ศธ. จัดงานวันครูยิ่งใหญ่ ใต้แนวคิด ‘โลกก้าวไกล ครูไทยก้าวทัน สร้างสรรค์คุณภาพเด็กไทย’

ศธ. จัดงานวันครูยิ่งใหญ่ ใต้แนวคิด ‘โลกก้าวไกล ครูไทยก้าวทัน สร้างสรรค์คุณภาพเด็กไทย’

เมื่อวันที่ 13 มกราคม ที่ห้องประชุมไทยาจารย์ สำนักงานเลขาธิการคุรุสภา คุณกัลยา โสภณพนิช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เป็นประธานการแถลงข่าวจัดงานวันครู ครั้งที่ 64 พ.ศ.2563 “โลกก้าวไกล ครูไทยก้าวทัน สร้างสรรค์คุณภาพเด็กไทย” วันที่ 16-17 มกราคมนี้ โดยมีนางรักขณา ตัณฑสุฑโต รองปลัด ศธ. ในฐานะประธานอนุกรรมการจัดงานวันครู พ.ศ.2563 และนางวัฒนาพร ระงับทุกข์ เลขาธิการคุรุสภา ร่วมแถลงข่างด้วย โดยคุณหญิงกัลยา กล่าวว่า รัฐบาลโดยพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เน้นย้ำและให้ความสำคัญกับการศึกษา และให้ความสำคัญกับครู ที่เป็นบุคลากรที่ทรงคุณค่าของชาติ ให้สร้างและผลิตพัฒนาเด็กและเยาวชนให้เป็นคนเก่ง คนดี และมีคุณภาพ ให้เติบโตเป็นพลเมืองที่ดี และมีศักยภาพเหมาะสมกับการดำเนินชีวิตในศตวรรษที่ 21

คุณหญิงกัลยา กล่าวต่อว่า จากแผนการปฏิรูปประเทศด้านการศึกษา และนโยบายของรัฐบาล โดยเฉพาะนโยบายเร่งด่วน เรื่องการเตรียมคนสู่ศตวรรษที่ 21 นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการศธ. ได้ประกาศนโยบายและจุดเน้นของศธ. ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 ที่ให้ความสำคัญกับคุณภาพและประสิทธิภาพในทุกมิติทั้งผู้เรียน ครู และบุคลากรทางการศึกษา ตลอดจนสถานศึกษาทุกระดับ ทุกประเภท โดยเน้นการบูรณาการการทำงานร่วมกันระหว่างกัน ให้ปฏิบัติงานร่วมกันได้อย่างมีความคล่องตัว เพื่อดำเนินการปฏิรูปการศึกษาร่วมกันกับภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน ตามนโยบายประชารัฐต่อไป

คุณหญิงกัลยา กล่าวว่า “ครู” คือ กลไกสำคัญที่จะช่วยกันยกระดับการศึกษาไทย ฉะนั้น สิ่งสำคัญอันดับแรก คือ การพัฒนาครูให้มีคุณภาพ ก็จะส่งผลต่อเงินเดือนของครูที่สูงขึ้น ซึ่งจะเป็นอีกหนึ่งแรงจูงใจให้คนเก่งเลือกเรียนครูมากขึ้น ศธ.ได้ดำเนินโครงการที่สำคัญในหลายเรื่องการปฏิรูปการศึกษาไทย เช่น การบูรณาการงบประมาณของ ศธ. ทั้งระบบ โดยเชื่อมโยงกับฐานข้อมูลของทุกหน่วยงานในกระทรวง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อลดความซ้ำซ้อนและเกิดความคุ้มค่าในการจัดสรรงบประมาณมากที่สุด การปรับตัวเข้าไปสู่โลกในศตวรรษที่ 21 ของผู้บริหารและครูทุกคน ต้องปรับตัวให้มีทักษะด้านดิจิทัล มีความรู้ด้านภาษาอังกฤษ โดยตั้งเป้าว่าภายใน 3 ปี ครูทุกคนจะต้องพูดและสื่อสารภาษาอังกฤษให้ได้ รวมถึงจะมีการปรับเรื่องตัวชี้วัดของผู้บริหารสถานศึกษา รวมทั้งการจัดการปัญหาครูที่มีอยู่ เช่น เรื่องหนี้สิน วิทยฐานะ การใช้เวลาในห้องเรียนให้มากขึ้น เป็นต้น

“ส่วนเรื่องการแก้ไขปัญหาโรงเรียนขนาดเล็ก ศธ.ให้ความสำคัญเช่นกัน โดยจะต้องพัฒนาโรงเรียนขนาดเล็กที่มีอยู่ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ศธ.ต้องการพัฒนาต่อมาคือ อาชีวศึกษา ที่ต้องการเพิ่มผู้เรียนทั้งสายอาชีพ โดยสัดส่วนผู้เรียนสายอาชีพจะต้องอยู่ที่ 60 ขึ้นไป และสายสามัญ 40 และมุ่งเน้นให้พัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษาให้มีประสิทธิภาพ เพื่อให้อาชีวะสามารถขับเคลื่อนไปในระดับนานาชาติได้อย่างมั่นคง ยืนยันว่า ศธ.ให้ความสำคัญกับครูเป็นอันดับหนึ่ง ที่จะผลิตและพัฒนาทรัพยากรของประเทศสู่ศตวรรษที่ 21 หรือยุคดิจิทัล ดังนั้นครูจึงมีความสำคัญมากขึ้น เพราะเป็นบุคคลาที่จะพัฒนาเด็กไปตลอดชีวิตของตนเอง” คุณหญิงกัลยากล่าว

Advertisement

สำหรับการจัดวันครู ครั้งที่ 64 กำหนดหัวข้อแก่นสาระว่า “โลกก้าวไกล ครูไทยก้าวทัน สร้างสรรค์คุณภาพเด็กไทย” โดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานงานวันครู และคารวะครูของท่านสมัยเรียนโรงเรียนวัดนวลนรดิศ ได้แก่ นายวีระ เดชพันธ์ นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีได้มอบคำขวัญวันครู ครั้งที่ 64 พ.ศ. 2563 ว่า “ครูไทย รักศิษย์ คิดพัฒนา” และมอบสารวันครู เพื่อส่งความระลึกถึงและความปรารถนาดีไปยังครูและผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษาทั่วประเทศที่เป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาการศึกษาของชาติเสมอมา นอกจากนี้มีการปาฐกถา และการเสวนาทางวิชาการที่น่าสนใจ โดยในช่วงบ่ายของวันที่ 16 มกราคม มีการปาฐกถาหม่อมหล่วงปิ่น มาลากุล ครั้งที่ 3 เรื่อง “ความฉลาดรู้ และจิตวิญญาณความเป็นครู” โดย ศ.กิตติคุณสุมน อมรวิวัฒน์ และการเสวนา เรื่อง “โลกก้าวไกล ครูไทยก้าวทัน สร้างสรรค์คุณภาพเด็กไทย” พิธีคารวะครูอาวุโสของ รัฐมนตรีว่าการศธ. ที่จะคารวะครูสมัยเรียนโรงเรียนสาธิต มศว.ปทุมวัน ได้แก่ น.ส.ชมภร กมลสุทธิ และวันที่ 17 มกราคม มีการบรรยายพิเศษ เรื่อง “โลกก้าวไกล ครูไทยก้าวทัน สร้างสรรค์คุณภาพเด็กไทย” โดย รัฐมนตรีว่าการศธ. ในช่วงบ่ายจะมีพิธีมอบเครื่องหมายเชิดชูเกียรติ “คุรุสดุดี” ประจำปี 2562 โดย รัฐมนตรีว่าการ ศธ.เป็นผู้มอบ

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image