‘ดาว์พงษ์’ยาหอมบิ๊กศธ.ไม่เสียสิทธิ ถ้าลดสถานะ’องค์กรหลัก’เหลือ’กรม’

เมื่อวันที่ 21 มิถุนายน พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยว่า ตามที่มีการเผยแพร่ร่างโครงสร้าง ศธ.ใหม่ ผ่านสื่อสังคมออนไลน์ โดยมีการปรับโครงสร้างปัจจุบันที่มี 5 องค์กรหลักขึ้นตรงกับรัฐมนตรีว่าการ ศธ.มาเป็นมีสำนักงานรัฐมนตรีเป็นองค์การมหาชน ปลัด ศธ. ทำหน้าที่เป็นซีอีโอ หรือผู้บริหารสูงสุดในระดับข้าราชการประจำนั้น ร่างโครงสร้างดังกล่าว เป็นของเก่าและยืนยันว่า ตนไม่ได้ปล่อยออกมาเพื่อโยนหินถามทาง หากจะปรับโครงสร้างจริง จะไม่ทำลับๆ จะถามผู้เกี่ยวข้องเพื่อสอบถามความเห็น และปิดช่องว่างที่อาจเกิดขึ้น จากการเข้ามาบริหารงาน ศธ.ได้ 10 เดือน พอมองเห็นแล้วว่ามีปัญหาอะไรบ้าง และที่ผ่านมาทั้งสภาขับเคลื่อนปฏิรูปประเทศ (สปท.) และสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) มีข้อเสนอเรื่องการปรับโครงสร้าง ศธ. เพียงแต่รูปแบบโครงสร้างอาจแตกต่างกันบ้าง ซึ่งต้องมาดูและเขย่าโครงสร้างใหม่แน่นอน และตนก็ไม่ปฏิเสธการมีกรมวิชาการ ที่ขณะนี้มีเสนอมา 2 รูปแบบ คือ 1.ยุบสำนักวิชาการของแต่ละองค์กร มารวมกันเป็นกรมวิชาการ และ 2.ตั้งเป็นองค์กรอิสระ มีการบริหารงานในรูปแบบคณะกรรมการวิชาการแห่งชาติ ตามข้อเสนอของ สนช. ซึ่งขณะนี้ยังไม่ได้ตัดสินใจ

“ส่วนตัวเห็นว่าโครงสร้างใหม่ควรมีการบริหารแบบซิงเกิลคอมมานด์ (Single Command) หรือ การบริหารงานแบบเบ็ดเสร็จ แต่ต้องมีระบบการคานอำนาจ เพราะอดีตที่ผ่านมา มีการกระจายอำนาจแล้วพบว่าการบริหารงานไม่เชื่อมต่อ ผมตั้งใจจะผลักดันเรื่องนี้ให้แล้วเสร็จก่อนเดือนกันยายน 2560 และออกมาเป็นกฎหมาย หรืออยู่ใน พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ ภายในรัฐบาลชุดนี้ หากจะปรับองค์กรหลัก เป็นกรมจริง ในกฎหมายก็จะมีบทเฉพาะกาล ซึ่งผู้ปฏิบัติงานเดิมไม่เสียสิทธิเดิมที่เคยได้รับ” พล.อ.ดาว์พงษ์กล่าว และว่า สำหรับการทำงานของคณะกรรมการศึกษาธิการจังหวัด (กศจ.) ซึ่งยังมีปัญหาติดขัดในการโยกย้ายครูและผู้บริหารเนื่องจากติดขัดข้อกฎหมายนั้น เร็วๆ นี้ จะเสนอหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ใช้อำนาจตามมาตรา 44 ในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2557 (ฉบับชั่วคราว) เพื่อออกคำสั่งแก้ไขข้อกฎหมายที่ยังติดขัดอยู่

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image