ศาลแรงงานพิพากษา มูลนิธิเซนต์คาเบรียลฯ จ่ายชดเชยเงินบำนาญ 14 ครูเกษียณ พร้อมดอกเบี้ย

ศาลแรงงานพิพากษา มูลนิธิเซนต์คาเบรียลฯ จ่ายชดเชยเงินบำนาญย้อนหลัง 14 ครูเกษียณ พร้อมดอกเบี้ย ภายใน 15 วัน

เมื่อวันที่ 17 ตุลาคม ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า ศาลแรงงานได้อ่านคำพิพากษากรณี ผู้บริหารมูลนิธิคณะเซนต์คาเบรียลแห่งประเทศไทยและโรงเรียนอัสสัมชัญ ไม่จ่ายค่าชดเชยและเงินบำนาญให้กับครูโรงเรียนอัสสัมชัญที่เกษียณมาร่วมสิบปี โดยมีคำสั่งให้มูลนิธิคณะเซนต์คาเบรียลแห่งประเทศไทย ในฐานะผู้รับใบอนุญาตสถานศึกษาและเป็นนายจ้าง จ่ายคืนค่าชดเชยตามกฎหมายแรงงาน และเงินบำนาญตามสัญญาจ้าง พร้อมดอกเบี้ย แก่ครูเกษียณโรงเรียนอัสสัมชัญ ภายใน 15 วัน

กรณีดังกล่าวเกิดขึ้นในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ครูที่เกษียณอายุราชการ ของโรงเรียนอัสสัมชัญ ซึ่งเป็นหนึ่งในโรงเรียนของมูลนิธิคณะเซนต์คาเบรียลแห่งประเทศไทย ได้รับความเดือดร้อน ใช้ชีวิตยามชราภาพอย่างยากลำบาก ถูกละเมิดสิทธิทางแรงงาน ได้แก่ ถูกบังคับให้เขียนหนังสือลาออกเมื่อเกษียณอายุ ส่งผลให้ไม่ได้รับค่าชดเชย หรือเงินสิบเดือน ตามกฎหมายแรงงาน และไม่ได้รับเงินบำนาญ ตามสัญญาจ้างซึ่งเป็นหนึ่งในสวัสดิการที่ผู้บริหารมูลนิธิสัญญาบอกว่าจะให้ แต่กลับมายกเลิกโดยไม่ได้รับความยินยอมจากครูในฐานะลูกจ้าง ศิษย์เก่าโรงเรียนอัสสัมชัญจึงหาแนวทางช่วยเหลือครูเกษียณผ่านงานการกุศลต่างๆ และที่สำคัญพยายามเจรจาหาทางออกกว่าสิบครั้ง กับผู้บริหารมูลนิธิคณะเซนต์คาเบรียลมาโดยตลอด แต่ถูกปฏิเสธ

ผู้สื่อข่าวรายงานต่อว่า ทางกลุ่มศิษย์เก่าจึงได้ขอความเมตตาจากศาลแรงงาน เมื่อวันที่ 27 มีนาคม 2561 โดยแบ่งโจทก์เป็น 2 กลุ่ม ได้แก่ 1.กลุ่มแรก กลุ่มครูเกษียณ 10 คน ที่ถูกบังคับให้เขียนหนังสือลาออก และไม่ได้รับค่าชดเชยตามกฎหมายเมื่อถูกเลิกจ้าง 2.และกลุ่มครูเกษียณ 4 คน ที่ไม่ได้รับเงินบำนาญ ตามสัญญาจ้าง เพราะถูกอ้างว่าสัญญาที่จะให้เงินบำนาญเป็นสัญญาของมูลนิธิ ไม่ใช่สัญญาของโรงเรียน ในเมื่อครูเป็นลูกจ้างของโรงเรียนจึงไม่มีสิทธิได้รับสวัสดิการจากระเบียบของมูลนิธิ ซึ่งในที่สุดเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2562 ศาลแรงงานได้มีคำพิพากษาคืนความเป็นธรรมให้ครูเกษียณอัสสัมชัญทั้ง 14 คน ดังนี้ กลุ่มแรก ให้มีสิทธิได้รับค่าชดเชยตามกฎหมายแรงงาน 10 เดือน พร้อมดอกเบี้ย 15% ต่อปี ภายใน 15 วัน รวมเป็นเงินประมาณ 5,500,000 บาท

Advertisement

กลุ่มที่สอง เป็นลูกจ้างของโรงเรียนอัสสัมชัญซึ่งมีมูลนิธิคณะเซนต์คาเบรียลแห่งประเทศไทยเป็นผู้รับใบอนุญาต และเป็นผู้แทนนิติบุคคลโรงเรียนอัสสัมชัญ ตาม พ.ร.บ.โรงเรียนเอกชน 2550 และในทางปฏิบัติ ครูโรงเรียนอัสสัมชัญ ต้องปฏิบัติตามกฎระเบียบ/นโยบายของมูลนิธิ รวมทั้งแนวทางการกำหนดการขึ้นเงินเดือน เงินประจำตำแหน่งต่างๆ ล้วนถูกกำหนดเกณฑ์จากมูลนิธิคณะเซนต์คาเบรียลแห่งประเทศไทย ดังนั้น สัญญาจ้างของมูลนิธิคณะเซนต์คาเบรียลแห่งประเทศไทยในฐานะนายจ้าง ที่ได้ทำสัญญาว่าจ้าง ครูโรงเรียนอัสสัมชัญนั้น ได้ระบุสวัสดิการและสิทธิประโยชน์ไว้ว่า เมื่อเกษียณอายุ มีสิทธิได้รับเงินบำนาญ จึงส่งผลให้ ครูเกษียณทั้ง 4 คน มีสิทธิได้รับเงินบำนาญย้อนหลังตามสัญญาจ้างตั้งแต่วันที่เกษียณถึงปัจจุบัน เป็นเวลากว่า 20 เดือน พร้อมดอกเบี้ย 7.5% ต่อปี ภายใน 15 วัน รวมเป็นเงินประมาณ 1,300,000 บาท

จากผลของคำพิพากษาดังกล่าว เป็นการสร้างบรรทัดฐานให้แก่ครูโรงเรียนเอกชนทั่วประเทศ ที่ได้รับการคุ้มครองตามระเบียบกระทรวงศึกษาธิการว่าด้วยการคุ้มครองการทำงานครูและครูใหญ่โรงเรียนเอกชน 2542 ว่า เมื่อเกษียณอายุ ซึ่งเป็นหนึ่งในการเลิกจ้าง มีสิทธิได้รับค่าชดเชย ทั้งนี้ค่าชดเชยและเงินบำเหน็จบำนาญ เป็นเงินคนละประเภทกัน ไม่สามารถนำมาทดแทนกันได้ เพราะมีวัตถุประสงค์ที่แตกต่างกัน และวิธีคำนวณที่แตกต่างกัน ขณะเดียวกันยังมีครูเกษียณโรงเรียนอัสสัมชัญ ถูกละเมิดสิทธิไม่ได้รับเงินเกษียณตามสัญญาจ้างและกฎหมายแรงงานอีกหลายร้อยคน ดังนี้ กรณีเกษียณแล้ว แต่ถูกบังคับไม่ให้รับเงินบำนาญตามสัญญาจ้าง และถูกบังคับให้ลาออก และไม่ได้รับค่าชดเชย อีกกว่า 20 คน ได้รับเงินบำนาญตามสัญญาจ้าง แต่ถูกบังคับให้ลาออก และไม่ได้รับค่าชดเชย อีกกว่า 100 คน ครูที่ทำงานอยู่ในปัจจุบันอีกกว่า 200 ท่าน ได้ถูกเปลี่ยนแปลงสัญญาจ้าง ยกเลิกสิทธิรับเงินบำนาญเมื่อเกษียณ โดยที่ไม่ได้รับความยินยอมจากครู ทั้งที่มีข้อตกลงสัญญากันมาก่อนว่า เมื่อเกษียณมีสิทธิรับเงินบำนาญ รวมทั้งโรงเรียนอื่น ๆ ที่มีมูลนิธิคณะเซนต์คาเบรียลแห่งประเทศไทยเป็นผู้รับใบอนุญาต เช่น โรงเรียนเซนต์คาเบรียล โรงเรียนมงฟอร์ต โรงเรียนอัสสัมชัญศรีราชา โรงเรียนอัสสัมชัญธนบุรี เป็นต้น ครูในโรงเรียนดังกล่าวล้วนแต่ถูกละเมิดสิทธิการได้รับค่าชดเชยเมื่อเกษียณ และถูกบังคับไม่ให้รับเงินบำนาญตามสัญญาจ้างไม่ต่างกับครูเกษียณและครูปัจจุบันของโรงเรียนอัสสัมชัญ

อย่างไรก็ตาม จากผลของคำพิพากษาของศาลแรงงาน ได้ยืนยันความชอบธรรมและความถูกต้องให้กับครูเกษียณและครูโรงเรียนอัสสัมชัญปัจจุบันกว่า 300 คน ว่า มีสิทธิได้รับเงินบำนาญเมื่อเกษียณตามสัญญาจ้าง และมีสิทธิได้รับค่าชดเชยเมื่อเกษียณตามกฎหมายแรงงาน ทั้งสองอย่าง ซึ่งหวังว่า จะได้มีการพูดคุยหาทางออก ร่วมกับ ผู้บริหารมูลนิธิคณะเซนต์คาเบรียลต่อไป เพื่อให้เกิดความเป็นธรรม แก่ครูพันคนใน 14 โรงเรียนในเครือมูลนิธิคณะเซนต์คาเบรียลแห่งประเทศไทยต่อไป แต่หากการเจรจาไม่สามารถตกลงกันได้ ก็อาจจะเกิดการฟ้องร้องต่อไป

Advertisement

ด้านนายกวินทร์เกียรติ นนธ์พละ รองเลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (กช.) รักษาการเลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน(กช.) กล่าวว่า ตนยังไม่ทราบรายละเอียดเรื่องดังกล่าว แต่โดยหลักการหากศาลมีคำตัดสิน แล้วคู่กรณีไม่มีการยื่นอุทธรณ์หรือฎีกา ต่อศาล ถือว่าเป็นอันสินสุดและต้องชดใช้เงินตามคำสั่งศาล โดยกรณีนี้ถือเป็นคดีแพ่ง ถือเป็นเรื่องภายในโรงเรียนต่อคู่กรณีที่ต้องดำเนินการ สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) จะเข้าไปเกี่ยวข้องกรณีที่เป็นคดีอาญา ในส่วนที่ต้องกำกับดูแลให้โรงเรียนเอกชน ดำเนินการตามกฎหมาย

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image