เรียนไทยได้จีน : นิทานสุภาษิตจีน (173) 成语故事 (一七三)

(ที่มาภาพ : HYPERLINK “https://image.baidu.com/search”)

นิทานสุภาษิตจีนที่ “เรียนไทยได้จีน” จะนำเสนอในฉบับนี้คือ 安如泰山ān rú tài shān (อัน หรู ไท่ ซาน) โดย คำว่า 安ān (อัน) แปลว่า ตั้งมั่น มั่นคง หนักแน่น 如rú (หรู) แปลว่า เหมือนกับ เสมือนดั่ง 泰山Tài shān (ไท่ซาน) แปลว่าขุนเขาไท่ซาน เป็นหนึ่งในห้าขุนเขาที่มีชื่อเสียงของประเทศจีน ตั้งอยู่ในมณฑลซานตง เมื่อรวมกันแล้วจะแปลว่า มีความมั่นคงดังขุนเขาไท่ซาน ซึ่งความมั่นคงนี้ใช้กับอารมณ์ความรู้สึก หรือสิ่งของ เช่น ตึก ฐาน กองทัพ เศรษฐกิจ ประเทศชาติ ฯลฯ ได้ มาดูนิทานเรื่องนี้กัน

อำนาจเป็นสิ่งที่หอมหวนเย้าใจผู้คน เป็นเหตุให้มนุษย์เราเข่นฆ่ากันเองเพื่ออำนาจ ซึ่งมันมีมาตั้งแต่โบราณกาล ตราบจนทุกวันนี้ก็มิได้เสื่อมคลาย จีนราชวงศ์ฮั่น 汉朝/漢朝 Hàncháo ฮั่นเฉา ช่วงต้นของราชวงศ์ เนื่องจากเป็นช่วงที่การปกครองยังไม่ตกผลึก ยังไม่รู้ว่าจะใช้ระบบการปกครองแบบไหนดี ที่จะทำให้ราชวงศ์ธำรงอยู่ได้ยาวนานที่สุด ดังนั้นในช่วงต้นของราชวงศ์ จักรพรรดิ์ฮั่นเกาจู่หลิวปัง 汉高祖刘邦/漢高祖劉邦 Hàn Gāozǔ Liú Bānɡ หรือจักรพรรดิผู้ก่อตั้งราชวงศ์ฮั่นนั่นเอง ได้เลือกการบริหารประเทศแบบแต่งตั้งวงศาคณาญาติไปปกครองเมืองต่างๆ ทำให้ตระกูลหลิวในยุคนั้นยิ่งใหญ่มาก เพราะหลิวปังคิดว่าการใช้ญาติพี่น้องปกครองเมืองต่างๆ จะทำให้ตระกูลหลิวสามารถปกครองจีนได้อย่างยาวนาน บรรดาหัวเมือง นครรัฐต่างๆ จะจงรักภักดีต่อศูนย์กลางอำนาจชั่วนิจนิรันดร์ แต่เมื่อสิ้นหลิวปังแล้ว บรรดาเชื้อพระวงศ์ทั้งหลายที่ปกครองหัวเมืองต่างๆ ก็ล้วนอ้างสิทธิที่จะได้ขึ้นเป็นจักรพรรดิที่ศูนย์กลางด้วยเช่นกัน จึงทำให้เกิดการแก่งแย่งตำแหน่งกันให้วุ่นวาย โดยมีครั้งหนึ่ง ที่รัฐอู๋ 吴国/吴國 Wúɡuó อู๋กั๋ว เจ้าผู้ครองนครรัฐนามว่าหลิวปี้ 刘濞/劉濞Liú Bì ซึ่งมีศักดิ์เป็นถึงพระราชนัดดาของจักรพรรดิหลิวปัง หลิวปี้ปกครองรัฐอู๋อันไกลจากศูนย์กลางอำนาจ แต่ใจเขากลับคิดการใหญ่อยู่เสมอๆ เมื่อสิ้นหลิวปังแล้ว เขาก็คิดอยากเป็นใหญ่แทน แต่หาโอกาสไม่ได้ จนมาครั้งหนึ่ง ราชสำนักมีนโยบายจะยกเลิกระบบการปกครองโดยวงศาคณาญาติ เหล่าเจ้าผู้ครองนครรัฐต่างๆ เกิดความไม่พอใจยิ่ง ถึงตอนนี้ก็ถึงเวลาอันเหมาะสมแล้ว หลิวปี้จึงติดต่อกับเหล่าเจ้าผู้ครองนครรัฐทางใต้ทั้งหลายให้ร่วมมือยกกำลังขึ้นเหนือเพื่อปราบปรามจักรพรรดิองค์ใหม่ผู้ทรยศ ในช่วงนี้ ก็มีขุนนางผู้ใกล้ชิดของหลิวปี้เขียนฎีกาเตือนหลิวปี้ด้วยความเป็นห่วงว่า หลิวปี้กำลังทำสิ่งที่ผิดพลาดอย่างมหันต์ หากว่าตอนนี้กลับตัวเสีย ก็ยังไม่สาย เขาพร้อมจะช่วยให้ตำแหน่งหน้าที่ของหลิวปี้ยังคงมั่นคงดุจขุนเขาไท่ซานต่อไป แต่หากทำการต่อต้านแล้ว เห็นทีไม่เพียงแต่จะไม่มีวันสำเร็จแล้ว ชีวิตของตัวเองก็ยากจะรักษาไว้ได้ คำเตือนดังกล่าวไม่อาจหยุดยั้งหลิวปี้ได้ ขุนนางคนนั้นเมื่อเห็นว่าเจ้านายของตนไม่ฟังคำเตือน เขาจึงลาออกจากตำแหน่ง และในช่วงนั้นก็พยายามเขียนฎีกาถึงหัวเมืองต่างๆ ที่คิดจะร่วมมือกับหลิวปี้ให้วางมือเสีย แต่คำเตือนที่หวังดีของเขาล้วนถูกละเลยเสีย หลิวปี้ก็ยังคงนำบรรดาเจ้าผู้ครองนครรัฐทางใต้จำนวนเจ็ดนครรัฐยกพลขึ้นเหนือ เพราะคิดว่าอย่างไรเสียตัวเองก็ต้องชนะ แต่ไหนเลยจะรู้ว่า ราชสำนักได้เตรียมการต้อนรับไว้อย่างดี ดังนั้นกองทัพแห่งเจ็ดรัฐทางใต้จึงถูกปราบลงอย่างรวดเร็ว ด้วยเวลาเพียงสามเดือนกว่าๆ บรรดาผู้นำก่อการทั้งเจ็ด ไม่ถูกจับมาสำเร็จโทษ ก็ฆ่าตัวตายสิ้น เหตุการณ์กบฏนี้เรียกว่าชีกั๋วจือล่วน
七国之乱/七國之亂 Qī ɡuó zhī luàn กบฏเจ็ดเมือง ส่วนคำเตือนด้วยความหวังดีของขุนนาง ต่อมาก็ถูกนำมาใช้อย่างกว้างขวางในเชิงว่า มั่นคงดั่งขุนเขา

ข้อคิดจากประโยคสุภาษิตนี้

成语比喻:像泰山一样稳固,不可动摇。

Advertisement

成語比喻:像泰山壹樣穩固,不可動搖。

Chénɡyǔ bǐyù: Xiànɡ Tàishān yī yànɡ wěnɡù, bùkě dònɡyáo.

เฉิงยหวี่ ปี่ยวี่: เซี่ยง ไท่ซาน อี๋ ย่าง เหวิ่นกู้, ปู้เข่อ โต้งเหยา

Advertisement

สุภาษิตเปรียบว่า มั่นคงดั่งขุนเขาไท่ซาน ที่ไม่อาจสะเทือนได้

ประโยคตัวอย่างที่ใช้สำนวนสุภาษิตนี้ เช่น

这位政治家,虽然对方在会议上三番五次轮攻他,但他却安如泰山没有一点生气的姿态。

這位政治家,雖然對方在會議上三番五次輪攻他,但他卻安如泰山沒有壹點生氣的姿態。

Zhè wèi zhènɡzhì jiā, suīrán duìfānɡ zài huìyì shànɡ sānfānwǔcì lún ɡōnɡ tā, dàn tā què ān rú tàishān méiyǒu yīdiǎn shēnɡqì de zītài.

เจ้อ เว่ย์ เจิ้งจื้อ เจีย, ซุยหราน ตุ้ยฟาง ไจ้ หุ้ยอี้ ฉ้าง ซานฟานอู๋ชื่อ หลุน กง ทา, ตั้น ทา เชว่ อัน หรู ไท่ซาน เหมย์โหย่ว อี้เตี่ยน เฌิงชี่ เตอะ จือไท่

นักการเมืองท่านนี้ ถึงแม้อีกฝ่ายจะโจมตีเขาซ้ำแล้วซ้ำอีกในการประชุม แต่เขาก็มั่นคงดุจขุนเขา ไม่ได้แสดงอารมณ์โกรธออกมาเลยสักนิด

ศูนย์ภาษาและวัฒนธรรมจีนสิรินธร
มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image