ครูเฮ! ‘ณัฏฐพล’ เล็งประกาศลดดอกเบี้ยแก้หนี้ครูก.พ.นี้

เมื่อวันที่ 27 มกราคม นายณัฏฐพล  ทีปสุวรรณ  รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยความคืบหน้าการจัดทำแผนแก้ไขปัญหาหนี้สินครู ว่า ขณะอยู่ระหว่างเจรจากับสถาบันการเงินที่เกี่ยวข้องกับการกู้ยืมเงินของครูและบุคลากรทางการศึกษา เพื่อทำให้ภาระหนี้สินลดน้อยลง ทั้งนี้การแก้ปัญหาแบ่งออกเป็นหลายส่วนทั้งหนี้บัตรเครดิต หนี้ที่ผูกพันกับศธ. ผ่านสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.)  หนี้ที่ผูกพันกับสหกรณ์ออมทรัพย์และหนี้นอกระบบ  ซึ่งเมื่อมีแผนการแก้ปัญหาที่ชัดเจนแล้ว จะต้องมีคนที่เข้ามาช่วยวางแผนการบริหารจัดการหนี้ ซึ่งหลังจากที่ทราบแนวทาง จะเริ่มอบรมผู้ที่จะเข้ามาช่วยวางแผนจัดการหนี้ หรือที่เรียกว่า ไฟแนนเชียล แพลนเนอร์  เพื่อมาช่วยดูว่าจะทำให้ภาระต่าง ๆ มีปัญหาน้อยลงได้อย่างไร เมื่อภาระหนี้สินน้อยลงแล้ว ครูก็ต้องมีวินัยทางการเงิน ไม่ใช่นำประโยชน์ที่ได้จากส่วนต่าง ไปสร้างภารหนี้เพิ่ม

นายณัฏฐพล กล่าวต่อว่า ส่วนความคืบหน้าการเจรจากับสถาบันการเงินเพื่อขอลดดอกเบี้ยเงินกู้นั้น เบื้องต้นมีข้อเสนอในการทำให้ดอกเบี้ยลดลงมาแล้ว  เพียงแต่ต้องรอดูความเหมาะสมในเรื่องการทำสัญญา และการเจรจาขั้นต่อไปด้วยว่า จะมีความเห็นว่าอย่างไร คาดว่าภายในเดือนกุมภาพันธ์นี้จะได้ทราบแนวทางในการลดภาระหนี้ครูที่ชัดเจน  แต่คงไม่สามารถทำให้หนี้หายไปทั้งหมดได้

“ผมได้รับข้อมูลมาตลอดว่า ครูมีหนี้สินจำนวนมาก เชื่อว่าหากมีมาตรการออกมาชัดเจนแล้ว จะป้องกันไม่ให้เกิดการกู้ยืมที่เกินตัวซึ่งตามจริงมีระเบียบกำหนดไว้ชัดเจนว่า ห้ามกู้เกิน 5 เท่าของเงินเดือนที่ได้รับ โดยต้องกลับมาดูไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของแต่ละคน ซึ่งตรงนี้เป็นการตรวจสอบข้อมูลของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (สพท.) และผู้อำนวยการโรงเรียน ที่จะเห็นปัญหาได้อย่างแท้จริง ถ้าทุกคนที่เป็นผู้บริหาร ดูแลบุคลากรและมองเห็นความเปลี่ยนแปลงที่ไม่ปกติก็ต้องช่วยแก้ไข ตรงนี้เป็นทักษะทางการบริหารที่ผมพยายามเน้น ไม่ใช่แค่ความสามารถในการบริหารโรงเรียนหรือเขตพื้นที่ฯ เพียงอย่างเดียว แต่ต้องมีทักษะในการบริหารงานบุคคล การบริหารภาวะสังคมต่าง ๆด้วย”นายณัฏฐพลกล่าว

รัฐมนตรีว่าการศธ. กล่าวต่อว่า ส่วนกรณีที่ศาลปกครองกลาง มีคำสั่ง กรณีหักเงินเดือนเงินบำเหน็จบำนาญข้าราชการเพื่อชำระหนี้เงินกู้เกินกว่ากฎหมาย โดยผู้กู้จะต้องมีเงินเหลือจากการหักชำระหนี้ ไม่น้อยกว่าร้อยละ 30 ของอัตราเงินเดือนเงินบำเหน็จบำนาญที่ได้รับ และสั่งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการให้ถูกต้องใน 180 วันนั้น ก็ต้องทำตามคำสั่งศาล แม้จะมีบางกลุ่มขอไม่ให้ปฏิบัติตาม แต่เราจะยกเว้นไม่ได้ เรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญ

Advertisement

 

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image