‘เสมา1’ จ่อปรับระบบพัฒนาครู ดึงเทคโนฯช่วยอัพเกรดแม่พิมพ์
เมื่อวันที่ 3 ตุลาคม นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ตนอยู่ระหว่างทบทวนการพัฒนาครู เพื่อให้ครูมีศักยภาพในการสอนนักเรียน ส่วนจะยังมีโครงการคูปองพัฒนาครูหรือไม่นั้น ตนจะต้องทบทวนและตรวจสอบความเข้มข้นของหลักสูตรที่มีอยู่กว่า 2,700 หลักสูตรว่ามีประโยชน์ต่อครูอย่างแท้จริง และตรงกับนโยบายที่ตนกำลังทำหรือไม่ ซึ่งเรื่องการอบรมพัฒนาครูจะผูกกับการขอมีและเลื่อนวิทยฐานะที่ตนกำลังหาแนวทางให้ทำวิทยฐานะได้สะดวกขึ้น และตรงกับการประเมินโดยแท้จริง ขณะเดียวกันการตรวจสอบต้องเข้มข้นกว่าเดิม โดยใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วย ซึ่งเรื่องเทคโนโลยีจะเกี่ยวข้องกับการพัฒนาระบบอินเตอร์เน็ตของโรงเรียนทั่วประเทศ ที่ตนวางแผนพัฒนาให้เสร็จภายในเดือนพฤษภาคม 2563 อาจจะเหลือเพียง 5% ที่ระบบอินเตอร์เน็ตไม่สามารถเข้าถึงได้สะดวก โดยได้เตรียมงบประมาณไว้รองรับเรียบร้อยแล้ว ฉะนั้นเราจะใช้เทคโนโลยีเข้ามาควบคุมการอบรมพัฒนาครูทั้งการทำรายงานต่างๆ เพื่อให้เชื่อมต่อกับ ศธ.โดยตรง
นายณัฏฐพล กล่าวต่อว่า ส่วนจะเดินหน้าคูปองพัฒนาครูหรือไม่ ตนมองว่าการพัฒนาครูต้องมีอยู่แล้ว แต่จะไม่ปล่อยให้ครูไปอบรมแล้วไม่ได้รับประโยชน์กลับมา ดังนั้นแนวทางและวิธีการจะต้องเปลี่ยนไป แต่อย่าเพิ่งตกใจว่าจะไม่สามารถขอมีและเลื่อนวิทยฐานะได้เพราะเรื่องนี้อยู่ระหว่างการปรับเปลี่ยน ดังนั้นการอบรมพัฒนาครูจะต้องปรับแก้ระบบ เพื่อตรงกับแนวทางของรัฐบาล โดยลดการอบรมนอกสถานที่ ซึ่งอาจจะไม่ใช่รูปแบบคูปองพัฒนาครูแบบเดิม
“การเข้าสู่ตำแหน่งของข้าราชการในกระทรวง ทั้งตำแหน่งของครู ผู้บริหาร และการเลื่อนขั้น คือปัญหาที่ต้องได้รับการแก้ไข ส่วนความเหมาะสมว่าจะมีคูปองพัฒนาครูหรือไม่ ถ้าศึกษาอย่างละเอียดแล้วพบว่าไม่มีวิธีไหนดีกว่านี้แล้ว ก็ให้คงไว้ แต่ผมมั่นใจว่าเทคโนโลยีที่จะเข้ามาเกี่ยวข้องในการอบรม การสัมมนา และการประเมิน ต้องมีวิธีที่ดีกว่านี้ ส่วนจะลดอัตรา ลดราคา หรือหาวิธีใดมาจัดอบรมนั้น มั่นใจว่าจะหาวิธีได้ ซึ่งอาจจะมีการนำส่วนหนึ่งของคูปองพัฒนาครูเข้ามาด้วยก็ได้” นายณัฏฐพลกล่าว
