เลขาฯ ก.ค.ศ.แจงรายชื่อขึ้นบัญชีสำรองสอบครูผู้ช่วยมีอายุ 2 ปี กศจ.หยิบใช้ได้จนกว่าหมดอายุ

เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม น.ส.อุษณีย์ ธโนศวรรย์ เลขาธิการคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) เปิดเผยกรณีมีกระแสข่าวว่าในปีการศึกษา 2562 สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) จะไม่จัดสอบแข่งขันเพื่อบรรจุและแต่งตั้งบุคคลเข้ารับราชการเป็นข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งครูผู้ช่วย เนื่องจากรายชื่อคงค้างในบัญชีจากปีก่อน ยังมีมากพอจะทยอยเรียกบรรจุได้ถึงปีการศึกษา 2563 เท่ากับนิสิตนักศึกษาที่เรียนจบหลักสูตรครุศาสตร์ และศึกษาศาสตร์ ในปีการศึกษา 2562 และปีการศึกษา 2563 ส่อโดนลอยแพ และต้องไปสอบบรรจุในปีการศึกษา 2564 พร้อมกัน ซึ่งจะทำให้มีบัณฑิตที่จบหลักสูตรครุศาสตร์และศึกษาศาสตร์ตกค้างกว่า 100,000 คน ล่าสุดทางคุรุสภาให้สถาบันผลิครู และกระทรวงการอุดมศึกษาวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ดูความเหมาะสมในการผลิตครูในระบบปิด ล่าสุด นายสมบัติ นพรัก คณบดีวิทยาลัยการศึกษา มหาวิทยาลัยพะเยา (มพ.) ได้เรียกร้องให้ สพฐ.เปิดผลสอบครูผู้ช่วย ปี 2561 ทุกจังหวัด หลังพบว่านอกจากรายชื่อที่บรรจุแล้ว มีรายชื่อขึ้นบัญชีสำรองสูงเกือบ 2 เท่า และบัญชีสำรองควรจะบรรจุเฉพาะอัตราว่างที่สอบในรุ่นนั้นๆ ว่า ก.ค.ศ.เป็นผู้ออกหลักเกณฑ์สอบแข่งขันเพื่อบรรจุและแต่งตั้งบุคคลเข้ารับราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งครูผู้ช่วย ในส่วนของการดำเนินการนั้น เป็นส่วนราชการที่รับผิดชอบจะเป็นผู้ดำเนินการจัดสอบ คือคณะกรรมการศึกษาธิการจังหวัด (กศจ.) ประจำจังหวัดนั้นๆ

ผู้สื่อข่าวถามว่า มีนักวิชาการตั้งข้อสังเกตว่า การใช้บัญชีสำรองจะสิ้นสุดการใช้บัญชีเมื่อได้จำนวนผู้บรรจุตามจำนวนที่ต้องการในครั้งนั้นๆ เท่านั้น เหตุใดจึงอ้างว่าต้องใช้บัญชีสำรองจนหมด โดยจะนำไปบรรจุเมื่อมีอัตราว่างที่ไม่ได้ประกาศรับในครั้งนั้นๆ น.ส.อุษณีย์กล่าวว่า ขึ้นอยู่กับหลักเกณฑ์ที่ สพฐ.ใช้ ทั้งนี้ การนำรายชื่อของผู้ที่ขึ้นอยู่ในบัญชีครูผู้ช่วยสามารถทำได้ เพราะหากเป็นการสอบแข่งขันเพื่อบรรจุและแต่งตั้งบุคคลเข้ารับราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งครูผู้ช่วย จะมีการขึ้นบัญชีสำรอง ซึ่งบัญชีที่ค้างอยู่นั้น สพฐ.สามารถเรียกใช้ได้จนกว่าจะหมดอายุบัญชี ซึ่งมีระยะเวลา 2 ปี

นายฤๅเดช เกิดวิชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา (มร.สส.) กล่าวว่า ส่วนตัวไม่เห็นด้วยที่จะไม่มีการสอบครูผู้ช่วยในปีการศึกษา 2562 เพราะการสอบคือการรับคนเข้าไปทำงานใหม่ ควรจะได้คนที่มีความรู้ที่ทันสถานการณ์ในปัจจุบันมากที่สุด และเก่ง ไม่ควรจะนำรายชื่อจากบัญชีคงค้างเก่าขึ้นมา โดยให้เหตุผลว่ามีมากพอที่จะทยอยเรียกบรรจุ เพราะผลกระทบที่ตามมาคือจะไม่ได้คนที่มีความรู้ความสามารถทันต่อสถานการณ์ปัจจุบัน

“การแก้ไขปัญหาเบื้องต้น อาจจะเป็นผสมผสานกัน เช่น เอารายชื่อบัญชีค้างเก่าเรียกบรรจุครึ่งหนึ่ง และจัดสอบใหม่บรรจุใหม่อีกครึ่งหนึ่ง น่าจะเป็นทางออกที่ดี เพราะสงสารบัณฑิตครูจบใหม่ ที่มีความกระหาย มีไฟที่จะทำงาน กลับไม่มีการเรียกสอบบรรจุ ทำให้ไฟนั้นมอด และความรู้หายไป เพราะต้องรออีก 2 ปี จัดสอบบรรจุใหม่” นายฤๅเดชกล่าว

Advertisement

ด้านนายสมบัติกล่าวว่า ในส่วนของการขึ้นบัญชีที่ตนได้ตั้งข้อสังเกต กรณีการขึ้นบัญชีสำรองเพื่อแก้ปัญหาการสละสิทธินั้น ส่วนตัวเข้าใจว่า สพฐ.มีระยะเวลาการขึ้นบัญชีไว้ 2 ปี และถือเป็นอำนาจของ กศจ.แต่บัญชีที่ขึ้นไว้ต้องใช้กับผู้สอบในรุ่นนั้นๆ เท่านั้น กศจ.สามารถใช้บัญชีที่ขึ้นผู้สำรองไว้กับผู้ที่สอบบรรจุ ปีการศึกษา 2561 ในกรณีที่ผู้สอบได้ในปี 2561 สละสิทธิ หรือมีอัตราว่างของปี 2561 เท่านั้น กศจ.จะใช้บัญชีดังกล่าวเพื่อนำมาบรรจุอัตราปี 2562 หรือปี 2563 ไม่ได้ เพราะเป็นการใช้สิทธิการบรรจุในอัตราที่ยังไม่ได้ประกาศรับตามกฎหมาย ดังนั้น หาก กศจ.นำอัตราปี 2562 ที่ยังไม่ประกาศรับ ไปบรรจุโดยใช้บัญชีสำรองผู้สอบปี 2561 ผู้ที่จะเสียสิทธิก็คือผู้สำเร็จการศึกษาปีการศึกษา 2562 รวมทั้งผู้ที่รอสอบบรรจุปี 2562 น่าจะสามารถฟ้อง กศจ.ได้ ตรงนี้ต้องหารือนักกฎหมายเพื่อดูความชัดเจนต่อไป

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image