เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา นายเสถียร วิพรมหา นายกสมาคมนักวิชาการเพื่อพระพุทธศาสนา(สนพ.) เปิดเผยภายหลังยื่นหนังสือเรื่อง การแก้ไขมาตรา 7 แห่งพ.ร.บ.คณะสงฆ์ พ.ศ.2505 ฉบับแก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ.2535 ต่อนายดิสทัต โหตระกิตย์ เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา โดยมีนางกรรณกนก ช่างกลึงเหมาะ ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา เป็นตัวแทนรับหนังสือ ว่า เนื่องจากผู้ตรวจการแผ่นดินได้ส่งคำวินิจฉัย มาตรา 7 แห่งพ.ร.บ.คณะสงฆ์ฯ เกี่ยวกับการสถาปนาสมเด็จพระสังฆราช ให้คณะกรรมการกฤษฎีกาตีความ โดยก่อนหน้านี้ผู้ตรวจการแผ่นดินได้วินิจฉัยแล้วว่าต้นเรื่องการเสนอนามสมเด็จพระสังฆราชต้องมาจากนายกรัฐมนตรี และมีผู้ออกมาให้ข่าวยืนยันว่าคณะกรรมการกฤษฎีกาจะต้องตีความมาตรา 7 เหมือนกับผู้ตรวจการแผ่นดิน ดังนั้น สนพ. และชาวพุทธ เกิดความห่วงใยเรื่องนี้ จึงมายื่นหนังสือขอให้คณะกรรมการกฤษฎีกายืนยันการตีความมาตรา 7 ตามที่มหาเถรสมาคม(มส.)มีมติเสนอสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์(ช่วง วรปุญฺโญ) เจ้าอาวาสวัดปากน้ำ ภาษีเจริญ ขึ้นเป็นสมเด็จพระสังฆราช เนื่องจากเป็นผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช และมีอาวุโสสูงสุดโดยสมณศักดิ์
