‘สมคิด’ นัดถกอธิการบดีทั่วประเทศ รับมือดิสรับชั่น ผุด ‘สกิลแมปปิ้ง’ ตอบโจทย์แรงงานในระบบ

ดร.สุวิทย์ เมษินทรีย์  รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เผยว่า ในวันจันทร์ที่ 28 ต.ค.นี้ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี จะมาเป็นประธานการประชุม เรื่อง การผลิตและพัฒนากำลังคนเพื่อขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศ เพื่อตอบโจทย์กำลังคนในวัยทำงานในระบบ คนที่ต้องการเปลี่ยนงาน รวมทั้งรับมือกับการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีที่ทำให้เกิดการว่างงานจำนวนมาก โดยในการประชุมครั้งนี้จะมีอธิการบดีจากทั่วประเทศ ทั้งรัฐและเอกชน รวมทั้งบริษัทเอกชนรายใหญ่ เพื่อที่จะหารือร่วมกันถึงการปรับปรุงและพัฒนาทักษะ การเพิ่มทักษะ และการสร้างทักษะใหม่ โดยภาคเอกชนอาจจะมาร่วมจัดทำหลักสูตรในอนาคต เพื่อให้ตรงตามความต้องการของตลาดแรงงาน เช่น ภาคเอกชนอาจจะทำหลักสูตรเอง แต่ให้ อว. เข้าไปส่งเสริมสนับสนุน หรือถ้าภาคเอกชนทำไม่ได้ก็ให้มหาวิทยาลัยเข้าช่วยทำ หรือมหาวิทยาลัยทำหลักสูตรเอง ซึ่งหลักสูตรที่จะทำให้จะทั้งแบบที่มีปริญญากับไม่มีปริญญาก็ได้

ดร.สุวิทย์ กล่าวอีกว่า ที่สำคัญในการประชุมวันที่ 28 ต.ค. อีกประเด็นหนึ่ง คือการสำรวจความต้องการทักษะอาชีพ (Skill Mapping) เพื่อที่จะได้จัดทำหลักสูตรให้สอดคล้อง โดยเฉพาะหลักสูตรที่สามารถนำไปปฏิบัติได้จริง ซึ่งจะมีอยู่ 3 กลุ่ม คือ 1. กลุ่มสมาร์ทฟาร์มเมอร์ ซึ่งอาจจะเป็นกลุ่มที่ไม่จำเป็นต้องมีปริญญา แต่ต้องพัฒนาไปสู่เกษตร 4.0 ให้ได้ 2. กลุ่มอุตสาหกรรม โดยนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมเข้าไปใช้ในกลุ่มคนทำงาน เช่น วิศวกร ช่างฝีมือ ซึ่งต้องพัฒนาไปสู่อุตสาหกรรม 4.0 และ 3.กลุ่มภาคบริการ เช่น การท่องเที่ยวแบบสร้างสรรค์ ซึ่งจะต้องพัฒนาไปสู่การบริการ 4.0 เช่นกัน โดยทั้ง 3 กลุ่มจะให้มหาวิทยาลัยเข้ามาจับคู่ เช่น มหาวิทยาลัยราชภัฎจะเน้นในเรื่องภาคบริการและความโดดเด่นของท้องถิ่น อย่างการยกระดับความสามารถด้านภาษา ยกระดับการท่องเที่ยว ยกระดับการเกษตร ขณะที่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลและอีก 3 พระจอมเกล้า จะเน้นในเรื่องของปัญญาประดิษฐ์หรือ AI เป็นต้น ส่วนมหาวิทยาลัยกลุ่มใหญ่ จะเน้นในเรื่องของการรับมือต่อกระแสดิสรับชั่น (Disruption) ซึ่งจะต้องมีการปรับปรุงและพัฒนาทักษะ การเพิ่มทักษะ และการสร้างทักษะใหม่

“ทั้งนี้ การดำเนินงานทั้งหมดเพื่อตอบโจทย์การแก้ปัญหาแรงงานว่างงานในระบบ แรงงานที่ต้องการเปลี่ยนงาน และอาชีพในอนาคต ซึ่งตนได้ประสานกับ 10 บริษัทรายใหญ่ เช่น โตโยต้า ปตท. เอสซีจี ปูนซิเมนต์ไทย บางจาก มิตรผล เอไอเอส และกลุ่มธนาคารพาณิชย์ เป็นต้น เพื่อให้มาทำงานร่วมกับมหาวิทยาลัยในการพัฒนาคนในยุคดิสรับชั่นนี้”ดร.สุวิทย์ กล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image