ร.10 โปรดเกล้าฯ สมเด็จพระสันตะปาปาเข้าเฝ้า 21 พ.ย.นี้

เมื่อเวลา 15.00 น.วันที่ 2 ตุลาคม ที่อาคารสภาประมุขบาทหลวงโรมันคาทอลิกแห่งประเทศไทย มงซินญอร์ วิษณุ ธัญญอนันต์ รองเลขาธิการสภาประมุขบาทหลวงโรมันคาทอลิกแห่งประเทศไทย กล่าวในการแถลงข่าวกำหนดการเสด็จเยือนของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส ว่า ในโอกาสที่สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิสจะเสด็จมาเยือนประเทศไทยวันที่ 19-23 พฤศจิกายน ขณะนี้ตารางกิจกรรมต่างๆ ถือว่าแน่นอนแล้ว โดยวันที่ 19 พฤศจิกายน เสด็จจากกรุงโรม ประเทศอิตาลี สู่กรุงเทพฯ เดินทางถึงกองทัพอากาศ สถานี 2 บน.6 ดอนเมือง วันที่ 20 พฤศจิกายน เวลา 12.30 น.โดยจะมีพิธีการต้อนรับอย่างเป็นทางการ

มงซินญอร์ วิษณุ กล่าวอีกว่า วันที่ 21 พฤศจิกายน จะมีพิธีต้อนรับอย่างเป็นทางการ ที่ทำเนียบรัฐบาล พบปะกับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ข้าราชการ คณะทูตานุทูต โดยสมเด็จพระสันตะปาปาจะปราศัย จากนั้นเสด็จเยี่ยมสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ณ วัดราชบพิธสถิตมหาสีมารามราชวรวิหาร ก่อนเดินทางพบปะคณะแพทย์ พยาบาล และบุคลากรของโรงพยาบาลเซนต์หลุยส์ รวมทั้ง เวชบุคคลของโรงพยาบาลในเครือคาทอลิก และเสด็จเยี่ยมอวยพรผู้ป่วยสูงวัย จากนั้นเสด็จเสวยอาหารกลางวันส่วนพระองค์ที่สถานทูตวาติกัน ก่อนเสด็จเข้าเฝ้าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เป็นการส่วนพระองค์ ที่พระที่นั่งอัมพรสถาน ภายในพระราชวังดุสิต และจบด้วยพิธีสหบูชามิสซา เพื่อประชาสัตบุรุษ ที่สนามกีฬาแห่งชาติศุภชลาศัย

มงซินญอร์ วิษณุ กล่าวต่อว่า ส่วนวันที่ 22 พฤศจิกายน เนื่องจากสมเด็จพระสันตปาปาในฐานะที่มาเยือนชาวไทย และศาสนจักร เหมือนกับพ่อเยี่ยมลูก จึงใช้โอกาสพบปะกับคณะบาทหลวง นักบวชชาย หญิงนักพรต และผู้เตรียมตัวเป็นบาทหลวง ผู้ฝึกหัด ครูคำสอน ภายในวัดคาทอลิกนักบุญเปโตร สามพราน จ.นครปฐม พบปะกับบิชอปของไทย และของสหพันบรรดาบิชอปแห่งเอเชีย ณ สักการะสถานบุญราศีนิโคลัส บุญเกิด กฤษบำรุง โดยทุกสถานที่ที่เสด็จ สมเด็จพระสันตะปาปาจะปราศัยด้วย หลังจากนั้นจะถือโอกาสในฐานะที่เป็นนักบวช เยซุอิต พบปะกับคณะนักบวช เยซุอิต ที่เป็นเสมือนพี่น้องของพระองค์ที่ทำงานในเมืองไทย ก่อนเสด็จกลับสถานทูตวาติกันเพื่อพักผ่อน จากนั้นเสด็จพบปะผู้นำศาสนาคริสต์ต่างนิกาย และผู้แทนนับถือศาสนาอื่นๆ ในประเทศไทย พร้อมกับบรรดาผู้นำสถาบันอุดมศึกษา คณาจารย์ นิสิต ที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย หลังจากนั้นจะพบปะเฉพาะเยาวชน จัดพิธีบูชามิสซาให้เฉพาะเยาวชน ที่อาสนวิหารอัสสัมชัญ บางรัก ซึ่งสามารถรองรับเยาวชนได้ประมาณ 4,000 คน และวันที่ 23 พฤศจิกายน เสด็จจากกรุงเทพฯ สู่กรุงโตเกียวประเทศญี่ปุ่น สำหรับการแต่งกายในการรับเสด็จ สมเด็จพระสันตะปาปาไม่ทรงเน้นการแต่งกายเป็นทางการ หรือเป็นสากล อยากให้เน้นความเรียบง่าย และเน้นความเป็นไทยมากกว่า

Advertisement

“สมเด็จพระสันตะปาปา เสด็จเยือนประเทศไทยครั้งนี้ มาเพื่อการอภิบาล ในการนี้ทรงได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ให้เข้าเฝ้า ณ พระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต เพราะความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับคริสตจักรมีมายาวนานกว่า 475 ปี และพระมหากษัตริย์ไทย และพระบรมวงศานุวงษ์ทุกพระองค์ มีความผูกพันกับศาสนจักรโรมันคาทอลิก ขณะที่ในหลวงทรงเป็นองค์อัครศาสนูปถัมภกดูแลทุกศาสนา สมเด็จพระสันตะปาปาเสด็จครั้งนี้ คนไทยทุกคนเป็นเจ้าของบ้าน อยากให้ทุกคนร่วมจิตร่วมใจกัน บางแห่งไม่สามารถเปิดให้ประชาชนเข้าได้ เช่น ทำเนียบรัฐบาล ส่วนที่เปิดกว้าง เช่น โรงพยาบาลเซนต์หลุยส์ สาธร วัดคาทอลิก นักบุญเปรโตร สามพราน จุฬาฯ สนามศุภชลาศัย ฯลฯ จะเปิดให้ผู้สนใจแจ้งความจำนงรับบัตรเพื่อร่วมงานได้ โดยที่สนามศุภชลาศัยรองรับผู้เข้าร่วมได้ประมาณ 25,000 คน หากมีประชาชนแสดงความจำนงขอเข้าร่วมเกินกว่าที่สนามศุภชลาศัยจะรองรับได้ จะประสานจุฬาฯ เพื่อขอใช้พื้นที่สนามเทพหัสดินด้วย” มงซินญอร์ วิษณุ กล่าว

มงซินญอร์ วิษณุ กล่าวต่อว่า ปัจจุบันสมเด็จพระสันตะปาปามีพระชนมายุ 83 พรรษา ฉะนั้น จะให้เสด็จไกลๆ คงลำบาก โดยเสด็จมาเอเซียเป็นครั้งที่ 4 และเป็นครั้งที่ 32 ที่มีพันธกิจอภิบาลโลก ทุกครั้งที่สมเด็จพระสันตปาปาปราศัย พระองค์มีพระประสงค์จะใช้ภาษาสเปน ซึ่งจะแปลเป็นภาษาไทย และอังกฤษ โดยตารางกิจกรรมนี้ถือว่าแน่นอน แต่เวลาอาจปรับเปลี่ยน หากมีความคืบหน้า จะได้แจ้งให้ทราบอีกครั้ง ทั้งนี้ การแถลงข่าวจะดำเนินการพร้อมกัน 3 ประเทศ คือ นครวาติกัน ไทย และญี่ปุ่น ซึ่งข้อมูลต้องตรงกัน คาดว่าจะแถลงการดำเนินงานอีกครั้งปลายเดือนตุลาคมนี้ เพื่อให้ทราบข้อมูลที่แน่นอน โดยจะมีสื่อมวลชนจากสำนักข่าวต่างประเทศที่เดินทางมาร่วมทำข่าวกว่า 80 คน ยังไม่นับรวมสื่อมวลชนจากประเทศไทย ซึ่งจะเปิดให้ลงทะเบียนอย่างเป็นทางการทาง www.popevisitthailand.com/press ตั้งแต่วันที่ 11 ตุลาคม ถึงวันที่ 8 พฤศจิกายน

Advertisement

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image