาขาเกษตร ต้องอยู่ในอันดับที่ไม่ต่ำกว่า 30 ของโลก สาขาด้านสิ่งแวดล้อม ไม่ต่ำกว่าอันดับที่ 200 ของโลก สาขาด้านเคมี ชีววิทยา การศึกษา ไม่ต่ำกว่าอันดับที่ 350 ของโลก และสาขาด้านการบริหาร ไม่ต่ำกว่าอันดับที่ 400 ของโลก เชื่อว่าหากอันดับในแต่ละสาขาดีขึ้นแล้ว จะทำให้ภาพรวมสูงตามไปด้วย
