เมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน นายดิศกุล เกษมสวัสดิ์ รักษาการเลขาธิการสำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย (กศน.) และปฏิบัติหน้าที่เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.) เปิดเผยว่า ที่ประชุม สกสค.เมื่อเร็วๆ นี้ มีนายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เป็นประธาน พิจารณาเห็นชอบตั้งแต่งคณะกรรมการบริหารงานบุคคลขึ้น 1 ชุด ซึ่งกรรมการชุดนี้ได้มาจากการเลือกตั้ง และจากการเสนอของผู้ทรงคุณวุฒิ ซึ่งในการประชุมนั้น ที่ประชุมไม่ได้หารือแก้ไขปัญหาหนี้ครู มีเพียงพิจารณาเห็นชอบแต่งตั้งคณะกรรมการ และคณะทำงานชุดต่างๆ ที่ยังคงค้างอยู่ให้ครบ เพื่อให้การทำงานของ สกสค.เดินหน้าต่อไปได้ และเมื่อมีคณะทำงานครบ มีองค์ประกอบการประชุมครบทุกอย่างแล้ว สกสค.พร้อมที่จะทำงานแก้ไขปัญหาต่อไป
นายดิศกุลกล่าวต่อว่า กรณีสมาคมครูออกมาเรียกร้องให้ สกสค.และธนาคารออมสิน ที่อยู่ระหว่างสรรหาบริษัทประกันแห่งใหม่ เพื่อให้ครูผู้กู้เงินในโครงการสวัสดิการเงินกู้การฌาปนกิจสงเคราะห์ช่วยเหลือเพื่อนครูและบุคลากรทางการศึกษา (ช.พ.ค.) ระหว่างนี้บริษัททิพยประกันภัย ซึ่งเป็นบริษัทประกันเดิม ได้ต่ออายุกรรมธรรม์ที่ครบอายุไปอีก 1 ปี ตามเงื่อนไขเดิมนั้น โดยครูร้องเรียนว่าบริษัททิพยประกันภัยคิดเบี้ยอัตราใหม่ จากเดิมร้อยละ 0.62 เป็นร้อยละ 0.84 เพราะต่อสัญญาเพียง 1 ปี ส่วนผู้กู้ที่มีอายุตั้งแต่ 65-74 ปี คิดเพิ่มจากร้อยละ 0.62 เป็นร้อยละ 1.176 และยังไม่รวมค่าอากรแสตมป์อีกร้อยละ 0.4 ที่ผู้เอาประกันต้องจ่ายเองด้วย ว่าเป็นการขูดเลือกขูดเนื้อครูมากเกินไปนั้น เรื่องการเก็บดอกเบี้ยอัตราใหม่นั้น เป็นเรื่องที่ทำมาก่อนที่ตนรับตำแหน่ง ซึ่งรับทราบปัญหานี้แล้ว แต่ขอเวลาไปศึกษารายละเอียดของปัญหาอย่างรอบคอบก่อน เพราะเพิ่งเข้ามารับตำแหน่งปฏิบัติหน้าที่เลขาธิการ สกสค.ได้ไม่นาน
