เมื่อวันที่ 22 มกราคม นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 ที่เกิดขึ้นในขณะนี้ ศธ. มีการเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่อง ส่วนการสั่งปิดโรงเรียนนั้น เป็นอำนาจของผู้บริหารในการสั่งปิดสถานศึกษา ซึ่งทางศธ. เองไม่อยากออกมาตรการเป็นภาพรวมแล้วทำให้เด็กเสียเวลาเรียน แม้จะมีการเรียนเพิ่มเติมในภาพหลัง แต่ก็จะทำให้การจัดตารางเรียนต่าง ๆ มีความคลาดเคลื่อน ไม่สะดวก ตนมั่นใจว่า ผู้อำนวยการโรงเรียนทราบบริบทของพื้นที่ ศธ. ให้ความมั่นใจต่อการตัดสินใจของผู้บริหารและบุคลากรของโรงเรียน ยืนยันว่า ตนคำนึงถึงความปลอดภัยของเด็กเป็นที่ตั้ง แต่ปัญหาของแต่ละพื้นที่ไม่เหมือนกัน
นายอำนาจ วิชยานุวัติ เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่มีรายงานโรงเรียนสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน( สพฐ.) โดยสพฐ.ได้จัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการเฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์ฝุ่นละออง PM 2.5 ในส่วนของสำนักอำนวยการ ดำเนินการ จัดตั้งศูนย์ และเตรียมการดังนี้ 1.จัดระบบข้อมูล 3 ส่วนประกอบด้วย ข้อมูลทางวิชาการ ข้อมูลทางด้านอุตุนิยมวิทยา หรือสถานการณ์ฝุ่น ในแต่ละพื้นที่ และข้อมูล รายงานผลกระทบ โดยเฉพาะการปิดโรงเรียน ซึ่งรับจากศูนย์เฉพาะกิจคุ้มครองและช่วยเหลือนักเรียน 2.จัดระบบการสื่อสาร(วิทยุ) เฝ้าระวัง และการแจ้งเตือน ร่วมกันกับ ศูนย์เฉพาะกิจคุ้มครองและช่วยเหลือเด็กนักเรียน (ฉก.ชน.) และ3.ร่วมกับสำนักเทคโนโลยีเพื่อการเรียนการสอน ในการจัด ข้อมูล สารสนเทศนำเสนอ ให้เป็นปัจจุบัน โดยนำเสนอในรูปแบบที่เป็นข้อมูลเชิงสารสนเทศ ขึ้นจอ ทีวี และติดตั้ง ที่ฝาผนัง ในศูนย์ปฏิบัติการ ทั้งนี้สพฐ.ไม่ได้นิ่งนอนใจ โดยหากผู้อำนวยการโรงเรียน เห็นว่า สถานการณ์อยู่ในภาวะวิกฤตกระทบต่อสุขภาพเด็ก สามารถสั่งปิดโรงเรียนได้ทันที