‘บอร์ด PISA’ ตั้งเป้าปี 2024 น.ร.ต้องได้คะแนนเฉลี่ย 470
เมื่อวันที่ 7 มกราคม นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ ประธานคณะกรรมการ PISA แห่งชาติ เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะคณะกรรมการ PISA แห่งชาติ ครั้งที่ 1/2563 ที่มีคุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เป็นประธานเมื่อเร็วๆนี้ ที่ประชุมหารือถึงแนวทางการพัฒนาเพื่อเพิ่มผลการประเมินโปรแกรมประเมินสมรรถนะนักเรียนมาตรฐานสากล (Programme for International Student Assessment หรือ PISA) พร้อมกับหารือถึงวิธีการจัดการศึกษา ควรจะทำอย่างไรเพื่อจะได้ผลสัมฤทธิ์ที่ดีขึ้น สำหรับผลกระประเมิน PISA ปี 2018 ที่ผ่านมา พบว่านักเรียนไทย มีคะแนนเฉลี่ยด้านการอ่าน 393 คะแนน (ขณะที่ค่าเฉลี่ย OECD อยู่ที่ 487 คะแนน) วิชาคณิตศาสตร์ได้ 419 คะแนน (ขณะที่ค่าเฉลี่ย OECD อยู่ที่ 489 คะแนน) และวิชาวิทยาศาสตร์ได้ 426 คะแนน (ขณะที่ค่าเฉลี่ย OECD อยู่ที่ 489 คะแนน) เมื่อรวมค่าเฉลี่ยทั้ง 3 การทดสอบ จะอยู่ที่ 420 คะแนน ที่ประชุมจึงตั้งเป้าหมายว่าภายในปี 2024 ผลการประเมิน PISA ของนักเรียนไทยจะเฉลี่ยอยู่ที่ 470 คะแนน
นพ.ธีระเกียรติ กล่าวต่อว่า ส่วนการทดสอบด้านการอ่านที่พบว่ามีค่าเฉลี่ยลดลง เมื่อเปรียบเทียบกับผลการประเมิน PISA 2015 พบว่า ด้านการอ่านมีคะแนนลดลง 16 คะแนนนั้น ได้มีการวิเคราะห์ถึงสาเหตุ และหาแนวทางพัฒนาต่อไป โดยมีสถาบันภาษาไทยสิรินธร จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยเข้ามาช่วยเหลืออีกทางหนึ่ง นอกจากนี้จะมี ศูนย์ PISA ในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ที่ตั้งในสมัยที่ตนดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการ ศธ. ก็มีความก้าวหน้าอย่างมาก ขณะนี้มีฐานข้อมูล ข้อสอบ การฝึกหัด อบรมครู เดินหน้าไปด้วยดีและเปิดให้กับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาอบรมพัฒนาด้วย
“ในที่ประชุมได้เน้นเรื่องการเรียนการสอน การอบรมครู การประเมินผม ซึ่งทั้งหมดนี้ต้องสอดคล้องกับการเปลี่ยนหลักสูตรใหม่ที่จะเน้นสมรรถนะผู้เรียนมากขึ้น ซึ่งจะต้องไปทางเดียวกันหมด พร้อมกับเน้นการทำงานร่วมกันของทุกภาคส่วนเพื่อพัฒนานักเรียน เพราะการทดสอบ PISA ไม่ใช่เรื่องของคนใดคนหนึ่ง เป็นเรื่องของทั้งประเทศ ว่าประเทศเราจัดการเรียนการสอนอย่างไร ความจริงเราจัดการเรียนการสอนได้ดี มีส่วนโรงเรียนและนักเรียนที่มีความสามารถ แต่โรงเรียนในประเทศยังมีปัญหาเรื่องความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาอยู่ ต้องเน้นการกระจายตัวของโครงการต่าง การพัฒนาอบรมครูต้องกระจายไปเพื่อให้การเรียนการสอนมีความเทาเทียมกัน”นพ.ธีระเกียรติกล่าว
