‘อรรถพล’ ขอเวลา 7 วัน หาคำตอบ หย่าศึกกรุงเทพคริสเตียนฯ วอนอย่านำเด็กมามีส่วนร่วม
เมื่อวันที่ 28 ตุลาคม นายอรรถพล ตรึกตรอง เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (กช.) เปิดเผยภายหลังหารือร่วมกับนายบรรจง ชมภูวงศ์ ผู้อำนวยการโรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย กลุ่มตัวแทน Save BCC และสมาคมผู้ปกครอง รวมถึงตัวแทนจากมูลนิธิสภาคริสตจักรในประเทศไทย ว่า ความขัดแย้งทั้งหลายมาจากการมองไม่ตรงกัน ต่างคนต่างมีเหตุผล แต่ในที่ประชุมตนได้ย้ำไปแล้วว่า ขอให้เดินหน้าทำการเรียนการสอนตามปกติ เพราะไม่อยากให้กระทบกับนักเรียน ซึ่งที่ประชุมก็เห็นตรงกันว่า ตั้งแต่ช่วงภาคบ่ายวันที่ 28 ตุลาคมเป็นต้นไป จะจัดการเรียนการสอนตามปกติ ส่วนกิจกรรมวันที่ 29 ตุลาคมที่จะมีการไปยื่นถึงสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) นักเรียนก็จะไม่เข้าร่วม เพราะเป็นเรื่องของผู้ใหญ่ ไม่ควรเอานักเรียนไปเล่นเกมนี้ด้วย ส่วนของตนเองนั้น เนื่องจากตนเพิ่งมารับตำแหน่งเลขาธิการ กช.วันแรก เมื่อทราบว่ามีการชุมนุมก็ตรงมารับเรื่องทันที สิ่งแรกที่จะทำคือ จะนำเรื่องนี้เป็นเรื่องเร่งด่วนโดยภายใน 7 วัน จะตรวจสอบดูว่ากระดุมเม็ดแรกกลัดถูกต้องหรือไม่ คือ ตรวจสอบที่มาและการแต่งตั้งคณะกรรมการบริหารโรงเรียน เพราะมีอำนาจเหนือทุกอย่าง ซึ่งมูลนิธิฯ ได้รับมอบอนุญาต แต่การสั่งการต้องผ่านคณะกรรมการบริหารโรงเรียน การดำเนินการต่างๆ ของผู้อำนวยโรงเรียนและผู้จัดการ ก็ล้วนอยู่ในอำนาจของคณะกรรมการบริหารโรงเรียนทั้งสิ้น และต้องไล่ดูว่าการใช้อำนาจที่ผ่านมาถูกต้องชอบธรรมแค่ไหน
นายอรรถพล กล่าวต่อว่า ส่วนเรื่องที่ทางสมาคมผู้ปกครองและศิษย์เก่า เคยยื่นเรื่องแล้วล่าช้าหรือไม่ได้รับคำตอบต่างๆ นั้น ขอเวลา 30 วัน ในการไปไล่เรียงเรื่องราวและนำมาตีแผ่ความจริงให้ เพราะตนก็เพิ่งมารับตำแหน่ง แต่เมื่อผลออกมาแล้วทุกคนต้องยอมรับ ถูกใจเป็นรองถูกต้องเป็นหลัก อย่างเรื่องว่าทำผิดกฎหมายอะไรหรือไม่ ก็ไม่ได้ดูแค่กฎหมายการศึกษาเอกชนอย่างเดียว ต้องไปดูกฎหมายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องด้วย ยืนยันว่าจะไม่รังแกใคร จะว่ากันไปตามเนื้อผ้า ซึ่งตนพร้อมรับฟังข้อมูลจากทุกฝ่าย โดยขอให้ทั้งสองฝ่ายเอาเด็กเป็นตัวตั้ง อะไรคุยได้ประนีประนอมได้ต้องคุยกัน ต้องยึดถูกต้อง ไม่ใช่ถูกใจ
“ส่วนเรื่องผู้บริหารใหม่รังแกครู เรามีกลไกดูแล ถ้าครูคนไหนรู้สึกโดนกลั่นแกล้งแจ้งมาได้สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) มีกลไกจัดการ ทั้งนี้ คณะกรรมการเกี่ยวกับเรื่องนี้ที่เคยตั้งไป บางรายได้การเกษียณอายุราชการไป ทำให้งานสะดุดลากยาวเป็นเดือน วันนี้กลับไปจะจัดการเรื่องนี้ทันที เพราะต้องรีบหาข้อยุติโดยเร็วที่สุด จะให้คนนับพันมารอเจ้าหน้าที่ 4-5 คนไม่ได้”นายอรรถพล กล่าว
ด้าน นายชัชวีร์ ชีวีวัฒน์ ศิษย์เก่าโรงเรียน กล่าวว่า ผลการเจรจาใช้เวลานาน ก็มีการแลกเปลี่ยนข้อมูล เพราะเลขาธิการ กช. ก็เพิ่งมารับตำแหน่งวันแรก แต่ข้อสรุปก็คงใช้เรารอตามที่เลขาธิการ กช.ขอไว้ คือ 7 วัน เพราะเรารอมา 3 เดือนแล้ว ที่ผ่านมาไปร้องหน่วยงานต่างๆ ก็แทบไม่ได้รับคำตอบแม้แต่ สช.เอง เมื่อเลขาธิการ กช.ให้คำสัญญามาเราก็ทำตามนั้น ดังนั้น วันที่ 29 ตุลาคม ที่มีภารกิจพาเด็กทั้งหมด ไปยื่นหนังสือที่กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ก็จะยกเลิกไป เพราะหากไม่ได้รับความเห็นใจก็อาจจะไปถึงจุดนั้น ส่วนการไปยื่นที่สำนักนายกรัฐมนตรี หากมีนักเรียนอยากจะยื่นเรื่องราวก็ให้เขียนจดหมาย และทาง น.ส.พัชรินทร์ ซำศิริพงษ์ ส.ส.เขตบางรัก ก็จะช่วยพาไปยื่นหนังสือไปยื่นต่อส.ส.ศิษย์เก่าโรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนฯ เพื่อนำเข้าสู่กรรมาธิการการศึกษาต่อไป
ผู้สื่อข่าวถามว่า หากใน 30 วันยังไม่มีความชัดเจนจะมีการยกระดับหรือไม่ นายชัชวีร์ กล่าวว่า คงไม่ใช่ 30 วัน เราให้เวลา 7 วัน เพราะเรามา 3 เดือนแล้ว จะไม่มี 30 วัน ที่สองแน่นอน หากยังไม่ชัดเจน ก็ต้องดำเนินการต่อไป ซึ่งตอนนี้เราดำเนินการแค่ 40% ของเส้นทางในการต่อสู้เท่านั้น ซึ่งเด็กมาเรียนไม่มีความสุข ครูก็ไม่มีความสุขในการสอน ถูกคาดโทษ ไม่มีใครมีสมาธิการเรียนการสอน การประวิงเวลาต่อไปไม่มีอะไรมีคุณภาพ เพราะหากปั่นป่วนจนไม่สามารถทำการเรียนการสอนได้ โรงเรียนจะมีสภาพอย่างไร
ด้านน.ส.พัชรินทร์ กล่าวว่า เบื้องต้นฐานะ ส.ส.ในพื้นที่ ตนเข้ามารับฟังปัญหา และเป็นตัวแทนรับหนังสือไปยื่นในส่วนของ ส.ส.จะดูว่ามีคณะกรรมาธิการในที่เกี่ยวข้องบ้าง นอกจากด้านการศึกษา ก็จะช่วยประสานในการยื่นเรื่องราว เพื่อหาแนวทางร่วมกันให้ได้รับผลกระทบน้อยที่สุดต่อนักเรียน
นางกนกวรรณ วิลาวัลย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) กล่าวว่า ตนในฐานะที่กำกับดูแล สช. รับทราบเรื่องดังกล่าวแล้ว และทราบเบื้องต้นว่าในวันที่ 29 ตุลาคม เวลา 10.00 น. กลุ่มศิษย์เก่าและศิษย์ปัจจุบัน รวมทั้งผู้ปกครอง จะแต่งกายด้วยชุดดำเดินทางมายื่นหนังสือที่ ศธ. และสช. เพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว ปัญหานี้ถือว่ายืดเยื้อมาเป็นเวลานานแล้ว ตนเป็นห่วงในเรื่องการเรียนการสอนของนักเรียนว่าจะได้รับผลกระทบหรือไม่ ซึ่งเรื่องนี้ต้องหาทางออกร่วมกันให้ได้ เบื้องต้นตนได้มอบให้นายอรรถพล เลขาธิการ กช.ลงพื้นที่ไปดูแลเกี่ยวกับเรื่องนี้แล้ว
