‘บอร์ด ก.ค.ศ.’ เห็นชอบเกณฑ์ย้ายผู้บริหารสถานศึกษา พร้อมอนุมัติย้าย-แต่งตั้งรอง ผอ.สพท. 15 ราย

‘บอร์ด ก.ค.ศ.’ เห็นชอบเกณฑ์ย้ายผู้บริหารสถานศึกษา เริ่มใช้ปี 2563 พร้อมอนุมัติย้าย-แต่งตั้งรอง ผอ.สพท. 15 ราย

เมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยว่าในการประชุมคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) เมื่อเร็วๆ นี้ ที่ประชุมเห็นชอบร่างหลักเกณฑ์และวิธีการย้ายผู้บริหารสถานศึกษา สังกัด ศธ. โดยสรุปได้ 3 กรณี คือ การย้ายกรณีปกติ การย้ายกรณีเพื่อประโยชน์ของทางราชการ และการย้ายกรณีพิเศษ และได้เห็นชอบให้ใช้หลักเกณฑ์นี้ สำหรับย้ายประจำปี 2563 เป็นต้นไป ซึ่งการกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการนี้ เพื่อให้การย้ายผู้บริหารสถานศึกษา เกิดความสอดคล้อง เหมาะสมกับแต่ละบริบท เป็นไปด้วยความเรียบร้อย เป็นผลดีแก่ราชการ และเป็นไปตามนโยบายของศธ. และเชื่อว่าหลักเกณฑ์การย้ายผู้บริหารสถานศึกษา จะช่วยลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาได้บ้าง โดยกระจายคนที่มีความสามารถออกไปยังพื้นที่ต่างๆ แม้จะมีคนกังวลว่าไม่อยากไปอยู่ในพื้นที่ห่างไกล แต่ตนอยากให้ผู้บริหารโรงเรียนมีโอกาสทำงานไม่ว่าจะอยู่ในโรงเรียนขนาดใดก็ตาม ต้องมีโอกาสเติบโต และแรงจูงใจต้องใกล้เคียงกัน น่าจะเป็นแนวทางที่ให้ประโยชน์กับการศึกษา

นายณัฏฐพล กล่าวต่อว่า ที่ประชุมได้อนุมัติการบรรจุและแต่งตั้งข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ผู้ได้รับคัดเลือกและผ่านการพัฒนาก่อนแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งรองผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (สพท.) รวมจำนวน 293 ราย แบ่งเป็น สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา (สพป.) จำนวน 241 ราย และสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา (สพม.) จำนวน 52 ราย และอนุมัติการบรรจุและแต่งตั้งผู้ที่ได้รับการคัดเลือกที่ดำรงตำแหน่งบุคลากรทางการศึกษาอื่น ตามพ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ.2547 ในมาตรา 38 ค(2) จำนวน 11 ราย แบ่งเป็น สพป. จำนวน 6 ราย และ สพม.จำนวน 5 ราย ทั้งนี้ ในการบรรจุและแต่งตั้งให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่ ก.ค.ศ. กำหนด

“ผมได้เน้นย้ำแนวทางการเข้าสู่ตำแหน่งรองผู้อำนวยการ สพท. ที่จะใช้ในการคัดเลือกรองผู้อำนวยการ สพท.กว่า 4,000 อัตรา ว่าจะต้องมีมาตรฐานอะไรบ้าง โดยเฉพาะการสอบในด้านต่างๆ ขอให้ สพฐ.และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ระบุวันที่ชัดเจน และหลังจากที่ผลการสอบออกมา ผมอยากให้มีเวลาเพิ่มขึ้นในการพิจารณาดูความเหมาะสมของแต่ละบุคคล เพราะกลัวว่าจะมีเวลาตัดสินใจน้อยที่จะวางแผนกระจายคนที่มีความสามารถไปทั่วประเทศ และภาษาอังกฤษของผู้ที่จะมาดำรงตำแหน่งจะต้องเข้มข้น เช่นเดียวกับทักษะด้านเทคโนโลยี ที่บุคลากรทุกคนต้องมี เพื่อยกระดับการทำงานของกระทรวง”นายณัฏฐพล กล่าว

รัฐมนตรีว่าการ ศธ. กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ที่ประชุมอนุมัติการย้ายและแต่งตั้งผู้ดำรงตำแหน่งรองผู้อำนวยการ(รองผอ.)สพท. สังกัด สพฐ. จำนวน 15 ราย ดังนี้ นายชัยนนท์ นิลพัฒน์ รองผอ.สพป.กาญจนบุรี เขต 4 เป็น รองผอ. สพป.กาญจนบุรี เขต 3 นายพิศิทธิ์ แพงศรีนิธิศ รองผอ.สพป.สมุทรสงคราม เป็นรองผอ.สพป.สมุทรสาคร นายชัยยุทธ อินฤทธิพงศ์ รองผอ.สพป.ปัตตานี เขต 3 เป็น รองผอ.สพป.พังงา นายดนัย เส้งสีแดง รองผอ.สพป.นราธิวาส เขต 3 เป็น รองผอ.สพป.นราธิวาส เขต 1 นางอุรารักษ์ สุขสวัสดิ์ รองผอ.สพม.เขต 6 เป็น รองผอ.สพป.ปทุมธานี เขต 2 นายประกอบกิตติ์ ปัสสวาท รองผอ.สพป.เชียงใหม่ เขต 2 เป็น รองผอ.สพป.เชียงใหม่ เขต 4 นายทองศรี โพธิ์ทอง รองผอ.สพป.ยโสธร เขต 2 เป็น รองผอ.สพป.อุบลราชธานี เขต 5 นายทวีสิทธิ์ มั่นจิต รองผอ.สพป.สุรินทร์ เขต 3 เป็น รองผอ.สพป.สุรินทร์ เขต 1

Advertisement

นายประสิทธิ์ เมืองไสย รองผอ.สพป.เชียงใหม่ เขต 4 เป็น รองผอ.สพป.เชียงใหม่ เขต 4 นายเสนอ แสนคำ รองผอ.สพป.ร้อยเอ็ด เขต 1 ช่วยปฏิบัติราชการ สพป.ร้อยเอ็ด เขต 2 เป็น รองผอ.สพป.ร้อยเอ็ด เขต 2 นายสุดสาคร เรืองวิเศษ รองผอ.สพป.ชัยภูมิ เขต 2 เป็น รองผอ.สพป.เขต 2 นายจีระศักดิ์ ภาระเวช รองผอ.สพป.ยโสธร เขต 2 เป็น รองผอ.สพป.ยโสธร เขต 2 นายนุกูล จันดารักษ์ รองผอ.สพป.อุบลราชธานี เขต 2 เป็นรองผอ.สพป.อุบลราชธานี เขต 2 นางจุรีรัตน์ คีรีรัตน์ รองผอ.สพป.ตรัง เขต 1 เป็น รองผอ.สพป.ตรัง เขต 1 และ นายศุภวัฒน์ อวะภาค รองผอ.สพป.สงขลา เขต 2 เป็น รองผอ.สพป.สงขลา เขต 2 ซึ่งรายที่ 9-15 ให้ไปดำรงตำแหน่งรองผอ.สพท. ซึ่งเป็นการย้ายตำแหน่งที่มีเงื่อนไขหรือรองผู้อำนวยการดอกจัน ไปดำรงตำแหน่งรองผอ.สพท.ซึ่งเป็นตำแหน่งโครงสร้าง

 

Advertisement

เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่เพิ่มเพื่อน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image