มหา’ลัยจ่อลดจำนวนผลิตครูปี’63 ปธ.ทปอ.ราชภัฏรับแย่งกันปั๊มจนบัณฑิตล้นจริง

เมื่อวันที่ 28 ตุลาคม นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เปิดเผยกรณีปีการศึกษา 2562 สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) จะไม่จัดสอบแข่งขันเพื่อบรรจุและแต่งตั้งบุคคลเข้ารับราชการเป็นข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งครูผู้ช่วย เนื่องจากรายชื่อคงค้างในบัญชีจากปีก่อน ยังมีมากพอจะทยอยเรียกบรรจุได้ถึงปีการศึกษา 2563 เท่ากับนิสิตนักศึกษาที่เรียนจบหลักสูตรครุศาสตร์ และศึกษาศาสตร์ ในปีการศึกษา 2562 และปีการศึกษา 2563 ส่อโดนลอยแพ และต้องไปสอบบรรจุในปีการศึกษา 2564 พร้อมกัน ซึ่งจะทำให้มีบัณฑิตที่จบหลักสูตรครุศาสตร์และศึกษาศาสตร์ตกค้างกว่า 100,000 คน ล่าสุดคุรุสภาให้สถาบันผลิตครู และ อว.ดูความเหมาะสมในการผลิตครูในระบบปิด ว่า เมื่อเร็วๆ นี้ ได้ให้โจทย์กับมหาวิทยาลัย 2 เรื่อง คือ การเตรียมครูในศตวรรษที่ 21 ที่ต้องตอบโจทย์การพัฒนาประเทศ เพราะครูเป็นกลไกสำคัญในการสร้างคน และจำนวนการผลิตและความต้องการ ทั้งนี้ การแก้ปัญหาเรื่องนี้ต้องมองเชิงระบบ ซึ่งการผลิตครูในระบบปิด ก็เป็นส่วนหนึ่งในการแก้ปัญหา

นายเรืองเดช วงศ์หล้า อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏอุตรดิตถ์ และประธานที่ประชุมอธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฎแห่งประเทศไทย (มรภ.ทปอ.) กล่าวว่า ทปอ.มรภ.ได้จัดทำข้อเสนอในการแก้ปัญหาการผลิตครูให้นายสุวิทย์พิจารณาใน 3 ประเด็นหลัก คือ 1.จัดทำกลไกการผลิตครูในระบบให้เหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบัน ซึ่งต้องยอมรับว่าจำนวนเด็กน้อยลง และอัตราเกษียณอายุราชการไม่เพียงพอต่อการบรรจุ ขณะเดียวกันโรงเรียนแต่ละแห่งก็มีครูเกินอยู่แล้ว 2.การผลิตครูในอนาคต ต้องเน้นสมรรถนะความเป็นครูในศตวรรษที่ 21 และ 3.เสนอให้คัดเลือกโรงเรียนร่วมผลิตครู จำนวน 5,000 โรงเรียน โดยจะให้มหาวิทยาลัยเข้าไปช่วยพัฒนาโรงเรียน พัฒนาครู และพัฒนาการเรียนการสอน

“ยอมรับว่าที่ผ่านมา มหาวิทยาลัยมีอิสระในการผลิตครู ต่างคนต่างผลิต จนทำให้จำนวนบัณฑิตที่ออกมาเกิน จากนี้สถาบันฝ่ายผลิตที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ไม่ใช่แค่ มรภ.ต้องมาคุยกันให้ชัดเจนว่า มหาวิทยาลัยใดจะผลิตสาขาไหน จำนวนเท่าไร ขณะเดียวกันต้องดูในเรื่องของการมีงานทำ สำหรับผู้ที่ไม่สามารถสอบบรรจุเป็นครูได้ ต้องส่งเสริมให้มีความรู้ และความสามารถที่จะไปประกอบวิชาชีพอื่นได้ด้วย โดยมีวิชาครูเป็นพื้นฐาน ทั้งหมดนี้หากไม่เริ่มพูดคุย จะกระทบทั้งมหาวิทยาลัย ผู้เรียน กระทบทั้งประเทศ ซึ่งปีการศึกษา 2563 คาดว่าจำนวนการผลิตจะลดลง และจะมีความชัดเจนภายใน 2 ปี มีการแก้ปัญหาที่เป็นระบบมากขึ้น” นายเรืองเดช กล่าว

 

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image