‘ณัฏฐพล’ จี้ สพฐ.เก็บข้อมูล 5 แสนครูทำบิ๊กดาต้า

เมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน นายอำนาจ วิชยานุวัติ เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) เปิดเผยภายหลังเป็นประธานที่ประชุมผู้บริหารระดับสูง สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ว่า นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) มอบหมายให้ สพฐ.ดำเนินการพัฒนาโรงเรียนสีขาว ที่ปลอดยาเสพติด แม้มีโรงเรียนที่ทำอยู่แล้วแต่ต้องดำเนินการเข้มข้นขึ้น เพื่อดูแลเด็กให้ปลอดจากยาเสพติด โดยตนมอบหมายให้ศูนย์เฉพาะกิจคุ้มครองและช่วยเหลือเด็กนักเรียน (ฉก.ชน.) เข้าไปดูแล และจัดทำมาตรการในการจัดการ พร้อมลงพื้นที่สอดส่องทุกพื้นที่ และสอดส่องตามเทศกาลต่างๆ นอกจากนี้ รัฐมนตรีว่าการ ศธ.มอบหมายให้ สพฐ.ดูแลโรงเรียนสิ่งแวดล้อม หรือโรงเรียนสีเขียว แม้จะมีโรงเรียนที่เกี่ยวข้องกับสิ่งแวดล้อมอยู่แล้ว แต่การขับเคลื่อน การเร่งรัด และตั้งใจในการทำงานยังไม่มากพอ ขอให้ขับเคลื่อนเรื่องนี้อย่างจริงจัง โดยมอบหมายให้สำนักพัฒนานวัตกรรมการจัดการศึกษาไปประสานงานกับกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) เพื่อหาวิธีการปลูกฝังให้นักเรียนรักษ์โลกมากขึ้น เพราะโรงเรียนถือเป็นหน่วยงานต้นทางที่สามารถปลูกฝังเรื่องเหล่านี้ให้นักเรียนได้

นายอำนาจกล่าวต่อว่า ส่วนเรื่องของบิ๊กดาต้า รัฐมนตรีว่าการ ศธ.ได้ให้ความสำคัญเช่นกัน โดย สพฐ.ได้ดำเนินการเก็บข้อมูลของครูและบุคลากรที่เป็นลูกจ้างของ สพฐ.ทั้งหมดที่มีกว่า 5 แสนคน แต่กลับได้ข้อมูลมาเพียง 2 แสนกว่าคนเท่านั้น ซึ่งรัฐมนตรีว่าการ ศธ.ให้เวลา 1 เดือน ให้ สพฐ.รวบรวมข้อมูล ให้ครูกรอกข้อมูลให้เสร็จ จากเดิมต้องกรอกให้เสร็จระหว่างวันที่ 15 ตุลาคม – 9 พฤศจิกายน แต่เนื่องจากประสบปัญหาเซิร์ฟเวอร์ไม่ดีพอ ผู้กรอกข้อมูลไม่มีความเข้าใจ และครูเมื่อเริ่มสอนหนังสือแล้วไม่ค่อยมีเวลาเข้าไปกรอกข้อมูล จึงยังไม่ได้ข้อมูลครบทั้งหมด

“สพฐ.จะต้องเก็บข้อมูลครูให้ได้ทั้งหมดว่าครูสอนที่โรงเรียนใด สอนวิชาเอกอะไร เพื่อวิเคราะห์ร่วมกับข้อมูลผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน หรือโอเน็ต ว่าแต่ละโรงเรียนมีครูสอนตามวิชาเอกหรือไม่ และจะพัฒนาคุณภาพครูให้ตรงกับสิ่งที่ขาดได้อย่างไรบ้าง ทั้งนี้ สพฐ.จะพัฒนาการเก็บข้อมูลต่อไปเพื่อให้ได้ข้อมูลอย่างรวดเร็ว ตามที่รัฐมนตรีว่าการ ศธ.ต้องการ เช่น จะทราบจำนวนโรงเรียน จำนวนนักเรียน และครูทั่วประเทศมีจำนวนเท่าใด แบบเรียลไทม์ โดย สพฐ.ต้องพัฒนาการเก็บข้อมูลจำนวนโรงเรียน นักเรียน ครูและบุคลากรทางการศึกษาให้ชัดเจนก่อน ถึงจะเดินหน้าไปถึงจุดนั้นได้ โดยจะต้องพัฒนาระบบอินเตอร์เน็ตให้โรงเรียนที่เป็นต้นทางในการส่งข้อมูล ให้ส่งข้อมูลอย่างรวดเร็ว เมื่อต้นทางมีความสมบูรณ์ด้านข้อมูลและระบบอินเตอร์เน็ตแล้ว ปลายทางจะประเมินผลข้อมูลทั้งหมดได้ทันที” นายอำนาจกล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image