เมื่อวันที่ 21 มิถุนายน พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยว่า ได้หารือร่วมกับมูลนิธิพระบรมราชานุสรณ์ พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ในพระบรมราชูปถัมภ์ เพื่อบูรณะ และปรับปรุงอาคารราชวัลลภ (วังจันทรเกษม) เป็นที่ทำการของ ศธ.ซึ่ง “อาคารราชวัลลภ” มีความหมายว่า ผู้ที่ทรงไว้วางพระราชหฤทัยสนิทของพระราชา มีประวัติศาสตร์ยาวนาน เป็นพระตำหนักที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่ รัชกาลที่ 5 ทรงโปรดเกล้าฯ ให้สร้างเป็นที่ประทับของสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราวุธ สยามมกุฎราชกุมาร เมื่อ พ.ศ.2453 แล้วเสร็จสมบูรณ์ พ.ศ.2454 เมื่อเสด็จขึ้นครองราชย์เป็นพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 แล้ว ได้ทรงโปรดเกล้าฯ ให้สร้างตึกแถว และอาคารด้านเหนือ และด้านตะวันตกตลอดแนวกำแพงวังเพิ่มเติม และพระราชทานพระตำหนักให้เป็นที่ตั้งสถานพยาบาล สำหรับข้าราชการ บริพาร และเป็นที่ทำการของกรมมหรสพ กรมปี่พาทย์หลวง พร้อมทั้งโรงเรียนพรานหลวง ซึ่งเป็นหน่วยงานสำคัญในรัชกาลที่ 6 ตามพระบรมราโชบายสร้างชาติด้วยศิลปวัฒนธรรม ต่อมา พ.ศ.2480 พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล พระอัฐมรามาธิบดินทร ได้พระราชทานวังจันทรเกษมแก่กระทรวงธรรมการ เพื่อใช้เป็นที่ตั้งโรงเรียนมัธยมวิสามัญการเรือน และใช้เป็นที่ทำการของกระทรวง ซึ่งเปลี่ยนชื่อเป็น ศธ.ใน พ.ศ.2484
“ปัจจุบันอาคารราชวัลลภมีสภาพทรุดโทรมลงตามกาลเวลา ทั้งโครงสร้างหลังคา วัสดุมุงหลังคา บานประตูหน้า หน้าต่าง วัสดุปูพื้น ผนัง และสีอาคารทั้งภายใน และภายนอก ลวดลายประดับตกแต่งอาคาร ระบบระบายน้ำ และภูมิทัศน์โดยรอบชำรุด เสื่อมสภาพ และไม่เคยบูรณะครั้งใหญ่เลยนับตั้งแต่ก่อสร้างขึ้นเป็นเวลานานกว่า 106 ปี ที่ผ่านมามีปรับปรุงบ้าง แต่เป็นการปรับปรุงทีละส่วนเฉพาะที่ชำรุด เนื่องจากงบประมาณจำกัด แต่สภาพโดยรวมของอาคารทั้งหมด ถือว่ามีความศักดิ์สิทธิ์ ไม่เคยปรับปรุงเลย ทั้งนี้ ทางสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ยินดีสนับสนุนงบฯ บูรณะ 170 ล้านบาท ผ่านมูลนิธิพระบรมราชานุสรณ์ฯ เพื่อถวายเป็นพระราชสักการะแด่สมเด็จพระบูรพมหากษัตริยาธิราชในพระบรมราชจักรีวงศ์ผู้ทรงเป็น “พระรามาธิบดี” ตามพระบรมราชโองการของรัชกาลที่ 6 บรรจบครบ 100 ปี และเฉลิมพระเกียรติรัชกาลที่ 6 เนื่องในมงคลวาระ 100 ปี แห่งการพระราชสงครามทวีปยุโรป ซึ่งประเทศไทยได้ชัยชนะ พร้อมทั้งเฉลิมฉลอง 106 ปี แห่งการสถาปนาวังจันทรเกษม” พล.อ.ดาว์พงษ์กล่าว
พล.อ.ดาว์พงษ์กล่าวต่อว่า สำหรับการบูรณะนั้น กรมศิลปากร กระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) จะเป็นผู้ดำเนินการ ขณะนี้ได้สำรวจ และวางแผนบูรณะในเบื้องต้นไปแล้ว โดยตั้งเป้าบูรณะให้แล้วเสร็จภายในเดือนกันยายน 2560 ทั้งนี้ จากการสำรวจบริเวณหน้ามุขชั้น 2 ภายในอาคารราชวัลลภ ได้พบตรา “ราชวัลลภ” ซึ่งเป็นปูนปั้นขนาดใหญ่ ติดอยู่ด้านในของหน้าบรรณ ซึ่งภายหลังจากต่อเติมอาคารโดยสร้างมุขยื่นออกมา ใช้ฝ้าเพดานปิดทับ และสร้างตราเสมาธรรมจักรซึ่งอยู่ด้านหน้าอาคารราชวัลลภในปัจจุบันกั้นไว้อีกชั้นหนึ่ง จึงไม่เคยมีใครเห็นตราราชวัลลภที่มีความสวยงาม และสภาพสมบูรณ์ ดังนั้น การบูรณะครั้งนี้จะรื้อฝ้าเพดานออก เพื่อให้เห็นตรา “ราชวัลลภ” ที่อยู่ด้านในได้อย่างชัดเจน