เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม นายเอกชัย กี่สุขพันธ์ ประธานคณะกรรมการมาตรฐานวิชาชีพ (กมว.) สำนักงานเลขาธิการคุรุสภา เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆ นี้ นายอรรถพล ตรึกตรอง เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (กช.) ได้หารือกรณีที่ครูโรงเรียนเอกชนกว่า 20,000 คน ไม่มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู แต่มีใบอนุญาตปฏิบัติการสอน ซึ่งจะต่ออายุครั้งละ 2 ปี เมื่อครบ 3 ครั้ง หากยังไม่ได้ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู ก็จะสอนต่อไม่ได้ ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) จัดทำเรื่องเสนอขอผ่อนผันมาที่ กมว.เพื่อพิจารณา โดยในการประชุม กมว.วันที่ 20 ธันวาคมนี้ จะหารือในเรื่องดังกล่าว และคิดว่าไม่มีปัญหา เพราะจะอนุโลมให้อีก 2 ปี ขณะเดียวกันจะหาแนวทางพัฒนาครูเอกชนกลุ่มนี้ เพื่อให้ได้รับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครูอย่างถูกต้องตามกฎหมายด้วย
ด้านนายอรรถพล กล่าวว่า ขณะนี้มีครูโรงเรียนเอกชนทั่วประเทศกว่า 20,000 คน ที่ใบอนุญาตปฏิบัติการสอนจะหมดอายุในเดือนธันวาคมนี้ ในจำนวนนี้กว่า 500 คน ต่ออายุครบ 3 ครั้งแล้ว ซึ่ง สช.จะขออนุโลมให้ครูทั้งหมดต่อใบอนุญาตปฏิบัติการสอนได้ และต้องเร่งต่อใบอนุญาตปฏิบัติการสอนให้แล้วเสร็จ เพราะถ้าครูไม่มีใบอนุญาตปฏิบัติการสอน ทางโรงเรียนเอกชนจะไม่สามารถทำเรื่องเบิกเงินอุดหนุนรายหัวได้ เนื่องจากฐานข้อมูลของครูโรงเรียนเอกชนกับข้อมูลครูของคุรุสภา ในส่วนของครูที่ได้รับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู และครูที่ได้รับใบอนุญาตปฏิบัติการสอน จะยึดโยงกัน และเพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ที่ไม่มีใบอนุญาตฯ เข้ามาทำหน้าที่สอนได้ ซึ่งหากเบิกเงินอุดหนุนไม่ได้ จะต้องวุ่นวายแน่
“ปัญหาที่เกิดขึ้นในการพัฒนาครูโรงเรียนเอกชนในขณะนี้ คือผู้ที่ไม่ได้จบวุฒิครู ต้องไปเรียนประกาศนียบัตรวิชาชีพครู หรือ ป.บัณฑิต แต่ ป.บัณฑิตไม่ได้เปิดสอนในสถาบันทั่วไป จะเปิดสอนได้ในสถาบันที่คุรุสภาอนุญาต พร้อมกำหนดจำนวนรับ ซึ่งปัจจุบันจะเห็นว่ามีผู้ที่อยากเรียน ป.บัณฑิต มากกว่าจำนวนที่คุรุสภาให้การอนุมัติ อย่างไรก็ตาม ผมได้เสนอ กมว.ไปว่าควรหาทางออกในเรื่องนี้ให้มีประสิทธิภาพ ให้ทุกคนสามารถเข้าถึงได้” นายอรรถพล กล่าว
